วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก (2)

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 12 ร่อบีอุ้ลเอาวัล 1431 (วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก (2)

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ



มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย
กระผมขอซูกูรในเนี้ยะมัตจากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ที่ทรงรักและเมตตาให้เราได้มาพบกันอีกครั้งในวันศุกร์นี้ ขอให้พวกเราจงยำเกรงต่อพระองค์และจงระลึกอยู่เสมอว่า วันหนึ่งข้างหน้าอีกไม่นานเกินรอนั้น เราจะต้องกลับไปยังพระองค์ แต่ในวันนี้ เราได้ใช้ทรัพยากรจากพระองค์ เราได้รับประโยชน์ต่างๆ มากมาย เราแสวงหาซึ่งความสุข ตามอารมณ์ ตามความพอใจขอเรา แล้วเราได้คิดบ้างหรือไม่ว่า สิ่งต่างๆที่เราได้รับมากมายเหล่านั้น เราจะตอบแทนในสิ่งนั้นๆ อย่างไร เพราะ ณ พระองค์ นั้น พระองค์ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากมัคลู้คของพระองค์นอกเสียจากความยำเกรงต่อพระองค์ รู้จักพระองค์ และกระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ซึ่งในที่สุดวันแห่งการตัดสิน เราจะได้ประจักษ์กับสิ่งที่เราได้ประพฤติปฏิบัติในวันนี้ เพราะมุสลิมทั้งหลาย เรามิได้สาระวนกับสิ่งที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน หากแต่เราต้องหมั่นทบทวนอดีต ประพฤติให้ถูกทางในปัจจุบัน เพื่อมุ่งผลแห่งอนาคต เมื่อเราต้องกลับไปยังพระองค์ แน่นอนว่า ผลของการกระทำของเราในปัจจุบัน จะเป็นตำตอบที่ดีที่สุดสำหรับเราในวันนั้น
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ทรัพย์สิน และลูกหลานของเรา คือสิ่งที่พระองค์ทรงใช้เป็นสิ่งทดสอบถึงการทำอิบาดัรของพวกเราภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องของความอดทน ความอดกลั้น ความเข้มแข็งในอิหม่าน ความศรัทธาในพระองค์ แบบทดสอบต่างๆ จากพระองค์ เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการทดสอบสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ จะเป็นเรื่องใหญ่ หรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ล้วนแล้ว เป็นตัววัดที่สำคัญทั้งสิ้น เรื่องต่างๆ ที่พระองค์ทรงทดสอบนั้น เพื่อหวังว่าคนที่ถูกทดสอบจะมีความเข้มแข็งต่อสภาวะที่กำลังประสบอยู่นั้น ในขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ที่มองดูการทดสอบจากพระองค์อยู่ ก็อยู่ในสภาพที่ต้องถูกทดสอบด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในเมื่อพระองค์ทรงต้องการอิหม่านศรัทธาจากมวลมนุษย์ทั้งหลายอยู่นั้น เราจึงต้องพร้อมที่จะถูกทดสอบด้วย ไม่ว่าเรื่องที่เราถูกทดสอบนั้น จะเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องที่ยิ่งใหญ่และมีความรุนแรงเพียงไร ผลจากสิ่งต่างๆ เหล่านั้น จึงอยู่ที่สิ่งที่เราได้สัมผัสนั้น เราแสดงออกอย่างไร ดังนั้น ขอให้เราทุกคนต้องมีความพร้อมอยู่เสมอสำหรับการทดสอบจากพระองค์ในทุกเรื่อง ทุกเวลา ทุกสภาวะ ดังเช่น ท่านศาสดามูฮำมัด (ซ.ล.) ได้ถูกทดสอบในสิ่งที่ยิ่งใหญ่จากพระองค์ นั่นคือ การเป็นเด็กกำพร้า ที่ต้องขาดทั้งพ่อและแม่ และได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากลุง ซึ่งเป็นพ่อค้า และมีลูกมากมาย สิ่งที่ท่านได้รับในวัยเด็ก คือ สภาพของเด็กที่ขาดที่พึ่งพิง ไม่มีใครเอาอกเอาใจเหมือนเยาวชนในปัจจุบัน ที่มีพ่อแม่คอยใจใส่อยู่เสมอ คอยตักเตือนในเรื่องต่างๆ ทั้งการเรียน และปัจจัยต่างๆ ชีวิตของท่านในวัยเด็ก ท่านถูกทดสอบจากพระองค์ในเรื่องนี้ แต่ท่านก็อดทนและพร้อมกับการทดสอบโดยไม่ย่อท้อหรือท้อแท้กับชีวิตและความเป็นอยู่ในช่วงนั้น ลุง ซึ่งเป็นผู้ปกครองของท่านมักจะให้ความรักและความปรารถนาดีแก่ท่านในเรื่องต่างๆ คอยปกป้อง หากมูฮำมัดในช่วงเยาว์วัยจะพานพบ แต่สิ่งนั้น คงเทียบไม่ได้กับการที่เด็กคนหนึ่งจะพึงได้รับจากพ่อและแม่ การใช้ชีวิตของท่านในช่วงนี้ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ท่านมีความอดทนต่อทุกภาวะที่บีบครั้นจิตใจ การตัดสินใจในเรื่องที่มีความสำคัญ และในการประกาศศาสนาของท่านภายใต้สภาวะที่ถูกต่อต้านจากชนที่ตั้งตนเป็นศัตรูของท่าน
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ชีวิตของเด็กหรือเยาวชนที่ต้องกลายมาเป็นเด็กกำพร้านั้น เป็นสภาวะทางจิตใจและจิตใต้สำนึกของพวกเขาที่ต้องขาดซึ่งผู้ที่จะเป็นแบบอย่างให้กับเขา ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ก็ดี อาจกล่าวได้ว่า ชีวิตครอบครัวหนึ่งที่มีพร้อมทั้งพ่อและแม่ นั้น ลูกๆ ที่ผ่านการอบรมเลี้ยงดูจากท่านทั้งสอง จะมีชีวิตที่สดใส ได้รับความรักความเอาใจใส่ อยากเรียกร้องสิ่งใดจากพ่อและแม่ ก็จะได้ตามใจปรารถนา แต่สำหรับเด็กๆ ที่ขาดความอบอุ่นในครอบครัว การที่จะแสวงหา หรือได้มาด้วยสิ่งที่มุ่งหวัง ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ซึ่งสังคมหรือสภาพแวดล้อมทางสังคมรอบตัวพวกเขาเหล่านั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญ ในเรื่องสิ่งแลกเปลี่ยนที่เขาได้มาในสิ่งนั้นๆ การแสวงหาความสุขของพวกเขา เหล่านั้น เขาจึงต้องใช้การแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยสำคัญ ดังนั้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ จึงเป็นตัววัดผลของการกระทำของพวกเขา และเป็นสิ่งที่จะติดตัวของเขาไปตลอด เพื่อเป็นประจักษ์พยานในการกระทำต่างๆ ของพวกเขา ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การขัดเกลาของผู้ปกครองของเด็กกำพร้านั้น จะเป็นปัจจัยที่จะชี้นำแนวทางปฏิบัติของเด็กๆ เหล่านั้น ในยามที่พวกเขาเติบโตในภายภาคหน้า ถ้าหากเขาได้รับการปฏิบัติและได้รับการทดแทนจากการขาดซึ่งพ่อ แม่ ของพวกเขา จะทำให้การดำเนินชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น ต่อไป ซึ่งเขาจะเป็นคนดีของสังคม หรือเป็นภาระของสังคม ก็อยู่ที่ การชี้นำแนวทางเหล่านี้ ซึ่งแม้ว่าเราจะอยู่ห่างจากพวกเขา แต่ในสังคมเดียวกันแล้ว เราจะทอดทิ้งให้เขาเป็นภาระของสังคมกระนั้นหรือ จากโองการอัลกุรอ่าน ที่ได้ยกมาในช่วงแรก นั้น ความว่า
093.001 وَالضُّحَى
093.001 By the Glorious Morning Light,
[93.1] ขอสาบานด้วยเวลาสาย
093.002 وَاللَّيْلِ إِذَا سَجَى
093.002 And by the Night when it is still,-
[93.2] และด้วยเวลากลางคืนเมื่อมันมืดและสงัดเงียบ
093.003 مَا وَدَّعَكَ رَبُّكَ وَمَا قَلَى
093.003 Thy Guardian-Lord hath not forsaken thee, nor is He displeased.
[93.3] พระเจ้าของเจ้ามิได้ทรงทอดทิ้งเจ้า และมิได้ทรงโกรธเคืองเจ้า
093.004 وَلَلآخِرَةُ خَيْرٌ لَكَ مِنَ الأولَى
093.004 And verily the Hereafter will be better for thee than the present.
[93.4] และแน่นอนเบื้องปลายเป็นการดียิ่งแก่เจ้ากว่าเบื้องต้น
093.005 وَلَسَوْفَ يُعْطِيكَ رَبُّكَ فَتَرْضَى
093.005 And soon will thy Guardian-Lord give thee (that wherewith) thou shalt be well-pleased.
[93.5] และความแน่นอนพระเจ้าของเจ้าจะให้แก่เจ้าจนกว่าจะพอใจ
093.006 أَلَمْ يَجِدْكَ يَتِيمًا فَآوَى
093.006 Did He not find thee an orphan and give thee shelter (and care)?
[93.6] พระองค์มิได้ทรงพบเจ้าเป็นกำพร้าแล้วทรงให้ที่พึ่งดอกหรือ?
093.007 وَوَجَدَكَ ضَالا فَهَدَى
093.007 And He found thee wandering, and He gave thee guidance.
[93.7] และทรงพบเจ้าระเหเร่ร่อน แล้วก็ทรงชี้แนะทาง (แก่เจ้า) ดอกหรือ ?
093.008 وَوَجَدَكَ عَائِلا فَأَغْنَى
093.008 And He found thee in need, and made thee independent.
[93.8] และทรงพบเจ้าเป็นผู้ขัดสน แล้วให้มั่งคั่ง (แก่) เจ้าดอกหรือ ?
093.009 فَأَمَّا الْيَتِيمَ فَلا تَقْهَرْ
093.009 Therefore, treat not the orphan with harshness,
[93.9] ดังนั้นส่วนเด็กกำพร้าเจ้าอย่าข่มขี่
093.010 وَأَمَّا السَّائِلَ فَلا تَنْهَرْ
093.010 Nor repulse the petitioner (unheard);
[93.10] และส่วนผู้เอ่ยขอนั้น เจ้าอย่าตวาดขับไล่
093.011 وَأَمَّا بِنِعْمَةِ رَبِّكَ فَحَدِّثْ
093.011 But the bounty of the Lord - rehearses and proclaim!
[93.11] และส่วนความโปรดปรานแห่งพระเจ้าของเจ้านั้น เจ้าจงแสดงออก

ชีวิตในช่วงเยาว์วัยของท่านศาสดา เป็นช่วงที่ท่านเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ในความอุปการะของลุง การขัดเกลาของลุงในเรื่องต่างๆ เป็นสิ่งหนึ่งที่ย้ำเตือนให้ท่านได้ใช้ชีวิต เฉกเช่นเด็กทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ท่านได้รับและเป็นสิ่งที่เราได้กล่าวถึงท่านในวันนี้ คือ ความเป็นมหาบุรุษของท่าน ก็ด้วยการขัดเกลาเหล่านี้ ท่านเป็นผู้นำ มิใช่ภาระของสังคม และการที่ท่านได้ประสบในช่วงเยาว์วัยของท่านนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ให้โองการแก่ท่านในอายะห์ที่ได้ยกมา จะเห็นว่า สภาพของเด็กกำพร้า เป็นสิ่งหนึ่งที่พระองค์ทดสอบ ทั้งตัวเด็กๆ เหล่านั้น และบุคคลอื่นๆในสังคม ที่จะคอยดูแล เอาใจใส่ต่อพวกเขา เสมือนหนึ่งว่า เด็กๆ เหล่านั้น คือ ตัวแทนที่ทำให้เราได้แง่คิดว่า การกระทำต่อพวกเขาเหล่านั้น เป็นสิ่งทดสอบต่อพวกเราว่า เรารักท่านศาสดามากน้อยเพียงใด ท่านศาสดามีวจนะกับผู้ใกล้ชิดตอนหนึ่งเกี่ยวกับการช่วยเหลือเด็กกำพร้าว่า จะอยู่ใกล้ชิดกับท่านในวันกิยามัต คือใกล้กันเสมือนนิ้วมือของคน นั้นคือ การกระทำต่อเด็กๆ เหล่านั้น เป็นการแสดงออกที่มองเห็นได้ว่า พวกเขาเหล่านั้น ได้รับความโปรดปราณจากพระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคม ต้องมองถึงความสำคัญในเรื่องนี้
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
มหาบุรุษแห่งโลก มิใช่เป็นคนที่มีความเพียบพร้อมทุกๆ อย่าง มิใช่คนที่มีทรัพย์สินมากมายมหาศาล จะเห็นได้ว่า คนที่ร่ำรวยที่สุด หากพระองค์จะเอาคืน เพียงชั่วพริบตา ทรัพย์สินมากมายมหาศาลเหล่านั้น ก็จะอันตธานหายไปเป็นของผู้อื่น หรือตกเป็นของแผ่นดิน หากแต่ การเป็นมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ก็ด้วยกระบวนการขัดเกลาในช่วงเยาว์วัย พวกเขาเหล่านั้นได้รับสิ่งใดเป็นตัวอย่าง กระบวนการต่างๆเหล่านั้นได้สร้างให้พวกเขาได้เห็นถึงความเข้มแข็ง ความอดทน และจริยธรรมที่ดีแก่พวกเขามากน้อยเพียงใด วันนี้พวกเขาถูกทดสอบในเรื่องหนึ่ง และเราทั้งหลายก็ถูกทดสอบในเรื่องเดียวกันนี้ เช่นกัน เพียงแต่ว่า พวกเขาประสบกับเรื่องนั้นโดยตรง แต่เราเป็นเพียงผู้ที่คอยดูอยู่ห่างๆ แต่ถ้าเราเพิกเฉยต่อพวกเขา แน่นอนในวันหน้า เมื่อพวกเขาเป็นภาระของสังคม เราย่อมได้รับผลกระทบในทางอ้อม หรือโดยตรง แต่ถ้าเราไม่เพิกเฉยต่อพวกเขา ให้โอกาสกับพวกเขา สนับสนุนในเรื่องที่ดีกับพวกเขา แน่นอนว่า เมื่อเขาเติบใหญ่แล้ว เขาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นคนดีของสังคม แล้ว เราซึ่งคอยดูแลพวกเขา แน่นอนความภูมิใจที่ได้รับ การแสดงความปรารถนาดีต่อพวกเขา นั่นคือชัยชนะของสังคม ไม่มีใครทราบได้ว่า เด็กๆ เหล่านั้น อาจได้เป็นมหาบุรุษในสังคมก็เป็นได้

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น