วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

อิสลามกับวันสตรีสากล

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 26 ร่อบีอุ้ลเอาวัล 1431 (วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553)
อิสลามกับวันสตรีสากล

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ


มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย
ขอซุกู้ร ขอบคุณต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ที่ได้ให้กระผมและท่านทั้งหลายได้มีชีวิตพร้อมที่จะปฏิบัติศาสนกิจสนองตอบต่อพระองค์อีกครั้งในวันศุกร์นี้ ขอให้เราทั้งหลายจงยำเกรงต่อพระองค์ และตอบสนองคำบัญชาของพระองค์ในทุกๆ ภารกิจที่พระองค์ทรงใช้และในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางศาสนานั้น ล้วนแล้วมาจากกิตาบุ้ลลอฮ์และซุนนะห์ทั้งสิ้น ไม่สิ่งใดที่มนุษย์กระทำนอกกรอบแห่งอัลกุรอ่านและกิริยาวัตรของท่านศาสดาแล้ว เขาจะได้รับการรับรองจากพระองค์และท่านศาสดา ดังนั้น ไม่ว่ากรอบความคิด ทฤษฎีต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่เป็นเรื่องธรรมดา และการกระทำที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางความเชื่อทางศาสนาแล้ว หลักปฏิบัติ ทั้งหลายนอกจากจะสอดคล้องกับเรื่องที่เป็นปกติธรรมดาแล้ว ยังจะมีบางส่วนมีความเชื่อในเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องหนึ่งก็คือ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีวันหนึ่งคือวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งทางสากลได้กำหนดให้เป็นวันสตรีสากล เป็นวันที่รำลึกถึงบทบาทและความเสมอภาคทัดเทียมกับบุรุษของเหล่าบรรดาสตรีเหล่านั้น
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
เรื่องสิทธิสตรีที่มีการเรียกร้องกันในทุกวงการในปัจจุบัน เป็นแนวคิดที่นักคิดทางตะวันตกหลายๆ สำนักคิด โดยเฉพาะกลุ่ม Feminists ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลทางความคิดมาจากกลุ่มสตรีที่เบี่ยงเบนทางเพศ (เลสเบี้ยน) ชนชาติยิวกลุ่มหนึ่ง มีแนวคิดที่ก้าวหน้า มองว่าสตรีในประเทศทางตะวันตก มีความสามารถใกล้เคียงกับผู้ชาย ประสิทธิภาพในการทำงาน การตัดสินใจ การก้าวข้ามจากเรื่องในครัวความเป็นภรรยา แม่ และคนรับใช้ มาสู่ผู้จัดการ CEOs และประธานบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ และกลุ่มดังกล่าวยังมีมุมมองอีกว่า ความซื่อสัตย์ต่อองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาคเอกชน มหาชน อิสระ หรือภาครัฐ แล้ว หญิงมีความซื่อสัตย์มากกกว่าชาย การดิ้นรนต่อสู้ในเรื่องสิทธิสตรีของกลุ่ม Feminists มีมาอย่างยาวนานนับจากสงครามโลกครั้งที่สอง จวบจนประเทศเยอรมนีมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อไม่นามานี้กับชัยชนะของสุภาพสตรีท่านหนึ่ง แม้ว่าในฟิลิปปินส์ชัยชนะการเลือกตั้งของประธานาธิบดีหญิงม่าย “คอราซอน อาคิโน่” แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่หลายๆ ฝ่ายยอมรับ ซึ่งรวมไปถึงการดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้รับรางวัลโนเบลกับการต่อสู้กับทางการทหารเมี้ยนมาร์ ก็ตาม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ชี้ให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนทางความคิดในโลกสมัยใหม่ ที่ผู้หญิงมีความสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ หรือแม้แต่ในโลกอิสลาม ที่ผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศทั้งปากีสถานและอินโดนีเซีย แต่ในที่สุดคำตอบที่เป็นประเพณีทางการปกครองของประเทศเหล่านั้น ก็มีจุดจบที่ไม่แตกต่างกัน นั่นคือ ปัญหาการคอรับชั่น การแอราษฎร์บังหลวง ทั้งที่อินโดนีเซีย ปากีสถาน และฟิลิปปินส์ แต่ในเยอรมนี บทบาทผู้นำสตรีกลับพลิกผันจากแนวคิดเดิมๆ ที่มองปัญหาที่เกิดขึ้นมาในประเทศโลกที่สาม ซึ่งแตกต่างจากอังกฤษที่มีนายกรัฐมนตรีสตรีครองอำนาจมาอย่างยาวนานในพรรคอนุรักษ์นิยม แต่ความพิเศษที่แตกต่างจากประเทศอื่น บทบาทการนำของสตรีในอังกฤษจึงมิใช่ชัยชนะที่แปลกแยกแตกต่างจากในประเทศโลกที่สาม แตกต่างอย่างมากกับในประเทศโลกอิสลามที่มีสตรีขึ้นมาครองอำนาจทั้งที่อินโดนีเซียและปากีสถาน
บทบาทสตรีในอิสลามถูกท้าทายจากสังคมโลกเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ในช่วงปฏิวิติของประธานาธิบดีโคมัยนีแห่งอิหร่าน การฟื้นฟูวัฒนธรรมการแต่งกายด้วยรูปแบบอิสลาม “อัลฮิญาบ” เป็นที่แพร่หลายในกลุ่มมุสลิมทั่วโลก แต่ในบางสังคม ยังไม่สามารถรณรงค์ให้กลุ่มสตรีมุสลิมหันมาแต่งกายตามหลักการของศาสนา

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ตามหลักการแห่งกิตาบุ้ลลอฮ์และซุนนะห์ นั้น อิสลามไม่ยอมรับในสิทธิการเรียกร้องที่เกินเลยไปจากอัลกุรอ่านและกิริยาวัตรของท่านศาสดา แต่ในคำสอนแห่งอัลอิสลาม ได้แยกบทบาทและหน้าที่ที่ชัดเจนของทั้งสองเพศ ทั้งในเรื่องทางครอบครัว ศาสนา และสังคม แต่มุมมองหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันได้อย่างไม่อ้อมค้อมและไม่เกินเลยไปจากคำสอน นั่นคือ บทบาทและหน้าที่ของทั้งสองเพศ ต้องไม่ถูกรบกวนหากหญิงจะทำงานนอกบ้าน ซึ่งต้องไม่บกพร่องต่อหน้าที่ของตนเอง และสามีต้องให้คำยินยอมต่อนางหากการทำงานของนางไม่ทำให้หน้าที่ที่มีต่อครอบครัวถูกลดทอนลงไป แนวทางนี้ เป็นแนวทางหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ในโลกอิสลาม หรือในสังคมไทย ในปัจจุบัน การทำงานเลี้ยงชีพตามหลักแล้วเป็นหน้าที่ของฝ่ายบุรุษ หากแต่สังคมปัจจุบัน การแข่งขันในทุกวงการเป็นตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงการใช้บริการทางสังคม ทางเลือก ทัศนคติที่มีมุมมองในเรื่องของการแข่งขัน การเลือกสรร การคัดเลือก และกรอบแห่งศาสนาที่เป็นเสมือนเส้นบางๆ ที่ตีกรอบให้กับทุกครอบครัว ทุกสังคม ต้องเข้ามาแข่งขันกัน ความเสมอภาคทางเพศ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่คอยกระตุ้นแนวคิดในทางสังคม รวมถึงความแข็งแรงในหลักการแห่งอีหม่าน ความศรัทธา ที่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวแบบในการจัดการตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันแบบพหุภาคี ในทุกๆ ด้าน ดังนั้น กรอบแนวความคิดในปัจจุบัน การทำหน้าที่ตามบทบาทของมนุษย์ จึงต้องมีความชัดเจน สามีและภรรยา ต้องสนทนาร่วมกันปรับทัศนคติตามบทบาทของชีวิต และมุมมองทางศาสนา อย่างไรก็ตาม บรรดาสามีที่ปล่อยให้ภรรยาออกไปทำงานนอกบ้าน เมื่อให้ความยินยอมให้นางออกไปทำงานแล้ว ความเป็นสามี นอกจากทำหน้าที่ของตนตามกรอบแห่งศาสนา และหลักกฎหมายแล้ว สามีต้องให้ช่วงเวลาที่นางออกไปทำงานนอกบ้านจนนางกลับเข้าบ้านเป็นช่วงเวลาที่นางเดินทางและปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของนางด้วย จึงจะถือว่าสามีได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทและหน้าที่ตามนัยแห่งคำสอนจากกิตาบุ้ลลอฮ์และซุนนะห์แล้วอย่างครบถ้วน
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย
การเรียกร้องถึงความเสมอภาคทางเพศในปัจจุบัน แม้ว่าเราจะได้ยินข่าวสารต่างๆ มากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในขณะเดียวกันกลับพบว่า สตรีในทุกช่วงวัยถูกทำร้ายต่างๆ นาๆ ในทุกๆ วัน กับข่าวอาชญากรรมต่างๆ ทั้งคนใกล้ชิด เพื่อน คนรัก สามี หรือคนร้าย ไปพร้อมๆ กับเรื่องที่ประโคมข่าวถึงความสำเร็จของสตรีในอีกสังคมหนึ่ง บทบาทสตรีถูกทดสอบในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ ขณะที่คำสอนทางศาสนาอิสลาม จะมองถึงธรรมชาติ ความงาม ความอ่อนแอทางสรีระ ของสตรี ที่เหล่าบรรดาบุรุษทั้งหลาย จะต้องปกป้อง ป้องกัน ให้ความคุ้มครองร่วมกัน เพื่อที่จะให้สังคมปัจจุบัน ได้มีความเข้มแข้ง ก้าวผ่านในเรื่องร้ายๆ นี้ และออกห่างไกลจากเรื่องฟิตนะห์ต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของสตรี ความเสมอภาคทางเพศ มิใช่สิ่งที่จะยืนยันได้ว่าสังคมจะเป็นเอกภาพ หรือสังคมจะเป็นสุข แต่การเรียกร้องในเรื่องนี้ หากมากเกินขอบเขตที่จำกัดในกรอบแห่งธรรมชาติและเส้นขอบของแนวคิดทางศาสนาแล้ว สังคมเกิดฟิตนะห์ และเรื่องร้ายๆ ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นอุทธาหรณ์ และเป็นการทดสอบจากพระองค์ วันนี้หากเราปล่อยปละละเลย ทิ้งให้สังคมเป็นตัวกำหนดความคิดที่เลยเถิดจากเป้าหลอมแห่งอัลอิสลามแล้ว แน่นอน ลูกหลานของเรา ภรรยาของเรา ลูกสาวของเรา ย่อมอาจตกอยู่ในสภาวะที่เป็นอุทธาหรณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ก็เป็นได้ ดังนั้น ขอให้บรรดาบุรุษทั้งหลาย จงอย่าบกพร่องต่อหน้าที่ของตน ขอฝากโองการจากอัลกุรอ่าน ซูเราะห์อันนูร์ (An-Noor [The Light]) Al-Qur'an, 024.014- 015 และ 019-020 เพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนใจท่านทั้งหลาย ความว่า

024.014 وَلَوْلا فَضْلُ اللَّهِ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَتُهُ فِي الدُّنْيَا وَالآخِرَةِ لَمَسَّكُمْ فِي مَا أَفَضْتُمْ فِيهِ عَذَابٌ عَظِيمٌ
024.014 Were it not for the grace and mercy of Allah on you, in this world and the Hereafter, a grievous penalty would have seized you in that ye rushed glibly into this affair.
[24.14] และหากมิใช่ความโปรดปรานของอัลลอฮ์แก่พวกเจ้าและความเมตตาของพระองค์ทั้งในโลกนี้และโลก
หน้าแล้ว แน่นอนการลงโทษอย่างมหันต์ก็จะประสบแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้ากำลังง่วนกันอยู่
024.015 إِذْ تَلَقَّوْنَهُ بِأَلْسِنَتِكُمْ وَتَقُولُونَ بِأَفْوَاهِكُمْ مَا لَيْسَ لَكُمْ بِهِ عِلْمٌ وَتَحْسَبُونَهُ هَيِّنًا وَهُوَ عِنْدَ اللَّهِ عَظِيمٌ
024.015 Behold, ye received it on your tongues, and said out of your mouths things of which ye had no knowledge; and ye thought it to be a light matter, while it was most serious in the sight of Allah.
[24.15] ขณะที่พวกเจ้าได้รับข่าวนั้นด้วยการพูดกันระหว่างพวกเจ้า และพวกเจ้าพูดกันในสิ่งที่พวกเจ้าไม่มี
ความรู้ และพวกเจ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก แต่ ณ ที่อัลลอฮ์นั้นมันเป็นเรื่องใหญ่
024.019 إِنَّ الَّذِينَ يُحِبُّونَ أَنْ تَشِيعَ الْفَاحِشَةُ فِي الَّذِينَ آمَنُوا لَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ فِي الدُّنْيَا وَالآخِرَةِ وَاللَّهُ يَعْلَمُ وَأَنْتُمْ لا تَعْلَمُونَ
024.019 Those who love (to see) scandal published broadcast among the Believers, will have a grievous Penalty in this life and in the Hereafter: Allah knows, and ye know not.
[24.19] แท้จริงบรรดาผู้ชอบที่จะให้เรื่องบัดสีแพร่หลายไปในหมู่ผู้ศรัทธานั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่าง
เจ็บปวดทั้งในโลกนี้และโลกหน้าและอัลลอฮ์ทรงรอบรู้และพวกเจ้าไม่รู้
024.020 وَلَوْلا فَضْلُ اللَّهِ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَتُهُ وَأَنَّ اللَّهَ رَءُوفٌ رَحِيمٌ
024.020 Were it not for the grace and mercy of Allah on you, and that Allah is full of kindness and mercy, (ye would be ruined indeed).
[24.20] และหากมิใช่ความโปรดปรานของอัลลอฮ์แก่พวกเจ้าและความเมตตาของพระองค์แล้ว และแท้จริง
อัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเอ็นดู ผู้ทรงเมตตาเสมอ

ขอให้กระผมและท่านทั้งหลาย ตลอดจนครอบครัวของพวกเรา จงอยู่ในแนวทางแห่งกิตาบุ้ลลอฮ์และซุนนะห์ และย้ำแนวคิด แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการปกครอง ปกป้อง และป้องกัน บรรดาสตรีที่อยู่ในปกคองของพวกเรา ให้อยู่ในแนวทางที่พระองค์ทรงรัก ทรงเมตตา เพื่อที่พระองค์จะให้ความคุ้มครองพวกเราทั้งหลาย ให้ออกห่างไกลจากกลุ่มที่บิดพริ้ว หลงผิด หลงประเด็น ผิดพลาด ตลอดจน หนทางที่พวกเหล่านั้นจะใช้สื่อต่างๆ ล่อลวง หลอกใช้ ให้กระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงกริ้วและทรงกำหนดว่าจะลงโทษอย่างมหันต์ ในวันแห่งการตัดสิน

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com
สมศักดิ์ สันประเสริฐ 2543 สิทธิและความเท่าเทียมกันของหญิงชายตามคำสอนของศาสนาอิสลาม
สารนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น