วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คุตบะห์ นิกาห์

มิมบัรออนไลน์


คุตบะห์นิกาห์ วันเสาร์ 6 เซาววาล 1426 (วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547)



คุตบะห์ นิกาห์



เนื่องในงานวะลีมะห์ ระหว่าง คุณ …………………………. บุตร …………………………

กับ คุณ …………………………. บุตร …………………………



الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ



ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาซึ่งยึดมั่นอยู่ในความตักวายำเกรงต่อเอกองค์อัลลอฮ์ทั้งหลาย

มนุษย์แต่ละคนมีจุดเริ่มต้นที่คล้ายๆ กัน นั่นคือกำเนิดมาจากความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เป็นเพศตรงข้ามกันหล่อหลอมให้กำเนิดชีวิตน้อยๆ มาจากการปฏิสนธิของเชื้ออสุจิจากฝ่ายชายและเซลล์ไข่จากรังไข่ของฝ่ายหญิง และเริ่มต้นเป็นชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง และสิ้นสุดเมื่อเขาตายลง นั่นคือสัจธรรมที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงกำหนดแนวทางเอาไว้ ดังโองการจากซูเราะห์อัลฮัจย์ Al-Qur'an, 022.005 (Al-Hajj [The Pilgrimage]) พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงมีโองการไว้ความว่า



022.005 يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنْ كُنْتُمْ فِي رَيْبٍ مِنَ الْبَعْثِ فَإِنَّا خَلَقْنَاكُمْ مِنْ تُرَابٍ ثُمَّ مِنْ نُطْفَةٍ ثُمَّ مِنْ عَلَقَةٍ ثُمَّ مِنْ مُضْغَةٍ مُخَلَّقَةٍ وَغَيْرِ مُخَلَّقَةٍ لِنُبَيِّنَ لَكُمْ وَنُقِرُّ فِي الأرْحَامِ مَا نَشَاءُ إِلَى أَجَلٍ مُسَمًّى ثُمَّ نُخْرِجُكُمْ طِفْلا ثُمَّ لِتَبْلُغُوا أَشُدَّكُمْ وَمِنْكُمْ مَنْ يُتَوَفَّى وَمِنْكُمْ مَنْ يُرَدُّ إِلَى أَرْذَلِ الْعُمُرِ لِكَيْلا يَعْلَمَ مِنْ بَعْدِ عِلْمٍ شَيْئًا وَتَرَى الأرْضَ هَامِدَةً فَإِذَا أَنْزَلْنَا عَلَيْهَا الْمَاءَ اهْتَزَّتْ وَرَبَتْ وَأَنْبَتَتْ مِنْ كُلِّ زَوْجٍ بَهِيجٍ



022.005 O mankind! if ye have a doubt about the Resurrection, (consider) that We created you out of dust, then out of sperm, then out of a leech-like clot, then out of a morsel of flesh, partly formed and partly unformed, in order that We may manifest (our power) to you; and We cause whom We will to rest in the wombs for an appointed term, then do We bring you out as babes, then (foster you) that ye may reach your age of full strength; and some of you are called to die, and some are sent back to the feeblest old age, so that they know nothing after having known (much), and (further), thou seest the earth barren and lifeless, but when We pour down rain on it, it is stirred (to life), it swells, and it puts forth every kind of beautiful growth (in pairs).



[22.5] โอ้ มนุษย์เอ๋ย ! หากพวกเจ้ายังอยู่ในการสงสัยแคลงใจเกี่ยวกับการฟื้นคืนชีพแล้วไซร้ แท้จริงเราได้บังเกิดพวกเจ้าจากดิน แล้วจากเชื้ออสุจิ แล้วจากก้อนเนื้อ ทั้งที่เป็นรูปร่างที่สมบูรณ์ และไม่เป็นรูปร่างที่สมบูรณ์ เพื่อเราจะได้ชี้แจงเคล็ดลับแห่งเดชานุภาพ แก่พวกเจ้า และเราให้การตั้งครรภ์เป็นที่แน่นอนอยู่ในมดลูกตามที่ประสงค์ จนถึงเวลาที่กำหนดไว้แล้วเราให้พวกเจ้าคลอดออกมาเป็นทารก แล้วเพื่อพวกเจ้าจะได้บรรลุสู่วัยฉกรรจ์ของพวกเจ้า และในหมู่พวกเจ้ามีผู้เสียชีวิตในวัยหนุ่ม และในหมู่พวกเจ้ามีผู้ถูกนำกลับสู่วัยต่ำต้อย วัยชรา เพื่อเขาจะไม่รู้อะไรเลยหลังจากมีความรู้ และเจ้าจะเห็นแผ่นดินแห้งแล้ง ครั้นเมื่อเราได้หลั่งน้ำฝนลงมาบนมัน มันก็จะเคลื่อนไหวขยายตัวและพองตัวและงอกเงยออกมาเป็นพืช ทุกอย่างเป็นคู่ ๆ ดูสวยงาม



การกำเนิดมนุษย์ และความเจริญเติบโตนับจากวัยแบเบาะจวบจนกระทั่งมนุษย์เติบโตเป็นตัวเต็มวัย หรือวัยเจริญพันธ์ มนุษย์ต่างก็มีความพร้อมและมีความสามารถเพื่อการผลิตประชากรในยุคต่อไป ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก เป็นขั้นตอนที่มีความชัดเจน แต่ในการที่จะให้กำเนิดมนุษย์ในรุ่นต่อมานั้น จุดเริ่มต้นของการให้กำเนิดจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งองค์ประกอบทางสังคม วัฒนธรรม ประเพณี เศรษฐกิจ ตลอดจนผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งแต่ละองค์ประกอบจะมีส่วนผลักดันให้มนุษย์มีความเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบใดบ้าง ทั้งในทางที่ดีและในแนวทางที่ไม่ดี ล้วนแล้วแต่มีตัวกำหนดอันเนื่องมาจากองค์ประกอบแวดล้อมทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่จะเป็นตัวกำหนดที่มั่นคง และคอยดูแลเขาเหล่านั้น โดยการปลูกฝังแบบฉบับที่ดี ให้กับเขาเหล่านั้น นั่นคือความพร้อมของคนที่จะทำหน้าที่พ่อหรือแม่ให้กับเด็กๆ เหล่านั้น เขาทั้งสองจะต้องมีมุมมองและแนวความคิดที่จะสร้างครอบครัวและพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุตรหลานอย่างไรบ้าง จุดเริ่มต้นของชีวิตเริ่มจากการปฏิสนธิจวบจนถึงวัยที่เขาพร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อรักษาเผ่าพันธ์ของตนให้สามารถสืบสานวงศ์ตระกูล เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำรงตนและขยายเผ่าพันธ์แห่งครอบครัวของตนให้มีต่อไปในภาคภาคหน้า จึงเป็นข้อกำหนดมาตรฐานที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้ทรงสร้าง โดยมุ่งแสดงข้อกำหนดให้มนุษย์ได้เล็งเห็นว่าระยะเวลาแห่งการดำเนินชีวิตของเขาเหล่านั้น จะต้องกระทำหน้าที่ของแต่ละคนไปตามวัยของเขา เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามภาระและความรับผิดชอบของแต่ละคนในช่วงวัยของเขา ทุกคนจะมีหน้าที่ของตนไปตามสถานภาพและบทบาท ตามวัยของตน กล่าวคือ วัยทารก วัยเด็ก วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว วัยผู้ใหญ่ วัยชรา ซึ่งเขาจะมีบทบาทแตกต่างกันไป



กล่าวคือ ในความเป็นเด็กเขาต้องได้รับการเอาใจใส่จากคนที่เป็นพ่อแม่ด้วยความทนุถนอม เอาใจใส่ดูแลด้วยความอบอุ่น เสริมสร้างสุขภาพและพลานามัยให้กับเขาเหล่านั้น ตลอดจนหน้าที่ในการให้การเรียนรู้ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ จากตัวอย่างที่ดี เพื่อที่จะให้เขาได้ทำตามแบบอย่างและแบบแผนที่ดีในการดำเนินชีวิตจากผู้ใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดมุมมองทางความคิด สติปัญญา แนวทางในการประกอบอาชีพ ซึ่งจะผ่านกระบวนการพัฒนาระบบการเรียนรู้ การสร้างภูมิปัญญา พลังทางความคิด ความรู้สติปัญญา หล่อลอมเป็นองค์ความรู้ที่มีความพร้อมที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ มีศักยภาพทางด้านต่างๆ ในอนาคต สำหรับเด็กในช่วงวัยรุ่น จะเป็นช่วงวัยที่มีความเปลี่ยนแปลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากระดับฮอร์โมนในร่างกาย จากต่อมไร้ท่อต่าง ๆ จะทำหน้าที่กระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึก อยากรู้ อยากลอง หรืออยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ของเขาเหล่านั้นในสิ่งที่ตนเองต้องการเรียนรู้ จะเห็นได้ว่าเด็กวัยรุ่นเหล่านั้น จะกระทำการสิ่งหนึ่งสิ่งใด ตามใจปรารถนา ตามอารมณ์ และความรู้สึกของตนเอง ซึ่งช่วงดังกล่าวเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะบอกได้ว่าการกระทำใดๆ ของเขาเหล่านั้น จะส่งผลให้เกิดคุณค่าหรือ เกิดผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของเขาหรือไม่



พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

หันมามองถึงชีวิตในช่วงวัยหนุ่มสาวดูบ้าง ซึ่งช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่เด็กๆ ที่เติบโตพ้นช่วงวัยรุ่น เริ่มที่จะคำนึงถึงการคบหาเพื่อนต่างเพศ และเริ่มที่จะศึกษา หรือแสวงหาโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของคู่ครอง อารมณ์และความรู้สึกของหนุ่มสาว จะมุ่งแสวงหาเกี่ยวกับการคบหาเพื่อนต่างเพศ เพื่อที่จะนำไปสู่การสร้างครอบครัวใหม่ การเตรียมความพร้อมในการมีบทบาทของความเป็นสามีหรือภรรยา และการทำหน้าที่พ่อหรือแม่ ที่จะดูแลเลี้ยงดู เอาใจใส่ต่อกุลบุตร กุลธิดาของเขาเหล่านั้น ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว สภาวะการทำงานของต่อมไร้ท่อต่างๆ ของเขา จะทำหน้าที่ของมันตามกลไกต่างๆ เพื่อสนองตอบต่อความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเข้ามาสู่ชีวิตของเขาเหล่านั้น สิ่งหนึ่งที่จะพบในทุกๆ คน นั่นคือ ในช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนทางเพศจะเริ่มทำงาน และการทำงานของมันจะเป็นตัวกำหนดที่บ่งบอกได้ว่าเขามีความพร้อมที่จะทำบทบาทและหน้าที่อันสำคัญในชีวิต นั่นคือบทบาทของสามีหรือภรรยา กับหน้าที่ของความเป็นพ่อหรือแม่แล้ว ซึ่งในเวลานั้น การแสดงออกของคนในวัยนี้ ต่อภาวะความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง ภายใต้แรงขับที่ผลักดันอยู่ภายในจิตใจของเขา ว่าเขามีความพร้อมต่อการทำหน้าที่ดังกล่าว หรือว่าเขาได้เรียนรู้ที่จะกระทำหน้าที่อันทรงเกียรติอย่างนั้นแล้วหรือยัง หรือว่าการกระทำของเขาเหล่านั้น เป็นเพียงการตอบสนองอารมณ์ ความรู้สึก ความปรารถนาของอารมณ์ของเขาเพียงเท่านั้นหรือ ซึ่งตามแนวทางของอิสลาม ได้กำหนดวิธีการในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไว้อย่างชัดเจนแล้ว แต่ว่าวันนี้ในแต่ละชุมชนมุสลิมต่างมีการเตรียมความพร้อมให้กับหนุ่มสาวเหล่านั้นไว้อย่างเพียบพร้อมแล้วหรือยัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทบาททางด้านความเป็นมุสลิม ความเป็นศาสนิกที่ดี ความคิดในเรื่องการเลือกคู่ครอง การคบหาระหว่างหญิงชายที่จะพัฒนาไปสู่การสร้างครอบครัวในรูปแบบของมุสลิมนั้น แนวทางหรือรูปแบบที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการเลือกคบหาดูใจในการเลือกคู่ครองเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว จากอัลกุรอ่าน ซูเราะห์ อัลบ้ากอเราะห์ อายะห์ที่ 221 Al-Qur'an, 002.221 (Al-Baqara [The Cow]) อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงกล่าวไว้ความว่า



002.221 وَلا تَنْكِحُوا الْمُشْرِكَاتِ حَتَّى يُؤْمِنَّ وَلأمَةٌ مُؤْمِنَةٌ خَيْرٌ مِنْ مُشْرِكَةٍ وَلَوْ أَعْجَبَتْكُمْ وَلا تُنْكِحُوا الْمُشْرِكِينَ حَتَّى يُؤْمِنُوا وَلَعَبْدٌ مُؤْمِنٌ خَيْرٌ مِنْ مُشْرِكٍ وَلَوْ أَعْجَبَكُمْ أُولَئِكَ يَدْعُونَ إِلَى النَّارِ وَاللَّهُ يَدْعُو إِلَى الْجَنَّةِ وَالْمَغْفِرَةِ بِإِذْنِهِ وَيُبَيِّنُ آيَاتِهِ لِلنَّاسِ لَعَلَّهُمْ يَتَذَكَّرُونَ

002.221 Do not marry unbelieving women (idolaters), until they believe: A slave woman who believes is better than an unbelieving woman, even though she allures you. Nor marry (your girls) to unbelievers until they believe: A man slave who believes is better than an unbeliever, even though he allures you. Unbelievers do (but) beckon you to the Fire. But Allah beckons by His Grace to the Garden (of bliss) and forgiveness, and makes His Signs clear to mankind: That they may celebrate His praise.



[2.221] และพวกเจ้าจงอย่าแต่งงานกับหญิงมุชริก จนกว่านางจะศรัทธา และทาสหญิงที่เป็นผู้ศรัทธานั้น ดียิ่งกว่าหญิงที่เป็นมุชริก แม้ว่านาง ได้ทำให้พวกเจ้าพึงใจก็ตาม และพวกเจ้าจงอย่าให้แต่งงาน กับบรรดาชาย มุชริก จนกว่าพวกเขาจะศรัทธา และทาสชายที่เป็นผู้ศรัทธานั้นดีกว่า ชายมุชริก และแม้ว่าเขาได้ทำให้พวกเจ้าพึงใจก็ตาม ชนเหล่านี้แหละจะชักชวนไปสู่ไฟนรก และอัลลอฮ์ นั้นทรงเชิญชวนไปสู่สวรรค์ และไปสู่การอภัยโทษ ด้วยอนุมัติของพระองค์ และพระองค์จะทรงแจกแจงบรรดาโองการของพระองค์ แก่มนุษย์เพื่อว่าพวกเขาจะได้รำลึกกันได้



โองการที่กล่าวถึง เป็นปฐมบทของการเริ่มต้นครอบครัวในอิสลาม ซึ่งการเลือกคู่ครอง เป็นรูปแบบและต้นเหตุสำคัญในการสร้างความสำเร็จของชีวิตครอบครัว ในเรื่องของการเลือกคู่ครองนั้น ลำดับแรกที่ต้องพิจารณา นั่นคือ ต้องพิจารณาถึงหลักการศรัทธาของคนทั้งคู่ที่ตัดสินใจสร้างครอบครัวใหม่ เข้ามาร่วมเรียงเคียงคู่กัน อยู่ร่วมกัน เป็นสามีภรรยากัน เป็นพ่อเป็นแม่ ดูแลบุตรชายหญิงที่จะเกิดขึ้นมา ให้อยู่ในโอวาท ของผู้ที่เป็นพ่อและแม่ ถ่ายทอดความห่วงใย ความรู้ ความคิด และสติปัญญา ในการพัฒนาตนเอง สร้างพื้นฐานการดำเนินชีวิต เพื่อที่จะให้เขาเหล่านั้นจะได้เป็นมุสลิมที่ดีของสังคม เป็นประชาชาติมุสลิมในวันแห่งการตัดสิน ดังนั้น จุดเริ่มต้นของการสร้างครอบครัวมุสลิมที่ดีนั้น จึงอยู่ที่การเลือกคนที่จะมาเป็นคู่ครอง ไม่ว่าจะเป็นคู่ครองของทางฝ่ายชายหรือคู่ครองทางฝ่ายหญิง นั้น แต่ละฝ่ายจะมีหลักการ กฎเกณฑ์ และวิธีคิดอย่างไรในการเลือกคนสำคัญคนนั้นมาเป็น คู่ครอง มาร่วมชีวิต สร้างครอบครัวใหม่ที่อยู่บนพื้นฐานแห่งความอบอุ่น ความรัก ความเอื้ออาทร ห่วงใยต่อกัน ร่วมมือร่วมใจกันสร้างคนในรุ่นถัดไป เป็นมุสลิมรุ่นใหม่ที่มีความเพียบพร้อมทั้งความรู้ ความคิด อิหม่านศรัทธาอย่างถ่องแท้ เที่ยงแท้ในความเป็นมุสลิม บนพื้นฐานแห่งศาสนาอิสลาม ซึ่งในการเลือกคนสำคัญคนนั้น เข้ามาร่วมชีวิต เราต้องให้ความสำคัญโดยมองถึงแนวความคิดในการสร้างครอบครัวในอนาคตของเราในรูปแบบใด เราต้องการครอบครัวของเราในลักษณะใด คนที่จะร่วมกันสร้างครอบครัวด้วยกันกับเรานั้น มีความเหมาะสมกันมากน้อยเพียงใด ทั้งแนวความคิด อารมณ์ สังคม อีคิว ไอคิว สิ่งสำคัญที่สุดคือ พื้นฐานทางความคิดของทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด ซึ่งพื้นฐานทางความคิดที่กล่าวถึงนี้จะหมายถึง พื้นฐานทางด้านการศรัทธาในศาสนา เราจะมองกันอย่างไรหากว่าคู่ครองของเรามีทัศนคติในการครองตน หรือหลักการศรัทธาในศาสนาที่แตกต่างกัน ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับเขาคนนั้น ให้หันมาทำความเข้าใจที่ตรงกัน เรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องพื้นฐานทางความรู้ในหลักการอิสลาม จนกระทั่งเขาหรือเธอคนนั้น จะมีความศรัทธาอย่างหมดใจในอิสลาม จนกระทั่งสามารถปฏิบัติได้อย่างจริงจัง และพร้อมสำหรับการเป็นมุสลิมที่ดี การเรียนรู้ เพื่อที่จะศึกษาในหลักการพื้นฐานของอิสลาม จึงเป็นสิ่งสำคัญเบื้องต้นสำหรับคู่รัก ที่คนรักของเขาเป็นคนต่างศาสนา ที่จะเข้ามาสู่แนวทางอิสลามทางการสมรส เพราะ ความแตกต่างทางด้านศรัทธาของคนทั้งสอง เป็นปราการด่านแรกอันจะนำไปสู่การสร้างครอบครัวที่อบอุ่นมีกลิ่นไอแห่งความเมตตา ความเป็นสิริมงคลตามที่พระองค์ได้ทรงกำหนดไว้ การที่คนสองคนที่มีพื้นฐานทางครอบครัวแตกต่างกัน ทั้งในด้านของการเลี้ยงดู ปลูกฝังแนวความคิด สติปัญญา วิถีชีวิต คุณภาพชีวิตที่แตกต่างกัน ซึ่งการมาอยู่ด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างปรับปรุงตนเอง ให้เข้ากับคนที่เรามุ่งสร้างครอบครัวและอนาคตด้วยกัน จำเป็นต้องปรับตัวเข้าหากันเพื่อหาจุดลงตัวที่เหมาะสม ก็จะสามารถดูแลซึ่งกันและกัน ดูแลครอบครัวใหม่ที่จะเกิดขึ้นได้ได้อย่างลงตัว แต่สำหรับความแตกต่างในด้านการศรัทธาเป็นความแตกต่างที่เป็นนามธรรม ซึ่งความแตกต่างในเรื่องนี้ สำหรับบางคนอาจไม่ให้ความสนใจ และมองข้าม แต่ที่แท้จริงแล้ว ความแตกต่างเรื่องนี้ เป็นความแตกต่างที่ล้ำลึกและเป็นความแตกต่างที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงเป็นห่วงประชาชาติมุสลิมเป็นอันมาก หลักยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ที่คนหลายๆ คนมองข้าม แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงเป็นห่วงมากที่สุด ดังโองการอัลกุรอ่าน ซูเราะห์อาลิอิมรอน Al-Qur'an, 003.102 (Aal-E-Imran [The Family of Imran]) ความว่า



003.102 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلا تَمُوتُنَّ إِلا وَأَنْتُمْ مُسْلِمُونَ

003.102 O ye who believe! Fear Allah as He should be feared, and die not except in a state of Islam.



[3.102] โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงยำเกรงอัลลอฮ์อย่างแท้จริงเถิด และพวกเจ้าจงอย่าตาย เป็นอันขาด นอกจากในฐานะที่พวกเจ้าเป็นผู้นอบน้อมเท่านั้น



จะเห็นได้ว่า ผู้ศรัทธาในพระองค์เท่านั้น ที่มุ่งปฏิบัติตามคำสั่งใช้และคำสั่งห้ามของพระองค์ ขณะที่ผู้ไร้ศรัทธา ต่างปฏิเสธ แนวทาง คำสั่งสอน คำสั่งใช้และคำสั่งห้ามของพระองค์ ดังนั้น วิธีการและแนวปฏิบัติใดที่มาจากพระองค์ หรือตามแบบฉบับของท่านศาสดา เขาเหล่านั้นต่างไม่เชื่อถือ บางคนมีมุมมองและทัศนคติที่ไม่ดีต่อมุสลิมในการต่อต้านวิธีคิดและวิถีชีวิตมุสลิม บ้างก็มองว่าคนมุสลิมคือบุคคลที่มีความคิดสุดโต่ง “หัวรุนแรง” ไม่ฟังเหตุผล บางคนกลับมีมุมมองเพียงว่าจะบูรณาการวิธีคิดและวิถีชีวิตของเขาเข้ากับมุสลิมโดยมองในลักษณะ “ทางสายกลาง” ที่จะปรับวิธีปฏิบัติตนของคนทั้งสองให้มีมุมมองหรือวิธีคิดที่โอนอ่อนผ่อนตามกัน โดยต่างฝ่ายต่างมองกันเพียงว่าทั้งสองคน “รักกัน” ก็เพียงพอ ซึ่งแนวความคิดในลักษณะนี้ ขัดกับหลักการของอิสลามอย่างชัดเจน เพราะความคิดและการศรัทธาของบุคคลนั้น ตามแนวทางศาสนาอิสลามจะมีมุมมองในเรื่องของการศรัทธาอย่างแท้จริง จะมาก่อนปัจจัยอื่นๆ เพราะหากคนทั้งสองมีการศรัทธาน้อยหรือไม่มีความศรัทธา แล้ว ต่อให้มีปัจจัยอื่นๆ มาสนับสนุนการครองรักครองเรือนของเขา ชีวิตของเขาก็ต้องได้รับการทดสอบจากพระองค์ และการทดสอบอันยิ่งใหญ่จากพระองค์นั้น คือการทดสอบเกี่ยวกับตั้กวา (ความยำเกรง) ต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) โดยมีมุมมองว่าเรานั้นยังยอมรับในคำสั่งใช้หรือคำสั่งห้ามของพระองค์หรือไม่ เพราะในคำสั่งจากพระองค์ที่มีมายังประชาชาติทั้งหลายนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและพร้อมที่จะให้อภัยเสมอ ถ้าเรามีความรู้สึก มีความซาบซึ้ง และมีความยำเกรงต่อการลงโทษจากพระองค์ ดังนั้น แนวทางในการเลือกคู่ครองของมุสลิมทั้งฝ่าย จึงเป็นปราการด่านแรกในการทดสอบอิหม่านในจิตใจของมนุษย์ เป็นการทดสอบที่มีมุมมองสะท้อนให้เห็นถึงการมีศรัทธาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการศรัทธาต่อพระองค์ ได้มากน้อยเพียงใด



พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

การที่จะเลือกคู่ครอง นอกจากจะดูแนวทางการศรัทธาจากคนที่เราจะเลือกมาเป็นคู่ครอง มาทำหน้าที่สามีของเราหรือภรรยาของเรา นั้น ปัจจัยประการต่อมาเราจะคำนึงถึงสิ่งใดตามมา ซึ่งในหลายๆ สังคม จะเน้นปัจจัยที่หลากหลาย เช่น ชื่อเสียง วงศ์ตระกูล ความมีเกียรติในสังคม ทรัพย์สินเงินทอง ฐานะทางเศรษฐกิจ ความรู้ความสามารถ หน้าที่การงาน และความมีศาสนาของเขา นั้น แนวทางที่ท่านศาสดามูฮัมมัด (ซ.ล.) ได้ให้แนวทางไว้เกี่ยวกับการเลือกคู่ครองโดยเฉพาะการเลือกหญิงมาเป็นคู่ครองว่า หญิงจะถูกเลือกมาเป็นคู่ครองของชายนั้น ด้วย ทรัพย์สินของนาง คุณค่าและความดีของนาง รูปโฉมและความสวยของนาง และหลักการศรัทธาของนาง เช่นนี้ จะเห็นได้ว่า ชายมุสลิมที่จะเลือกหญิงใดมาเป็นภรรยา หรือหญิงมุสลิมจะเลือกหรือตอบรับชายใดให้มาทำหน้าที่สามีของนางนั้น เขาคนนั้น จะมีคุณสมบัติและความพึงพอใจต่อเขาหรือเธอ ซึ่งความพึงพอใจนี้ จะนำมาซึ่งความผาสุขในชีวิตสมรส ความสุขในการครองเรือน ความอบอุ่นของครอบครัวในการดูแลเอาใจใส่ต่อกุลบุตรกุลธิดา ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลัง

จะเห็นได้ว่า สิ่งที่ท่านศาสดาเน้นมากที่สุดในการเลือกคู่ครองก็คือ ความมีศาสนาของเขา เพราะแม้ว่า คนๆ นั้น ที่เราเลือกให้เขามาเป็นคู่ครอง มาเป็นกำลังสำคัญในครอบครัว ที่จะปกป้องดูแลเอาใจใส่ต่อกุลบุตร กุลธิดา และตัวเองนั้น เราต้องการสิ่งใดในตัวเขา แน่นอนเหลือเกินว่า ปัจจัยต่างๆ ที่จะมีมาจากการเลือกคู่ครองนั้น ล้วนแล้วเป็นปัจจัยที่ค่อยๆ ลดลง หรือหมดไปในที่สุด เช่น ทรัพย์สิน ถ้าเรารู้จักแต่เพียงการได้มาแล้วจ่ายไปในไม่ช้าก็จะหมดสิ้นลง ความมีเกียรติ ชื่อเสียงก็เช่นกัน คู่ครองที่ขาดความสมดุลในเรื่องนี้ ในที่สุดชีวิตสมรสก็จะสะดุดหยุดลงไป แต่สำหรับการที่เรามีความศรัทธาต่อพระองค์ รู้จักขอบคุณพระองค์ที่ทรงโปรดปราณต่อเราแล้ว ปัจจัยที่ยังขาดตกบกพร่องอยู่นั้น จะสามารถเข้าถึง และมีคุณค่ามากกว่ากลุ่มชนที่ได้รับในวันนี้ อย่างแน่นอน และจะเพิ่มพูนทวีผลงอกเงยมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันหมดไป คุณค่าของความมีศาสนาและรู้ยำเกรงต่อพระองค์ จะส่งเสริมให้ครอบครัวที่อยู่ในร่องรอยแห่งศาสนาของพระองค์ และมีมุมมองตลอดจนแนวความคิดต้อนรับกระแสความเปลี่ยนแปลงในโลกสมัยใหม่บนพื้นฐานความคิดที่ชัดเจนในกรอบแห่งอัลอิสลาม แน่นอน ครอบครัวดังกล่าวย่อมต่อสู้และเอาชนะอยู่รอดปลอดภัยท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมที่เข้ามารุมเร้ารอบตัวเรา ครอบครัวของเรา อย่างทันท่วงทีและสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ บนแนวความคิดแห่งอัลอิสลาม แต่สำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่มีมุมมองเชิงวัตถุหลงไปตามกระแสสังคมตะวันตกที่จะโหมกระหน่ำและกลืนกินวัฒนธรรมโลกให้เสื่อมคลายลงไป ครอบครัว ที่มีมุมมองตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งสังคมวัตถุ มองเพียงรูปร่างภายนอก หรือมองกันอย่างฟุ้งเฟื้อ ในที่สุด สภาพที่ขาดความยั้งคิดมองเป็นเพียงความต้องการในเชิงวัตถุ ครอบครัวที่มีลักษณะนี้ จึงเป็นครอบครัวที่จะออกห่างไกลแนวทางอิสลาม หรืออาจเรียกได้ว่า เป็น “มุสลิมกลายพันธ์” เพราะในครอบครัวดังกล่าว ขาดแนวทางและจิตวิญญาณ แห่งอิสลาม ความอบอุ่น สายใยรักของครอบครัวที่เกิดขึ้นตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งการแสวงหาความต้องการทางวัตถุ เมื่อสิ่งเหล่านี้เข้ามากระทบกับครอบครัว ผู้นำในครอบครัว ผู้ทำหน้าที่ปกครองของครอบครัว ไม่รู้จักปกป้องหรือป้องกันสิ่งเลวร้ายที่เข้ามาเยือนในครอบครัว ในที่สุดก็เปิดรับสิ่งเหล่านั้นโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะครอบครัวแบบนี้ ลืมหรือมองข้ามแนวทางตามหลักการทางศาสนา จนดูเหมือนเปิดรับวัฒนธรรมต่างๆ โดยไม่มีการกลั่นกรอง เพราะบนพื้นฐานของตนเองมองทุกๆ สิ่งบนพื้นฐานของความต้องการในเชิงวัตถุ

ดังนั้น เราจึงพึงสำนึกว่า ในวันแห่งการตัดสินของพระองค์ ผลงานที่เราจะนำไปประกวดประชัน หรือเป็นผลงานที่เราได้กระทำในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ในวันนี้นั้น เราต้องการสิ่งใดเป็นผลตอบแทน วันนี้เราตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานแนวความคิดอย่างไร และเรายำเกรงต่อพระองค์มากน้อยเพียงใด ดังนั้น หลักประกันอันหนึ่งที่เราจะตรวจสอบตนเองเพื่อรอรับการทดสอบจากพระองค์ในการสร้างครอบครัวใหม่ของเรา ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง นั้น เรายึดมั่นในการเลือกคู่ครองโดยใช้ปัจจัยใดเป็นเป็นตัวกำหนดในการตัดสินใจ และเราตัดสินอย่างนั้น อยู่ในกรอบแนวทางแห่งอิสลาม หรือเป็นเพียงความรู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่เป็นวัตถุเพียงเท่านั้นหรือ



พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

แนวทางตามคำสอนของอิสลาม จะเน้นถึงความต่อเนื่องในการสร้างประชาชาติมุสลิมจำนวนมากในวันแห่งการตัดสินของพระองค์อัลลออฮ์ ซึ่งมนุษย์จะถูกล่อลวงจากบรรดาชัยตอนมารร้ายให้ออกห่างจากความศรัทธา การรับรู้ถึงแนวทางในการปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และทรงห้ามมิให้กระทำ ซึ่งจากคำท้าทายของญิบรีส เมื่อครั้งมนุษย์คู่แรกที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงสร้างขึ้น เพื่อที่จะให้มนุษย์นั้นศรัทธาและมุ่งมั่นต่อการกระทำอามั้ลอิบาดัรต่อพระองค์ ถูกญิบรีส มารร้ายเข้ามาล่อลวงเพื่อที่จะมนุษย์นั้นจะออกห่างจากแนวทางของพระองค์ ไปกระทำตามแนวทางที่ญิบลีสแนะนำ จนในที่สุด ญิบลีสมีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายของการต่อต้านคำสั่งใช้และห้ามของพระองค์เพื่อที่มันจะได้ล่อลวงลูกหลานของอาดัมและฮาวาให้เหหันออกจากเป้าหมายและแนวทางที่พระองค์ทรงใช้และทรงห้าม หันไปประพฤติปฏิบัติตามอำเภอใจของตนเอง ซึ่งการล่อลวงของญิบลีส ชัยตอนมารร้ายนี้ ต้องการล่อลวงประชาชาติทั้งหลายให้ออกห่างไกลจากความเป็นมุสลิม ให้มากที่สุดมากกว่าประชาชาติที่ประพฤติตนตามกรอบและแนวทางที่พระองค์ทรงใช้และทรงห้าม ซึ่งผลดังกล่าวย่อมเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาทุกๆ คู่ ในวันแห่งการตัดสิน



ดังนั้น จึงถือเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชาติมุสลิม ในการเริ่มต้นที่ดีที่จะสร้างครอบครัวใหม่ เป็นครอบครัวที่จะแยกย่อยมาจากครอบครัวใหญ่ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง จากพื้นฐานที่มีความแตกต่างกัน มาอยู่ร่วมกันโดยมีเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้น เราจึงต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อการรองรับพระบัญชาจากพระองค์ และแบบอย่างอันดียิ่งของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) ที่ได้ทรงวางแนวทางในการสร้างครอบครัว การเลี้ยงดูอบรมขัดเกลาบุตรธิดาที่จะเกิดขึ้นมาจากการสร้างสัมพันธ์จากการเลือกและครองคู่กับคนที่เราได้เลือกเขาไว้แล้ว เพื่อการทำหน้าที่ในการสร้างประชาชาติมุสลิมรุ่นใหม่ต่อไป



ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกๆ คน ที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัว การเลือกคู่ครอง การคบหาระหว่างกัน จึงต้องคำนึงถึงคุณค่าในความเป็นศาสนิกที่ดี ซึ่งหลักกฎเกณฑ์ในการเลือกคู่ครอง การเลือกคนที่จะมาทำหน้าที่สำคัญคนนี้ พระองค์อัลลอฮ์ได้วางแนวทางและท่านศาสดาก็ได้กระทำไว้เป็นแบบฉบับที่ดีงามไว้แล้ว ซึ่งแบบฉบับดังกล่าว จะเป็นวิธีการที่จะนำมาซึ่งความผาสุขในชีวิตครอบครัว ความอบอุ่นในสายใยรักของคนในครอบครัว ที่มีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายเดียวกัน



การเลือกคู่ครองในทัศนะของอิสลาม จึงมิได้เลือกเพียงเพื่อจะเป็นการแสวงหาและได้มาซึ่งความสุข ความรื่นรมย์ทางเพศ แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ว่าการเลือกดังกล่าว จึงเป็นการเลือกที่จะมองกันอย่างยาวนาน มองกันอย่างรอบด้าน หาใช่เพียงสนองความต้องการแต่เพียงทางอารมณ์เท่านั้น เพราะหากเราแสวงหาแต่เพียงการสนองตอบในทางอารมณ์ ความพึงพอใจของคนสองคนเพียงอย่างเดียว สิ่งเหล่านี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน เพราะเมื่อแต่ละฝ่ายเบื่อหน่ายซึ่งกันและกัน มองในจุดที่บกพร่องของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของความสวยงามหรือรูปร่างของอีกฝ่ายหนึ่งที่จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา หรือทรัพย์สินเงินทองที่ร่อยหรอ เพราะการใช้สอยที่นับวันจะค่อยๆ หมดลงไปเรื่อยๆ แต่คุณค่าและความดี หรือหลักการศรัทธาที่ยึดมั่นในหลักเกณฑ์ทางศาสนา จะเป็นสิ่งที่จะทำให้ได้มาและเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ สิ่งที่เราต้องการ ทั้งทรัพย์สิน เงินทอง เกียรติยศต่างๆ เพราะในความศรัทธาที่ทั้งสองฝ่ายมีอยู่ นั้น จะเป็นพลังที่จะให้ได้ในทุกๆ สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายขาดแคลนอยู่ พลังและความยึดมั่นในศรัทธา จึงเป็นปฐมบทของการเสริมสร้างความปรารถนาดีที่มีต่อกันของการครองคู่



ความแตกต่างระหว่างกันในการดำเนินชีวิตครอบครัว อันได้แก่ ความแตกต่างทางความคิด มุมมอง วิธีคิด และวิถีชีวิตของแต่ละฝ่าย ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากพื้นฐานจากการอบรมเลี้ยงดูอันเนื่องมาจากครอบครัวเดิมของแต่ละฝ่าย กล่อมเกลามาเป็นนิสัยพื้นฐานของแต่ละฝ่าย จนเป็นความแตกต่างที่แต่ละฝ่ายจะค่อยๆ ปรับปรุงตนเองให้เข้ากันได้ หรือลดช่องว่างอันเนื่องมาจากปัญหาแห่งปัจจัยต่างๆ เหล่านั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองฝ่ายจะทำความเข้าใจร่วมกัน ในการลดปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อการดำเนินชีวิตครอบครัวให้มีแต่รอยยิ้ม ความอบอุ่น เต็มไปด้วยสายใยแห่งรัก เป็นสายใยแห่งความอบอุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลานของเราที่จะกำเนิดในเวลาต่อมา การดูแลเอาใจใส่ต่อภรรยาและบุตร และการดูแลปรนนิบัติสามีและเลี้ยงดูอบรมบุตรของเขาทั้งสอง ให้มีกลิ่นไอแห่งอิสลาม ยึดตามแบบฉบับอันดีงามของท่านศาสดาในการดูแลเอาใจใส่สามี ภรรยา และบุตร ซึ่งนั่นคือปัจจัยแห่งความสำเร็จของการดำเนินชีวิตในแบบฉบับอิสลามซึ่งเป็นแบบฉบับที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงรับรองและเตรียมความพร้อมในวันกิยามัตไว้ให้แล้วด้วยความรื่นรมย์



พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

งานวะลีย์มะห์ ครั้งนี้ เป็นงานที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงให้เกียรติทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เป็นความเมตตาของพระองค์ ที่ทรงฮิกมะห์ คู่ครองที่ดีให้กับคนทั้งสอง ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ และวัฒนธรรมแปลกปลอมที่กำลังทำลายอิสลามของเราอยู่ในขณะนี้ แต่คู่นิกาห์ คู่นี้ ซึ่งเป็นมุสลิมดั้งเดิมทั้งคู่ สามารถเลือกที่จะครองคู่กัน เพราะเล็งเห็นถึงจุดมุ่งหมายปลายทางตามที่พระองค์ทรงประสงค์ ซึ่งหาได้ยากมากในสังคมปัจจุบัน เพราะกระแสสังคมปัจจุบันจะมีมุมมองเกี่ยวกับความรักว่า “รักไม่มีพรมแดน รักไม่มีศาสนา” เป็นผลให้เกิดทัศนคติในการครองคู่ของคนโดยทั่วไปว่า จะไม่สนใจถึงแนวทางปฏิบัติที่สนองตอบพระบัญชาขององค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) สักเท่าใดนัก จะเห็นได้ตามสื่อสารมวลชนทุกๆ แขนงต่างประโคมข่าวกันอย่างกว้างขวางในแนวทางของการแต่งงานที่ผิดประเภทหรือผิดวัตถุประสงค์ในการสร้างประชากรโลกที่อยู่ในกรอบแห่งศาสนา แต่ปรากฏว่า ความไม่เป็นระเบียบอย่างนี้ เกิดขึ้นมากมายทุกหัวระแหง มีการครองคู่ระหว่างเพศเดียวกันสามารถขอใบสมรสได้ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสถานภาพบุคคล ซึ่งแปลกกว่าความเป็นจริงตามการสร้างของพระองค์

พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

กำหนดเวลา หลักเกณฑ์ที่จะกำเนิดชีวิตมนุษย์นั้น เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ เป็นความประสงค์ที่จะให้มนุษย์ได้เกิดมาเพื่อทำการประกอบอามั้ลอิบาดัรด้วยความยำเกรงต่อพระองค์ สนองคำสั่งใช้และห้ามของพระองค์ จึงขอฝากอายะห์อัลกุรอ่านต่อไปนี้ เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ไตร่ตรองให้เห็น ความสำคัญของการครองคู่ ความสำคัญของการกำเนิดและความสำคัญในการอยู่ร่วมครองคู่สามีภรรยา เป็นครอบครัวที่อบอุ่นตามแบบฉบับอัลอิสลาม จาก Al-Qur'an, 002.222-223 (Al-Baqara [The Cow]) ความว่า



002.222 وَيَسْأَلُونَكَ عَنِ الْمَحِيضِ قُلْ هُوَ أَذًى فَاعْتَزِلُوا النِّسَاءَ فِي الْمَحِيضِ وَلا تَقْرَبُوهُنَّ حَتَّى يَطْهُرْنَ فَإِذَا تَطَهَّرْنَ فَأْتُوهُنَّ مِنْ حَيْثُ أَمَرَكُمُ اللَّهُ إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ التَّوَّابِينَ وَيُحِبُّ الْمُتَطَهِّرِينَ

002.222 They ask thee concerning women's courses. Say: They are a hurt and a pollution: So keep away from women in their courses, and do not approach them until they are clean. But when they have purified themselves, ye may approach them in any manner, time, or place ordained for you by Allah. For Allah loves those who turn to Him constantly and He loves those who keep themselves pure and clean.

[2.222] และพวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับประจำเดือน จงกล่าวเถิดว่า มันเป็นสิ่งให้โทษ ดังนั้นพวกเจ้า จงห่างไกลหญิง ในขณะมีประจำเดือน และจงอย่าเข้าใกล้นาง จนกว่านางจะสะอาด ครั้นเมื่อนาง ได้ชำระร่างกายสะอาดแล้ว ก็จงมาหานาง ตามที่อัลลอฮ์ทรงใช้พวกท่าน แท้จริงอัลลอฮ์ ทรงชอบบรรดาผู้สำนึกผิด กลับเนื้อกลับตัว และทรงชอบ บรรดาผู้ที่ทำตนให้สะอาด



002.223 نِسَاؤُكُمْ حَرْثٌ لَكُمْ فَأْتُوا حَرْثَكُمْ أَنَّى شِئْتُمْ وَقَدِّمُوا لأنْفُسِكُمْ وَاتَّقُوا اللَّهَ وَاعْلَمُوا أَنَّكُمْ مُلاقُوهُ وَبَشِّرِ الْمُؤْمِنِينَ

002.223 Your wives are as a tilth unto you; so approach your tilth when or how ye will; but do some good act for your souls beforehand; and fear Allah. And know that ye are to meet Him (in the Hereafter), and give (these) good tidings to those who believe.



[2.223] บรรดาหญิงของพวกเจ้านั้น คือแหล่งเพาะปลูกของพวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้า จงมายังแหล่งเพาะปลูกของพวกเจ้า ตามแต่พวกเจ้าประสงค์ และจงประกอบล่วงหน้า ไว้สำหรับตัวของพวกเจ้า และพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และพึงรู้ด้วยว่า แท้จริง พวกเจ้านั้น จะเป็นผู้พบกับพระองค์ และเจ้า จงแจ้งข่าวดี แก่บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายเถิด



ซึ่งแน่นอนที่สุดมนุษย์ทุกๆ คน ต่างต้องยอมจำนนต่อพระบัญชาของพระองค์ เพราะอำนาจของพระองค์ อยู่เหนือทุกๆ สิ่งในสากลโลกอย่างนั่นเอง ขอให้เราทุกคนจงยำเกรงต่อพระองค์ให้มากที่สุด และร่วมกันขอดุอาร์และแสดงความยินดีต่อคู่นิกาห์คู่นี้ ขอพระองค์อัลลอฮ์ทรงประทานริสกี ความสำเร็จ และขอให้ทั้งคู่ ครองรักครองเรือนร่วมกัน เป็นครอบครัวที่อบอุ่น อยู่ในแนวทางของพระองค์ นับจากนี้ ตลอดไป และขอทิ้งท้ายด้วยโองการ จาก Al-Qur'an, 022.006 (Al-Hajj [The Pilgrimage]) ความว่า



022.006 ذَلِكَ بِأَنَّ اللَّهَ هُوَ الْحَقُّ وَأَنَّهُ يُحْيِي الْمَوْتَى وَأَنَّهُ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ

022.006 This is so, because Allah is the Reality: it is He Who gives life to the dead, and it is He Who has power over all things.

[22.6] นั่นก็เพราะว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นพระองค์คือผู้ทรงสัจจะ และแท้จริงพระองค์ทรงให้ผู้ตายมีชีวิตขึ้น และแท้จริงพระองค์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง



إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا

رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ

إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ

وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ

وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

วัสสลาม

มูฮำหมัด สันประเสริฐ

20 ร่อญับ 1434 (แก้ไขล่าสุด)



อ้างอิง

อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย , www.DivineIslam.com Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.913

อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com www.beconvinced.com