วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Social Network การสื่อสารสังคมชุมชนไร้พรมแดน


มิมบัรออนไลน์

คุตบะห์วันศุกร์ 29 ร่อบีอุ้ลเอาวัล 1432 (วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.. 2554)

Social Network การสื่อสารสังคมชุมชนไร้พรมแดน


الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

وَمِنْهُمْ مَنْ يَسْتَمِعُ إِلَيْكَ حَتَّى إِذَا خَرَجُوا مِنْ عِنْدِكَ قَالُوا لِلَّذِينَ أُوتُوا الْعِلْمَ مَاذَا قَالَ آنِفًا أُولَئِكَ الَّذِينَ طَبَعَ اللَّهُ عَلَى قُلُوبِهِمْ وَاتَّبَعُوا أَهْوَاءَهُمْ

وَالَّذِينَ اهْتَدَوْا زَادَهُمْ هُدًى وَآتَاهُمْ تَقْوَاهُمْ

فَهَلْ يَنْظُرُونَ إِلا السَّاعَةَ أَنْ تَأْتِيَهُمْ بَغْتَةً فَقَدْ جَاءَ أَشْرَاطُهَا فَأَنَّى لَهُمْ إِذَا جَاءَتْهُمْ ذِكْرَاهُمْ

فَاعْلَمْ أَنَّهُ لا إِلَهَ إِلا اللَّهُ وَاسْتَغْفِرْ لِذَنْبِكَ وَلِلْمُؤْمِنِينَ وَالْمُؤْمِنَاتِ وَاللَّهُ يَعْلَمُ مُتَقَلَّبَكُمْ وَمَثْوَاكُمْ


ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

ชีวิตของเราแต่ละคน หากพิจารณาตามกาลเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปแล้วนั้น ย่อมเปรียบเสมือนการเดินทางของชีวิต ที่ระยะเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป คล้ายกับกงล้อที่หมุนไปในเส้นทางที่มีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายที่เราแต่ละคนตั้งความหวังไว้ แต่จุดสิ้นสุดของการเดินทางของชีวิตของแต่ละคน นั้น ไม่เท่ากัน มีเป้าหมายปลายทางที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่ทุกๆ คนจะมีเหมือนกัน คือ ปลายทางของคน เป็นจุดจบที่เหมือนกัน นั่นคือความตาย และความตายที่แต่ละคนจะประสบนั้น มีสาเหตุที่แตกต่างกัน แต่มีความเหมือนกันคือ เป็นปลายทางสุดท้ายที่เราทั้งหลายไม่สามารถย้อนกลับมาปฏิบัติกิจกรรมใดๆ ได้อีก ภารกิจของแต่ละคนในยามนั้นสิ้นสุดลง แม้ว่าเขาจะยังทำภารกิจใดภารกิจหนึ่งยังไม่จบสิ้น แต่เขาเหล่านั้นไม่สามารถดำเนินภารกิจของเขาให้ลุล่วงไปดังที่ตั้งความหวังไว้ได้ นั่นคือความจริงที่แต่ละชีวิตย่อมหนีไม่พ้น หรือปฏิเสธความจริงดังกล่าวได้ จึงขอเตือนสติตนเองและท่านทั้งหลาย จงตระหนักและยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ให้มาก เพราะในความเป็นมนุษย์ของแต่ละคน ทุกคนย่อมต้องพบพานกับเรื่องราวต่างๆ มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทาย หรือเป็นเรื่องราวที่ถือเป็นการทดสอบจากพระองค์ แม้ว่าคนอื่นจะถูกทดสอบ แต่นั่นคือการทดสอบเรา ทั้งหลายว่าเรามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร เราตระหนัก หรือตั้งข้อสังเกตใดบ้างในเรื่องราวเหล่านั้น และหากเหตุการณ์เหล่านั้นจะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราแล้ว เราจะแก้ปัญหา หรือยอมรับเพื่อต่อสู้กับเหตุการณ์นั้นได้อย่างไร เพราะเวลานั้น แต่ละคนย่อมแสวงหาแนวทางที่เรามองเห็นแล้วว่าเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่ได้เลือกว่าเหมาะสมที่สุด ปลอดภัยที่สุด ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด และเขาเสียเปรียบน้อยที่สุด

ท่านทั้งหลาย

ในวันที่ 5 มีนาคม ที่จะถึงนี้ เป็นวันนักข่าว หรือวันแห่งสื่อสารมวลชน ถัดไปวันที่ 8 มีนาคม เป็นวันสตรีสากล ทั้งสองวันดังกล่าว คือเป้าหมายที่จะกล่าวถึงในคุตบะห์วันนี้ เพราะสังคมของเราถ้าจะมองมุมที่แคบที่สุด คือครอบครัวของเรา แต่หากมองกว้างออกไปแล้ว การที่เราได้ติดต่อสื่อสารกับใคร ก็จะถือเป็นสังคมของเราด้วย ซึ่งในวันนี้สังคมออนไลน์ เป็นอีกสังคมหนึ่งของมวลมนุษยชาติที่ใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกัน เป็นสื่อสารที่เราทั้งหลายบริโภคมันโดยที่เราไม่ได้มองหรือไม่สามารถระบุได้ว่าขณะที่เราใช้การสื่อสารดังกล่าวนั้น เรากำลังติดต่อหรือพูดคุยกับใครบ้าง ขณะเดียวกัน ช่องทางในการติดต่อสื่อสารดังกล่าว เป็นช่องทางที่แต่ละฝ่ายต่างมุ่งมั่นเพื่อที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดในการติดต่อระหว่างกัน เป็นประโยชน์ที่ทุกคนมุ่งมั่นและหวังว่าคนที่เรากำลังติดต่ออยู่นั้น เมื่อได้รับการสื่อสารจากเราไปแล้วเขาได้รับความพึงพอใจในอรรถประโยชน์ที่เขาได้รับหรือไม่ เป็นประโยชน์ที่เขาเหล่านั้นมุ่งหวังหรือเป็นประโยชน์ที่เคลือบแคลงแฝงเร้นไปด้วยมายาที่มุ่งเอารัดเอาเปรียบหรือแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเยาวชนทั้งชายและหญิงที่เข้าไปบริโภคสื่อสารต่างๆ เหล่านั้น ในแง่มุมที่เราทั้งหลายเป็นผู้ปกครอง ต้องยอมรับว่า บนโลกแห่งการสื่อสารที่ไร้พรมแดน มันจะมีประโยชน์อย่างมหาศาล หากเราจะพิจารณาถึง และในทางกลับกันมันย่อมมีโทษอย่างมหันต์หากเราจะตระหนักถึงเช่นกัน

บรรดาเยาวชนของพวกเรา ทุกวันนี้ ย่อมหลีกหนีการบริโภคข้อมูลข่าวสารต่างๆ จากสื่อสารไร้พรมแดนไม่ได้ แต่เขาเหล่านั้นต้องเข้าไปเสาะแสวงหาและเลือกที่จะบริโภคสื่อ และคัดเลือกในสิ่งที่เป็นประโยชน์ แต่ความจำกัดของเดียงสาของเด็กๆ เหล่านั้น มีความจำกัด บางครั้งเขามองความสวยงามที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเขาขณะนั้น แท้ที่จริงคือยาพิษที่หากเสพเข้าไปเด็กเหล่านั้นย่อมได้รับความเสียหายไปไม่มากก็น้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่เป็นสตรี ซึ่งเธอเหล่านั้นอยู่ในวัยที่สดใส เป็นผ้าขาวที่หากมีรอยเปื้อนใดๆ มาตกกระทบ มันมิได้สะท้อนออกไปทั้งหมด แต่รอยคราบ หรือรอยด่างย่อมเกิดขึ้นกับผ้าขาวที่สวยงามเหล่านั้น และบรรดาผู้ปกครองทั้งหลาย ย่อมต้องให้ความสนใจมองและเลือกสิ่งที่ดีสำหรับพวกเขา ขณะที่บรรดาผู้ปกครองย่อมต้องติดตามสอดส่องดูแลเอาใจใส่ต่อพวกเขาเหล่านั้นให้มาก หากผู้ปกครองไม่มีความรู้ที่จะใช้งานในสิ่งอันทันสมัยหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้ปกครองต้องเร่งรีบเข้าไปเรียนรู้ และสามารถให้ความช่วยเหลือ พินิจพิจารณา เลือกสรรสิ่งที่ดี ถูกต้องไม่ขัดกับขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของเรา

ท่านทั้งหลาย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกอาหรับ แต่ละประเทศในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากสื่อสารทางสังคมไร้พรมแดน (Social Network) หรือการเอาอย่างกันในทางสังคม จะเห็นว่าในประเทศจีนกำลังพิจารณาห้าม (Ban) การติดต่อสื่อสารใดๆ ที่ส่งผลกระทบทางวัฒนธรรม การเมืองการปกครองโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับกลุ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน (Face book) ที่มีเนื้อหาการจับกลุ่มพูดคุยในประเด็นทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อการบริหารกิจการบ้านเมือง รวมไปถึงการแทรกแซงการนำเสนอข่าวสาร เนื้อหา ที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงทางการเมืองในโลกอาหรับ เพราะผลแห่งการสื่อสารไร้พรมแดนที่เอง ย่อมส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมที่รุนแรงกับฝ่ายที่คุมอำนาจในปัจจุบัน

สิ่งที่เกิดขึ้น คือผลกระทบอันมหาศาลจากการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน แม้ดูเหมือนเล็กน้อย แต่สิ่งที่แฝงเร้นอยู่ในจิตใจของแต่ละคน คือ การปลูกฝังแนวคิดและอุดมการณ์ ที่ไม่สามารถจะสั่งสอนหรือกระทำให้เห็นเป็นพฤติกรรมได้ นั่นคือความน่าเกรงขามของการใช้สื่อสารมวลชนไร้พรมแดน เพื่อเปลี่ยนแปลงหรือจัดระเบียบใหม่ให้กับมวลมนุษยชาติ

ท่านทั้งหลาย

ช่วงเวลานี้เด็กๆ ในปกครองของเรากำลังออกจากโรงเรียน หยุดเรียน พักผ่อน แสวงหาความรู้ใหม่ หรือฝึกการทำงาน และใช้เวลาว่างภายหลังจากที่เขาเหล่านั้นใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการเรียนตามตารางที่ทางโรงเรียนหรือสถานศึกษาทั้งหลายจัดให้เขา แต่ในช่วงเวลานี้อีกประมาณ 2-3 เดือน เด็กๆ เหล่านี้มีเวลาอยู่กับผู้ปกครองมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับเรา เรียนรู้ในเรื่องราวต่างๆ จากเรา ดูเราเป็นตัวอย่าง เลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่ ทั้งกิริยา วาจา และความคิด จิตใจ ในสิ่งที่เราแสดงออกให้กับเขา แล้วปฏิบัติออกมาให้เราได้รับรู้ เป็นเสมือนการป้อนข้อมูลของเราแล้วเด็กๆ เหล่านั้นนำไปประมวลผลแล้วแสดงออกมา เราจะเห็นได้ว่า การแสดงออกของเด็กสะท้อนถึงการสั่งสอน การดูแลและความเอาใจใส่ของผู้ปกครอง หากผู้ปกครองใส่ใจ ถ่ายทอดเรื่องราวที่ดีงามให้กับเขา แน่นอนว่า เขาย่อมแสดงออกในทางที่ดี ตรงกันข้ามหากเรื่องราวที่เราป้อนข้อมูลให้กับเขา เป็นการถ่ายทอดความรุนแรง ความกักขฬะ ความหยาบคาย หรือเลินเล่อไม่ใส่ใจใยต่อเขา สิ่งที่เขาแสดงออกย่อมเป็นแนวทางที่ไม่น่าดูและจะถูกตำหนิจากสังคม สะท้อนออกมาให้เห็นว่า ผู้ปกครองเหล่านั้น ยังไม่ส่งเสริมคุณค่าและความดีงามให้กับเขา ดังนั้น เราทั้งหลาย จงพิจารณา ตรวจสอบตนเอง ตรวจสอบเด็กๆ ของเรา ใกล้ชิดกับพวกเขา ดูแลและจัดสรรเรื่องราวที่ดีงามพร้อมไปกับเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเขา ให้เขาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสะดวกทั้งในบ้านและนอกบ้าน

ท่านทั้งหลาย

การสื่อสารระหว่างกันไม่ว่าจะมาจากช่องทางใดก็ตาม สิ่งที่เหมือนกันคือ บรรดาผู้รับสารเหล่านั้นต้องมุ่งมั่นและเลือกที่จะบริโภคสื่อต่างๆ เหล่านั้นให้ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สติปัญญาในการไตร่ตรอง รวมถึงการใช้เหตุผลและวิจารณญาณที่จะเลือกบริโภคเรื่องราวเหล่านั้น เช่นเดียวกับในยุคของท่านศาสดา (ซ.ล.) การประกาศศาสนาของท่านมีทั้งผู้ที่เข้าใจเลื่อมใสศรัทธาในสิ่งที่ท่านนำมาประกาศ และมีบางกลุ่มที่มุ่งมั่นไม่เชื่อฟัง มุ่งทำลายล้าง และข่มเหงรังแก หรือประกาศสงครามตั้งตนเป็นศัตรู แม้ว่าในบางครั้งบางกลุ่มก็แสแสร้งยอมเป็นพวก แต่ในภายหลังกลับแสดงตนเป็นศัตรูปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงในบรรดาเรื่องราวที่ได้รับมาจากกลุ่มศรัทธาชนต่างๆ ทั้งๆ ที่เขาเองปิดหูปิดตา ปิดทุกอย่าง โดยที่ไม่ฉุกคิดหรือใช้ตรรกะอย่างสร้างสรรค์ในเรื่องราวของสารสาระของท่านศาสดานำมาเผยแผ่ยังเขาเหล่านั้น ขอให้พิจารณาโองการจาอัลกุรอ่านซูเราะห์มุฮัมมัด Al-Qur'an, 047.016-019 (Muhammad [Muhammad]) ความว่า

047.016 وَمِنْهُمْ مَنْ يَسْتَمِعُ إِلَيْكَ حَتَّى إِذَا خَرَجُوا مِنْ عِنْدِكَ قَالُوا لِلَّذِينَ أُوتُوا الْعِلْمَ مَاذَا قَالَ آنِفًا أُولَئِكَ الَّذِينَ طَبَعَ اللَّهُ عَلَى قُلُوبِهِمْ وَاتَّبَعُوا أَهْوَاءَهُمْ

047.016 And among them are men who listen to thee, but in the end, when they go out from thee, they say to those who have received Knowledge, "What is it he said just then?" Such are men whose hearts Allah has sealed, and who follow their own lusts.

16. ในหมู่พวกเขามีผู้เงี่ยหูฟังเจ้าจนกระทั่งเมื่อพวกเขาออกไปจากเจ้า พวกเขาก็จะพูดแก่ผู้มีความรู้ว่า เมื่อกี้นี้เขา (มุฮัมมัด) พูดอะไรกัน ชนเหล่านี้แหละคือบรรดาผู้ที่อัลลอฮ.ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกเขา (ในหมู่พวกมุนาฟิกีนมีผู้ฟังการแสดงคุตบะฮ.ของเจ้าเมื่อพวกเขาออกมาจากมัสยิดพวกเขาได้ถามอับดุลลอฮ.อิบนี่มัสอูดว่าเมื่อกี้นี้มุฮัมมัดพูดอะไร? พวกเขาหมายถึงว่าสิ่งที่ท่านร่อซูลศ็อลฯพูดนั้นไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด พวกเหล่านี้อัลลอฮ.ทรงประทับตาการเป็นกุฟรและการนิฟากบนหัวใจของพวกเขาสาเหตุเพราะพวกเขาไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องและยึดถืออารมณ์ต่ำเป็นที่ตั้ง)และพวกเขาปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของพวกเขา

047.017 وَالَّذِينَ اهْتَدَوْا زَادَهُمْ هُدًى وَآتَاهُمْ تَقْوَاهُمْ

047.017 But to those who receive Guidance, He increases the (light of) Guidance, and bestows on them their Piety and Restraint (from evil).

17. ส่วนผู้ที่ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง พระองค์ทรงเพิ่มแนวทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา และจะทรงประทานให้แก่พวกเขาซึ่งการยำเกรงของพวกเขา (ส่วนบรรดามุอ.มินผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีอัลลอฮ.ก็จะเพิ่มการฮิดายะฮ.ให้แก่พวกเขา และทรงดลใจให้แก่พวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขายำเกรง คือพวกเขากลัวต่อความกริ้วของอัลลอฮ.เช่นการชิริกและการฝ่าฝืน)

047.018 فَهَلْ يَنْظُرُونَ إِلا السَّاعَةَ أَنْ تَأْتِيَهُمْ بَغْتَةً فَقَدْ جَاءَ أَشْرَاطُهَا فَأَنَّى لَهُمْ إِذَا جَاءَتْهُمْ ذِكْرَاهُمْ

047.018 Do they then only wait for the Hour,- that it should come on them of a sudden? But already have come some tokens thereof, and when it (actually) is on them, how can they benefit then by their admonition?

18. ดังนั้น พวกเขามิได้คอยสิ่งใดนอกจากยามอวสานซึ่งมันจะมาหาพวกเขาอย่างกระทันหัน แต่ว่าเครื่องหมายต่าง ๆ ของมันได้มีมาแล้ว ดังนั้น เมื่อการตักเตือนของพวกเขาได้มายังพวกเขาแล้วจะเกิดประโยชน์อันใดเล่าแก่พวกเขา? (บรรดาหัวหน้ากุฟฟารกุเรชในมักกะฮ.มิได้คอยสิ่งใดนอกจากยามอวสานคือวันกิยามะฮ.ที่จะมายังพวกเขาอย่างกระทันหันเครื่องหมายต่าง ๆ แห่งวันกิยามะฮ. ได้มีมาแล้ว เช่น การเป็นร่อซูลของมุฮัมมัด ศ็อลฯ ควันไฟ และการแยกของดวงจันทร์ ดังนั้นการขอลุแก่โทษจะไม่เกิดประโยชน์อันใดแก่พวกเขา ในเมื่อการตักเตือนและเครื่องหมายต่าง ๆ ได้มายังพวกเขาแล้ว)

047.019 فَاعْلَمْ أَنَّهُ لا إِلَهَ إِلا اللَّهُ وَاسْتَغْفِرْ لِذَنْبِكَ وَلِلْمُؤْمِنِينَ وَالْمُؤْمِنَاتِ وَاللَّهُ يَعْلَمُ مُتَقَلَّبَكُمْ وَمَثْوَاكُمْ

047.019 Know, therefore, that there is no god but Allah, and ask forgiveness for thy fault, and for the men and women who believe: for Allah knows how ye move about and how ye dwell in your homes.

19. ฉะนั้นพึงรู้เถิดว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ. และจงขออภัยโทษต่อความผิดเพื่อตัวเจ้าและเพื่อบรรดาผู้ศรัทธาหญิง และอัลลอฮ.ทรงรู้ดียิ่งถึงพฤติการณ์ของพวกเจ้าและที่พำนักของพวกเจ้า (ด้วยเหตุดังกล่าวพึงรู้เถิดว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ. และจงขออภัยโทษต่อความผิดของพวกเจ้าหน้าที่เป็นนุอ.มินชาย และมุอ.มินหญิง เพราะอัลลอฮ.ทรงรู้ดีถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ของพวกเจ้าทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน)

ท่านทั้งหลาย

การสื่อสารที่ดีที่สุด คือการสื่อสารของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) เป็นการสื่อสารทางช่องทางที่เที่ยงตรง ไร้การเติมแต่งสีสัน และการโน้มเอียงตามทัศนคติของผู้ส่งสาร แต่ขณะเดียวกันผู้ที่รับสาร คือบรรดามวลมุสลิมและผู้ปฏิเสธศรัทธา ต่างใช้แนวคิดของตนเอง ใช้เหตุผลของตนเอง รวมไปถึงใช้อารมณ์ความเชื่อส่วนตนที่ฝังลึกมาอย่างช้านาน ซึ่งชนเหล่านั้นใช้ความคิดของตน ไม่ยอมรับสิ่งที่ท่านศาสดาสื่อมายังพวกเขา แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการบริโภคสื่อในปัจจุบัน ที่การสื่อสารมีช่องทางไร้พรมแดนไร้ขีดจำกัด แต่เนื้อหาที่มาจากสื่อเหล่านั้น เราต้องพิจารณาอย่างถ่องแท้ว่า สื่อสารเหล่านั้นถูกแต่งแต้มต่อเติม และเคลือบแคลงสิ่งใดโดยมีวัตถุประสงค์อย่างไรกับผู้บริโภคสื่อสารเหล่านั้น สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมากที่สุด คือ บรรดาเยาวชนทั้งชายและหญิงที่อยู่ในปกครองของเรา ต่อการบริโภคเรื่องราวดังกล่าวเหล่านั้น เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร เด็กๆ เปรียบเหมือนเป็นตุ๊กตาหรือหุ่นกระบอกที่ผู้ปกครองต้องปกป้องและกระตุกเตือนให้เขาได้เห็นถึงสิ่งที่แฝงเร้นที่หลบอยู่ในนั้น ผู้ปกครองควรสกัดเอาแต่เฉพาะสารประโยชน์ จากสื่อสารเหล่านั้น และประโยชน์จากบรรดาเนื้อหาที่ทำให้เกิดการพัฒนาความคิดอย่างสร้างสรรค์ การเลือกที่จะใช้สื่ออย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุดในช่วงเวลายามว่างของพวกเขา หาใช่การที่เราจะปล่อยปละละเลย เมินเฉย ในเนื้อหาสาระต่างๆ เพียงการใช้เวลาหรือทำเพียงการฆ่าเวลาให้หมดไป โดยที่สิ่งที่เลวร้ายจะมาย่างกรายในสังคม ครอบครัวของเราโดยที่เราคาดไม่ถึง ขอให้พิจารณาอัลฮาดีส ต่อไปนี้

Allah's Apostle (peace be upon him) said: Strange are the ways of a believer for there is good in every affair of his and this is not the case with anyone else except in the case of a believer for if he has an occasion to feel delight, he thanks (God), thus there is a good for him in it, and if he gets into trouble and shown resignation (and endures it patiently), there is a good for him in it.

Narrated by: Suhayb ibn Sinan ar-Rumi Source : Sahih Muslim 7138

ในบรรดาสิ่งทั้งหลาย มีทั้งสิ่งที่ดีงาม และสิ่งที่เป็นความเลวร้าย ซึ่งหนทางทั้งหลายมีเป้าหมายหลายๆ อย่างที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือกรับหรือยอมรับในเรื่องนั้นอย่างไร เราสามารถเลือกได้ทั้งทางด้านการยอมรับหรือปฏิเสธในเรื่องราวเหล่านั้น เพื่อให้ได้รับในสิ่งที่ดีงามจากเรื่องราวเหล่านั้น เช่นกัน ในสังคมชุมชนไร้พรมแดน ที่เข้ามายังครอบครัวของเราในเวลานี้ ผู้ปกครองอย่าได้ละเลย เมินเฉยต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เราควรที่จะหาทางคุ้มครองป้องกันเด็กๆ ในปกครองของเรารู้จักที่จะบริโภคสื่อเหล่านั้นอย่างสร้างสรรค์ เลือกที่จะใช้งานอย่างเหมาะสม และผู้ปกครองเองต้องตามเขาเหล่านั้นให้ทัน เรียนรู้ไปพร้อมกับเขา ป้องกันและเลือกสรรสิ่งที่ดีให้เขา เพื่อที่เขาเหล่านั้นจะได้เป็นเยาวชนที่ดีของสังคมในอนาคตต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ปกครองสามารถที่จะให้มรดกที่ดีงามสำหรับเขานอกเหนือจากมรดกที่เป็นทรัพย์สิน เพราะทรัพย์สินที่เราจะให้กับเขาเหล่านั้น วันหนึ่งข้างหน้ามันย่อมหมดลง แต่มรดกทางสติปัญญาหรือความคิดนั้น ใช้ไปแล้วไม่มีวันหมดสิ้น หากแต่มันจะงอกเงยออกมาตามความประสงค์ของเจ้าของของมัน ซึ่งความคิดของคนนั้น มีความหลากหลาย ตามแต่เขาเหล่านั้นจะจำแนกออกมาได้อย่างไรบ้าง แต่หากสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องราวที่ดีงามแล้ว แน่นอนว่าประโยชน์ย่อมตกกับเจ้าของของมัน แต่หากเป็นโทษแล้ว ความร้ายแรงแห่งโทษนั้นมีมหาศาล ดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่พัฒนาจากชุมชนออนไลน์แล้วแพร่ไปอย่างไม่มีการสกัดกั้นในประเทศต่างๆ อย่างเป็นทวีคูณ ไม่มีที่สิ้นสุด ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละภาคส่วนจะต่อสู้ ป้องกันกับสิ่งเหล่านั้นได้ทันท่วงทีหรือไม่ ขอให้แต่ละคนใช้วิจารณญาณและสติปัญญาในการไตร่ตรองและแยกแยะเพื่อให้ได้หนทางที่เหมาะสม และได้รับแนวทางที่ไม่ออกห่างจากแนวทางที่เที่ยงตรง ถูกต้อง ในกรอบแนวคิดที่สังคมยอมรับและอยู่ในแนวทางแห่งผู้ที่ยำเกรง


إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا

رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ

إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ

وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ

وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์

วัสสลาม

มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง

อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย http://www.alquran-thai.com/ShowSurah.asp , www.DivineIslam.com

อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com www.beconvinced.com

จงรักษาเวลาด้วยความอดทน

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 13 ซุ้ลฮิจญะห์ 1431 (วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553)

จงรักษาเวลาด้วยความอดทน

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
وَالْعَصْرِ
إِنَّ الإنْسَانَ لَفِي خُسْرٍ
إِلا الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ وَتَوَاصَوْا بِالْحَقِّ وَتَوَاصَوْا بِالصَّبْرِ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอชุกูร ขอบคุณในความเมตตาของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ที่ให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและได้ใช้ทรัพยากรต่างๆอย่างเต็มกำลังเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงขอย้ำเตือนตนเองและท่านทั้งหลายจงยำเกรงต่อพระองค์ให้มาก และจงพิจารณาถึงพระราชอำนาจของพระองค์ ความเมตตาของพระองค์ คำบัญชาใช้และห้ามของพระองค์ต่อมวลประชาชาติทั้งหลาย ซึ่งพระองค์ให้เราได้มีสติปัญญาเพื่อแยกแยะเรื่องราวต่างๆ ตามที่พระองค์ได้จำแนกไว้แล้ว ดังนั้นจึงขอให้เราเร่งรัดตนเองในแนวทางอันเที่ยงตรงที่พระองค์ได้กำหนดไว้ เราได้ใช้สรรพสิ่งของพระองค์โดยที่เราไม่ได้วินิจวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เราได้ใช้ไปนั้นเราใช้อย่างไรและเกิดประโยชน์ใดบ้างหรือเราใช้โดยที่ไม่ได้พินิจพิจารณาถึงคุณค่าของมัน ประโยชน์ที่เราพึงจะได้รับ และที่สำคัญคือในบางครั้งเราละทิ้งสิ่งที่มีค่าโดยที่เราละเลยหรือเมินเฉยต่อคุณค่าที่ดีของมัน
ท่านทั้งหลาย
เวลาคือสิ่งที่มีค่าสิ่งหนึ่งที่เรามักจะละเลย บางครั้งเราใช้เวลาอย่างฟุ่มเฟือย ใช้เวลาโดยไม่พิจารณาถึงคุณค่าของมัน เวลาที่ถูกกำหนดไว้ในแต่ละวันทุกๆ คน มีเท่ากัน แต่มีบางคนรู้จักใช้เวลา แต่บางคนใช้เวลาอย่างฟุ่มเฟือย ดังนั้น ขอให้พิจารณาโองการจากอัลกุรอ่าน Al-Qur'an, 103.001-003 (Al-Asr [The Declining Day, Eventide, The Epoch]) ความว่า
103.001 وَالْعَصْرِ
103.001 By (the Token of) Time (through the ages),
[103.1] ขอสาบานด้วยกาลเวลา
103.002 إِنَّ الإنْسَانَ لَفِي خُسْرٍ
103.002 Verily Man is in loss,
[103.2] แท้จริง มนุษย์นั้น อยู่ในการขาดทุน
103.003 إِلا الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ وَتَوَاصَوْا بِالْحَقِّ وَتَوَاصَوْا بِالصَّبْرِ
103.003 Except such as have Faith, and do righteous deeds, and (join together) in the mutual teaching of Truth, and of Patience and Constancy.
[103.3] นอกจากบรรดาผู้ศรัทธา และกระทำความดีทั้งหลาย และตักเตือนกันและกันในสิ่งที่เป็นสัจธรรม และ
ตักเตือนกันและกัน ให้มีความอดทน
ท่านทั้งหลาย
เราจึงควรพิจารณาถึงการใช้เวลาอย่างเหมาะสม เรามีข้อกำหนด กฎเกณฑ์ ต่างที่จะใช้เวลาในแต่ละกิจกรรมตามความเหมาะสม ขณะเดียวกันเราจึงขอให้เวลาเพื่อกระทำกิจวัตรเพื่อสนองตอบพระบัญชาของพระองค์ และรักษาคุณค่าของเวลาเอาไว้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของผู้ที่ขาดทุน และเราจงอดทนและรักษาเวลาในกิจกรรมของพระองค์อย่างเหมาะสมและสร้างเสริมคุณค่าของเวลาให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
บทความเรื่อง “การทำฮัจญ์ครั้งสุดท้ายของท่านศาสดา” จากเวปไซด์ www.muslimthai.com ปี พ.ศ. 2543
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย http://www.alquran-thai.com/
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com www.beconvinced.com

มิมบัรออนไลน์



คุตบะห์วันศุกร์ 30  มุฮัรรอม 1434  (วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555)

แม้ว่าอากาศแปรปรวนก็ขอจงมีจิตใจที่หนักแน่น



الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

أَوْ كَصَيِّبٍ مِنَ السَّمَاءِ فِيهِ ظُلُمَاتٌ وَرَعْدٌ وَبَرْقٌ يَجْعَلُونَ أَصَابِعَهُمْ فِي آذَانِهِمْ مِنَ الصَّوَاعِقِ حَذَرَ الْمَوْتِ وَاللَّهُ مُحِيطٌ بِالْكَافِرِينَ

يَكَادُ الْبَرْقُ يَخْطَفُ أَبْصَارَهُمْ كُلَّمَا أَضَاءَ لَهُمْ مَشَوْا فِيهِ وَإِذَا أَظْلَمَ عَلَيْهِمْ قَامُوا وَلَوْ شَاءَ اللَّهُ لَذَهَبَ بِسَمْعِهِمْ وَأَبْصَارِهِمْ إِنَّ اللَّهَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ

يَا أَيُّهَا النَّاسُ اعْبُدُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُمْ وَالَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ



ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

จงแสดงออกถึงความยำเกรงต่อพระองค์ให้มากที่สุด จงตระหนักและระวังตนเองหากมีเหตุการณ์ใดๆ ที่อาจส่งผลให้จิตใจของเราอ่อนไหว สั่นคลอน และโน้มตนเองไปสู่หนทางแห่งการเอนเอียงทางด้านการศรัทธา เพราะนั่นคือสิ่งที่บั่นทอนและทำให้เราออกห่างไกลจากแนวทางอันเที่ยงตรงและใกล้ชิดกับพระองค์

หากเราพิจารณาสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวนอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นเหตุการณ์ที่หลายๆ สำนักต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นอาเพศและเป็นสิ่งบอกเหตุถึงความเลวร้าย การถูกทำลายจากภัยธรรมชาติ หรือหากมองถึงความเห็นของชนกลุ่มหนึ่งกลับมองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะสะท้อนและบ่งบอกถึงภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 (12122012) แต่ในแนวทางคำสอนของอิสลามที่ท่านศาสดามูฮำมัด (ซ.ล.) ได้รับวะยูฮ์จากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) แล้ว เหตุการณ์ในวันกิยามัตจะเกิดขึ้น จะมีสัญญาณทั้งสัญญาณใหญ่และสัญญาณเล็ก ปรากฏขึ้น เป็นสัญญาณเตือนภัยที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่จะอุบัติขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านศาสดาไม่ได้ระบุไว้ คือ กำหนดเวลาที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นๆ เมื่อใด แต่สิ่งที่แน่นอน คือ เหตุการณ์ในวันกิยามัตนั้น จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ท่านทั้งหลาย

มนุษย์ มีความเคลื่อนไหวปอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งความคิด จิตใจ การกระทำ ที่แสดงออกมาทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ รวมถึงการแสดงออกทางพฤติกรรม จะเห็นว่า ผลประโยชน์ของมนุษย์ คือตัวกำหนดที่สำคัญในการแสดงออก หากเมื่อใดที่มนุษย์ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด แน่นอนว่าพฤติกรรมที่แสดงออกจะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจของเขา การกระทำของเขา ซึ่งเขาจะอ่อนโยนหรือแข็งกระด้างต่อผู้หนึ่งผู้ใด และเขาจะให้หรือจะยอมฟังผู้อื่นหรือไม่ ก็ด้วยจิตใจของเขาในขณะนั้น แต่เมื่อใดที่เขาได้รับประโยชน์นั้นในปริมาณที่ลดน้อยลง หรือไม่ไดรับผลประโยชน์ใดๆ ความไม่เพียงพอในจิตใจของเขา ก็จะแสดงออกถึง ความกริ้วโกรธ ความไม่พึงพอใจในสิ่งต่างๆ การเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้อื่นที่ได้รับผลประโยชน์นั้นๆ โดยที่เขาไม่ย้อนกลับมาพิจารณาตนเองเลยว่า เขาควรแสดงออกอย่างไร เมื่อได้รับหรือไม่ได้รับผลประโยชน์ต่างๆ เหล่านั้น และเขาได้แสดงออกถึงความยำเกรงต่อพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลกแล้วหรือยัง การแสดงออกถึงความยำเกรงอย่างยิ่งนั้น คือ บทบาทของผู้ที่น้อมรับและเกรงกลัวต่อความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เป็นความเกรงกลัวที่สะท้อนให้เห็นถึงการมอบหมายชีวิต การมอบหมายอิบาดัร และการมอบหมายในทรัพย์สินและปัจจัยยังชีพต่างๆ ที่พระองค์ทรงตอบรับและจัดสรรด้วยความเมตตากรุณาปราณีต่อเขาเหล่านั้น หาใช่ว่ามวลมนุษย์ พึงแสดงออกถึงความขอบคุณเมื่อได้รับประโยชน์ หากแต่รู้สึกเฉยๆ เมื่อไม่ได้รับ หรือได้รับน้อยลง แน่นอนว่าทุกๆ ริสกีของพระองค์ นั้น คือการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบอันน้อยนิดหรือเป็นการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ ก็ตาม สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราพึงตระหนักให้มากยิ่ง

ท่านทั้งหลาย

ยามใดที่อากาศแปรปรวน หรือเกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นก็ตาม แนวทางของท่านศาสดาที่แสดงออกต่อเรื่องราวต่างๆ นั้น คือการนิ่งเฉย อดทนต่อปรากฏการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งแสดงออกถึงความอดทนในเรื่องราวนั้นๆ เพราะนั่นคือการทดสอบจากพระองค์ เพื่อเตือนตนเองว่า สิ่งที่บกพร่อง สิ่งที่ยังขาดหรือมองข้ามไปนั้น เราคิดทบทวนบ้างหรือไม่ หาแนวทางแก้ไข ด้วยความยำกรงในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่แสดงออกถึงความท้าทาย ความเห็นที่ปราศจากแนวทางอันเที่ยงตรง เพราะทุกๆ ภัยพิบัติ (บาลา) นั้น มีริสกีแฝงเร้นไว้ การทดสอบจากพระองค์ จะมีรางวัลอันยิ่งใหญ่อยู่เสมอ ขอเพียงเราทั้งหลาย อย่าได้บิดพลิ้ว หรือแสดงออกเฉกเช่นเดียวกับชนผู้ปฏิเสธต่อหลักการของพระองค์ ขอให้พิจารณาโองการ 3 โองการจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน Al-Qur'an, 002.019-021 (Al-Baqara [The Cow]) ความว่า

002.019 أَوْ كَصَيِّبٍ مِنَ السَّمَاءِ فِيهِ ظُلُمَاتٌ وَرَعْدٌ وَبَرْقٌ يَجْعَلُونَ أَصَابِعَهُمْ فِي آذَانِهِمْ مِنَ الصَّوَاعِقِ حَذَرَ الْمَوْتِ وَاللَّهُ مُحِيطٌ بِالْكَافِرِينَ

002.019 Or (another similitude) is that of a rain-laden cloud from the sky: In it are zones of darkness, and thunder and lightning: They press their fingers in their ears to keep out the stunning thunder-clap, the while they are in terror of death. But Allah is ever round the rejecters of Faith!

19. หรือดังฝนที่หลั่งลงมาจากฟากฟ้า โดยที่ในฝนนั้นมีทั้งบรรดาความมืด ฟ้าคำรน และฟ้าแลบ พวกเขาจึงเอานิ้วมือของพวกเขาอุดหูไว้ เนื่องจากฟ้าผ่า ทั้งนี้เพราะกลัวความตาย (ตามธรรมดาสำหรับผู้มีปัญญานั้น เมื่อกลัวฟ้าผ่า ก็จะต้องหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากสิ่งที่เป็นสื่อไฟฟ้าเสีย จึงจะได้รับความปลอดภัย ไม่ใช่เอานิ้วมืออุดหู เพื่อไม่ให้ได้ยินเสียฟ้าผ่า แล้วฟ้าก็จะไม่ผ่า อันเป็นการกระทำของผู้ที่ขาดปัญญา ในทำนองเดียวกัน พวกมุนาฟิกที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่ยอมฟัง อัล-กรุอาน และคำแนะนำของท่านนะบีนั้น ก็ใช่ว่าจะพ้นการลงโทษของอัลลอฮฺได้ เพียงแต่แก้ตัวว่าไม่เคยได้ยินโองการของอัลลอฮฺและคำแนะนำของท่านนะบีเท่านั้น)และอัลลอฮฺนั้นทรงล้อม(เป็นการแจ้งให้ทราบว่าพวกเขาไม่สามารถจะหนีให้พ้นไปได้ เพราะประหนึ่งพวกเขาถูกล้อมไว้แล้ว) พวกปฏิเสธการศรัทธาเหล่านั้นไว้แล้ว

002.020 يَكَادُ الْبَرْقُ يَخْطَفُ أَبْصَارَهُمْ كُلَّمَا أَضَاءَ لَهُمْ مَشَوْا فِيهِ وَإِذَا أَظْلَمَ عَلَيْهِمْ قَامُوا وَلَوْ شَاءَ اللَّهُ لَذَهَبَ بِسَمْعِهِمْ وَأَبْصَارِهِمْ إِنَّ اللَّهَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ

002.020 The lightning all but snatches away their sight; every time the light (Helps) them, they walk therein, and when the darkness grows on them, they stand still. And if Allah willed, He could take away their faculty of hearing and seeing; for Allah hath power over all things.

20. สายฟ้าแลบแทบจะเฉี่ยวสายตาของพวกเขาไป (อัลลอฮฺทรงเปรียบเทียบว่า ความชัดเจของอัล-กรุอานนั้นให้ความเจิดจ้าประดุจสายฟ้าแลบที่แทบจะเฉี่ยวสายตาของพวกเขาไป) คราใดที่มันให้แสงสว่างแก่พวกเขา พวกเขาก็เดินไปในแสงสว่างนั้น(ทรงเทียบว่า เมื่ออัล-กรุอานได้ให้ความเข้าใจแก่พวกเขา ในสิ่งที่พวกเขายังมืดมนอยู่ (อันเปรียบเสมือนแสงฟ้าแลบที่ให้ความสว่างแก่พวกเขา) พวกเขาก็ปฏิบัติตาม (อันเปรียบเสมือนพวกที่ยืนอยู่กับที่) และเมื่อมันมืดลงแก่พวกเขา พวกเขาก็หยุดยืน แลหากอัลลอฮฺทรงประสงค์แล้ว (ถ้าอัลลอฮฺทรงประสงค์จะลงโทษพวกเขา พระองค์ก็ทรงให้ตาของพวกเขาบอดไปแล้ว เพราะมีตาก็เหมือนไม่มี เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองแต่อย่างใด) แท่นอนก็ทรงนำเอาหูและตาของพวกเขาไปแล้ว แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

002.021 يَا أَيُّهَا النَّاسُ اعْبُدُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُمْ وَالَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ

002.021 O ye people! Adore your Guardian-Lord, who created you and those who came before you, that ye may have the chance to learn righteousness;

21. มนุษย์เอ๋ย! จงเคารพอิบาดะฮฺ (การให้เอกภาพแเด่อัลลอฮฺด้วยความนอบน้อมถ่อมตน และจงรักภักดีต่อประองค์) พระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้าที่ทรงบังเกิดพวกเจ้า และบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเจ้าเถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะทรงยำเกรง

ขอให้เราทั้งหลายพึงตระหนัก และปรับปรุงตนเองให้ได้ใกล้ชิดต่อพระองค์ และดูแลทุกๆ คนในปกครองให้อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรง ขอฝากอัลฮาดีส ความว่า

A man from among those who were before you was called to account. Nothing in the way of good was found for him except that he used to have dealings with people and, being well-to-do, he would order his servants to let off the man in straitened circumstances [from repaying his debt]. He (the Prophet p.b.u.h) said that Allah said: We are worthier than you of that (of being so generous). Let him off. Source : Hadith Qudsi 12

ทางที่ดีงามที่สุด คือหนทางที่เรานั้นประพฤติปฎิบัติตนในแบบฉบับของท่านศาสดาและแนวทางตามคำสอนของอัลกุรอ่าน อย่าได้ปล่อยจิตใจของเราออกห่างไกล แท้จริงนั้น เราควรจดจำวิธีปฏิบัติและการแสดงออกในหนทางที่ดีงามเฉกเช่นการปฏิบัติตนของท่านศาสดา (ซ.ล.)



إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا

رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ

إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ

وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ

وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์

วัสสลาม

มูฮำหมัด สันประเสริฐ

ทุกๆ ความดีงามและความประเสริฐ จากมิมบัรออนไลน์นี้


ข้าพเจ้า ขอต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงตอบรับดุอาร์ และขอให้คุณแม่ของผมได้มีส่วนร่วมในผลงานนี้ด้วย

และขอต่อพระองค์ทรงตอบรับดุอาร์และให้อภัยโทษต่อคุณแม่ของผม ด้วยเทอญ

อามีน


อ้างอิง

อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย http://www.alquran-thai.com/ShowSurah.asp , www.DivineIslam.com

อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com www.beconvinced.com