วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บัญญัติแห่งการละหมาด อิคลาสเพื่อพระองค์

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 20 ร่อยับ 1431 (วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553)
บัญญัติแห่งการละหมาด อิคลาสเพื่อพระองค์

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
فَإِذَا قَضَيْتُمُ الصَّلاةَ فَاذْكُرُوا اللَّهَ قِيَامًا وَقُعُودًا وَعَلَى جُنُوبِكُمْ فَإِذَا اطْمَأْنَنْتُمْ فَأَقِيمُوا الصَّلاةَ إِنَّ الصَّلاةَ كَانَتْ عَلَى الْمُؤْمِنِينَ كِتَابًا مَوْقُوتًا
سُبْحَانَ الَّذِي أَسْرَى بِعَبْدِهِ لَيْلا مِنَ الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ إِلَى الْمَسْجِدِ الأقْصَى الَّذِي بَارَكْنَا حَوْلَهُ لِنُرِيَهُ مِنْ آيَاتِنَا إِنَّه هُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอให้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลาย จงตระหนักถึงภารกิจสำคัญของประชาชาติมุสลิม เพื่อแสดงออกถึงการปฏิบัติและการศรัทธาด้วยความยำเกรงต่อพระองค์ จงรำลึกถึงความสำคัญในภารกิจอันยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ที่เป็นประชาชาติมุสลิม ซึ่งภารกิจสำคัญนั้น คือภารกิจอันเป็นรากฐานสำคัญ เป็นรากหญ้า ที่จะนำผ่านท่อน้ำเลี้ยงให้กับต้นกล้าแห่งอัลอิสลาม นั่นคือ การปฏิบัติศาสนกิจอันสำคัญแห่งชนชาวมุสลิม เป็นเสาหลักและหัวใจสำคัญของมุสลิม เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่จะทำให้มุสลิมมีความแตกต่างจากศาสนิกอื่น นั่นคือการปฏิบัติในเรื่องรุ่ก่นที่สำคัญ 5 ประการ และประการหนึ่งที่จะกล่าวถึงในที่นี้ คือ การละหมาด
ท่านทั้งหลาย
การละหมาด เป็นศาสนกิจ ที่ง่าย แต่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง การละหมาดจะเกี่ยวข้องและสอดคล้องกับการใช้เวลา การตรงต่อเวลา ความสะอาด การนอบน้อม การกระตุ้นเตือนให้เห็นถึงความยำเกรง การเกรงกลัวต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตลอดจน เป็นการกระทำที่บ่งบอกว่า เราคือมุสลิม กระนั้นก็ตาม ยังพบว่ามุสลิมจำนวนมาก เพลิดเพลินกับการงาน เพลิดเพลินกับการละเล่น และกิจกรรมต่างๆ จนหลงลืมซึ่งการละหมาด ไม่ให้ความสำคัญกับการละหมาด จะประพฤติและปฏิบัติสิ่งอื่นๆ จนหลงลืมภารกิจที่สำคัญนี้ โดยที่จะกระทำเรื่องอื่นๆ และจัดลำดับความสำคัญในเรื่องการละหมาดไว้เป็นเรื่องสุดท้าย สิ่งนี้ เป็นสิ่งที่เราจึงต้องหยิบยกความสำคัญของเรื่องการละหมาดมากล่าวในสัปดาห์นี้ อีกประการหนึ่ง ความสำคัญของเดือนนี้ ซึ่งค่ำคืนหนึ่งจะเป็นค่ำคืนที่สำคัญที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) ทรงรับวะยูห์ ในเรื่องของการละหมาด ตามโองการแห่งอัลกุรอ่าน Al-Qur'an, 017.001 (Al-Isra [Isra, The Night Journey, Children of Israel]) ความว่า
017.001 سُبْحَانَ الَّذِي أَسْرَى بِعَبْدِهِ لَيْلا مِنَ الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ إِلَى الْمَسْجِدِ الأقْصَى الَّذِي بَارَكْنَا حَوْلَهُ لِنُرِيَهُ مِنْ آيَاتِنَا إِنَّه هُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ
017.001 Glory to (Allah) Who did take His servant for a Journey by night from the Sacred Mosque to the farthest Mosque, whose precincts We did bless,- in order that We might show him some of Our Signs: for He is the One Who heareth and seeth (all things).
17.1 มหาบริสุทธิ์ผู้ทรงนำบ่าวของพระองค์เดินทางในเวลากลางคืน จากมัสยิดอัลหะรอมไปยังมัสยิดอัลอักซอ(ท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮ อะลัยฮิวะซัลลัม เดินทางจากมัสญิดอัลหะรอมในนครมักกะฮ ถึงมัสญิดอัลอักซอในนครเยรูซาเล็ม เพียงช่วงหนึ่งของกลางคืน ทั้งๆที่ระยะเวลาเดินทางโดยกองคาราวานจะใช้เวลาถึง 40 วัน การเดินทางในเวลากลางคืน(อัลอิสรออ)ของท่านนะบี ศ็อลลัลอฮอะลัยฮิวะซัลลัมได้เกิดขึ้นทั้งวิญญาณและเรือนร่างของท่าน ขณะที่ท่านตื่นนอนมีสติสัมปชัญญะ มิใช่เป็นความฝันตามความคิดเห็นของคนบางคน พวกปฏิเสธซุนนะฮที่ไม่ยอมเชื่อหะดีษเกี่ยวกับเหตุการณ์อิสรออและเมียะรอจญ์ มีสภาพเช่นเดียวกับพวกปฏิเสธศรัทธา(กุฟฟาร) ที่กล่าวหาท่านนะบีว่าพูดเท็จ ทั้งๆที่ท่านร่อซูลได้ยืนยันให้พวกเขาทราบว่า อัลลอฮทรงให้ท่านเดินทางไปในเวลากลางคืนจากมัสยิดอัลหะรอมไปยังมัสยิดอัลอักซอ จากนั้นทรงท่านขึ้นสู่เบื้องบนคือเมียะรอจญ์) ซึ่งบริเวณรอบมันเราได้ให้ความจำเริญ เพื่อเราจะให้เขาเห็นบางอย่างจากสัญญาณต่างๆของเรา แท้จริง พระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น
การเดินทางในค่ำคืนดังกล่าว เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวของท่านซึ่งเรียกว่า “อัลอิสรออ-เมียะรอจญ์” เป็นความจริง เป็นปาฏิหาริย์ ที่พระองค์ทรงให้กับท่านศาสดา เพื่อไปรับเรื่องที่สำคัญ คือการแสดงความเคารพภักดี แสดงการขอบคุณต่อพระองค์ด้วยการละหมาด หรือนมัสการอิบาดดัรต่อพระองค์ แม้ในเวลานั้น เมื่อท่านศาสดาจะกล่าวถึงการเดินทางไปรับวะยูห์ การละหมาด ในเพียงชั่วข้ามคืนหนึ่งแห่งเดือนร่อยับ เหล่าชนในยุคนั้นกลับไม่เชื่อบางคนกล่าวหาท่านศาสดาว่าสติวิปลาสไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงความเข้าใจของคนที่มีประสบการณ์อันเล็กน้อย จะมาตัดสินใจถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้อย่างไร และการที่ท่านไปรับโองการแห่งการละหมาดนี้เอง ท่านต้องต่อรองกับพระองค์เพื่อให้การละหมาดสำหรับประชาชาติของท่านนั้น สามารถปฏิบัติได้โดยง่ายและสะดวก นั่นคือ วันหนึ่งกับคืนหนึ่ง 5 เวลา กระนั้น ยังมีเสียงหนึ่งจากบรรดาศาสทูตที่มีมาก่อนหน้าท่านว่า 5 เวลาสำหรับการละหมาดของประชาชาติของท่านนั้น ยังมากเกินไปด้วยซ้ำ เพราะจะมีคนจำนวนหนึ่งเลินเล่อ จนกระทั่งไม่สามารถกระทำการละหมาดได้ครบทั้ง 5 เวลา ในแต่ละวัน
ท่านทั้งหลาย
อัลอิสรออ-เมียะรอจญ์ เป็นความมหัศจรรย์ หรือ มัวะญีซาต ของท่านศาสดา และเรื่องราวในครั้งนั้น คือภารกิจสำคัญของท่าน เพื่อประชาชาติมุสลิมอย่างแท้จริง เพราะภารกิจดังกล่าว จะเป็นเสมือนการแสดงออกต่อการเคารพภักดีต่อพระองค์ เป็นอิบาดัรสำคัญต่อพระองค์ ที่จะแสดงความนอบน้อมอันเนื่องมาจากจิตใจของคนแต่ละคน การละหมาด จะทำให้ผู้ปฏิบัติ จะยับยั้งการกระทำที่เป็นการหลีกเลี่ยงข้อห้ามทั้งหลายของพระองค์ เป็นการแสดงออกที่บ่งบอกถึง ความเกรงกลัวต่อพระองค์ ทุกๆ อิริยาบถแห่งการละหมาด จะมีความแยบคลายและมุ่งมั่นมุ่งตรงต่อพระองค์ ดังนั้น วาระแรกแห่งการรับวะยูห์ในเรื่องนี้ พระองค์อัลลอฮ์จึงให้การละหมาดสำหรับท่านศาสดาและประชาชาติของท่านด้วยการละหมาด วันหนึ่ง 50 เวลา แต่ต่อมาท่านได้ต่อรองตามคำแนะนำของศาสนทูตก่อนหน้าท่าน จนเหลือเพียง วันหนึ่ง 5 เวลา และพระองค์ไม่รับการต่อรองที่ลดน้อยกว่านี้อีกแล้ว
นั่นคือความสำคัญของการละหมาด เป็นความสำคัญ ที่เราจะต้องมุ่งมั่นและปฏิบัติให้ได้อย่างครบถ้วนตามเวลาและคุณภาพของการละหมาดนั้นๆ จากโองการ Al-Qur'an, 004.103 (An-Nisa [Women]) ความว่า
004.103 فَإِذَا قَضَيْتُمُ الصَّلاةَ فَاذْكُرُوا اللَّهَ قِيَامًا وَقُعُودًا وَعَلَى جُنُوبِكُمْ فَإِذَا اطْمَأْنَنْتُمْ فَأَقِيمُوا الصَّلاةَ إِنَّ الصَّلاةَ كَانَتْ عَلَى الْمُؤْمِنِينَ كِتَابًا مَوْقُوتًا
004.103 When ye pass (Congregational) prayers, celebrate Allah's praises, standing, sitting down, or lying down on your sides; but when ye are free from danger, set up Regular Prayers: For such prayers are enjoined on believers at stated times.
103. ครั้นเมื่อพวกเจ้าเสร็จจากการละหมาดแล้ว (คือละหมาดสองรักอัต ในขณะที่ทำการสู้รบกับฝ่ายศัตรู ละหมาดดังกล่าวนี้เรียกว่า “ซ่อลาตุลเคาฟ์”) ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืนและนั่งและในสภาพนอนเอกเขนกของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ก็จงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด (ทำละหมาดให้ครบถ้วนสมบูรณ์เช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติตามปกติ) แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นบัญญัติที่ถูกกำหนดเวลา (ถูกกำหนดไว้ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง 5 เวลาดังที่ทราบกันแล้ว 3) ไว้แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอให้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายในที่นี้ จงมองเห็นคุณค่าและความสำคัญแห่งการละหมาด อย่าได้ขาดตกบกพร่องในภารกิจนี้ โดยไม่ให้ความสำคัญ ไม่แยแสในเรื่องที่เราได้ละเลยต่อพระองค์ หากเรามองถึงการทำอิบาดัรของศาสนิกอื่นๆ กลับพบว่า ชนเหล่านั้น เราปฏิบัติปรือไม่ปฏิบัติ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เขาๆไม่ให้ความสำคัญในเรื่องการปฏิบัติมากนัก บางครั้งการที่เขาท่องบ่นคาถาหรือบทสวดมนต์ หรือการร้องหรืออ่านคัมภีร์แห่งศาสนาของเขาเหล่านั้น กระทำไปตามวรรค และประเพณี ตามท่วงทำนองที่ปฏิบัติมาจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งเพียงเท่านั้น หาใช่เป็นการปฏิบัติที่บ่งบอกมาจากจิตใจและความศรัทธาไม่ ดังนั้น จะเห็นว่า มุสลิม แตกต่างจากชนเหล่านั้น เพียงการกระทำบางอย่าง และการกินอยู่ เพียงเท่านั้น บางครั้ง เราอาจได้ยินจากเพื่อนๆ ต่างศาสนิกของเราว่า เป้นมุสลิมเพียงไม่กินหมู มีภรรยาได้ถึง 4 คน นั่นเป็นเพียงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมากมาย เพราะสิ่งที่ต้องมองให้เห็นมากกว่านี้ คือเรื่องการปฏิบัติที่สะท้อนออกมาจากความศรัทธา นั่นคือ การแสดงออกด้วยการละหมาด อิบาดัรที่สำคัญเพื่อพระองค์ เป็นการกระทำที่แตกต่างจากการกระทำของชนต่างศาสนิก เป็นการกระทำที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนกว่าความคิดที่มองอย่างคลาดเคลื่อนนั้นๆ ได้ว่า มุสลิมที่ดีควรฏิบัติตนเช่นไร อย่าปล่อยให้สังคมมองเราอย่างคลาดเคลื่อน ดังนั้น ขอให้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลาย จงมุ่งมั่นศรัทธาและปฏิบัติให้ถูกต้องตรงตามกรอบแนวปฏิบัติแห่งพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เพื่อที่เราจะได้เป็นเหล่าชนผู้ใกล้ชิดพระองค์ในวันแห่งการตอบแทน
إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
http://www.alquran-thai.com/ShowSurah.asp?SurahNo=17


อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อิบาดัรลิ้ลลาฮิต้าอาลา

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 13 ร่อยับ 1431 (วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553)
อิบาดัรลิ้ลลาฮิต้าอาลา

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
أَلا لِلَّهِ الدِّينُ الْخَالِصُ وَالَّذِينَ اتَّخَذُوا مِنْ دُونِهِ أَوْلِيَاءَ مَا نَعْبُدُهُمْ إِلا لِيُقَرِّبُونَا إِلَى اللَّهِ زُلْفَى إِنَّ اللَّهَ يَحْكُمُ بَيْنَهُمْ فِي مَا هُمْ فِيهِ يَخْتَلِفُونَ إِنَّ اللَّهَ لا يَهْدِي مَنْ هُوَ كَاذِبٌ كَفَّارٌ
خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأرْضَ بِالْحَقِّ يُكَوِّرُ اللَّيْلَ عَلَى النَّهَارِ وَيُكَوِّرُ النَّهَارَ عَلَى اللَّيْلِ وَسَخَّرَ الشَّمْسَ وَالْقَمَرَ كُلٌّ يَجْرِي لأجَلٍ مُسَمًّى أَلا هُوَ الْعَزِيزُ الْغَفَّارُ
وَإِذَا مَسَّ الإنْسَانَ ضُرٌّ دَعَا رَبَّهُ مُنِيبًا إِلَيْهِ ثُمَّ إِذَا خَوَّلَهُ نِعْمَةً مِنْهُ نَسِيَ مَا كَانَ يَدْعُو إِلَيْهِ مِنْ قَبْلُ وَجَعَلَ لِلَّهِ أَنْدَادًا لِيُضِلَّ عَنْ سَبِيلِهِ قُلْ تَمَتَّعْ بِكُفْرِكَ قَلِيلا إِنَّكَ مِنْ أَصْحَابِ النَّارِ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอตักเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์ ให้มากที่สุด เสมือนหนึ่งว่าเราอยู่ต่อหน้าพระองค์ พระองค์กำลังมองแววตาของเรา ซึ่งการสบตากับพระองค์นั้น เป็นการสบตาที่บ่งบอกถึงความกลัว ประหนึ่งว่า เรายังมีข้อบกพร่องหลายๆ อย่าง ที่ต้องนำมาปรับปรุงแก้ไข เป็นความพยายามที่บ่งบอกถึงความพร้อมสำหรับการที่จะกลับไปยังพระองค์ เพื่อรับผลแห่งการกระทำทั้งหลาย เป็นความรับผิดชอบที่สูงสุดปราศจากการซ่อนเร้นพฤติกรรมที่แอบแฝงใดๆ ซึ่งเป็นแววตาแห่งผู้ศรัทธาที่บ่งบอกถึง ความบริสุทธิ์ใจ ความยำเกรง ความมุ่งมั่นประพฤติตนตามแนวทางที่พระองค์ทรงใช้และละทิ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม นั่นคือจุดมุ่งหมายสูงสุดของผู้ศรัทธา
ท่านทั้งหลาย
การที่เรามาร่วมกันในที่แห่งนี้ในวันนี้ เรามาด้วยความจริงใจ เรามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มาด้วยความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ความมุ่งมั่นแห่งหัวใจของมุสลิม ที่จะมาขัดเกลาจิตใจ มุ่งหวังภาคผลของการปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) การมาร่วมกันในวันนี้ มิใช่การมุ่งเพียงให้คนทั่วไปได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของชนมุสลิมที่จะไปรวมตัวกันที่มัสยิด เพื่อประกอบศาสนกิจ ตามที่เราเชื่อถือและศรัทธา ไม่ หากแต่ ด้วยจิตวิญญาณแห่งชนมุสลิมทั้งหลายนั้น เรามุ่งมั่นที่จะได้ใช้โอกาสนี้ เพื่อที่จะศึกษา ทบทวนตนเอง แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะดำเนินชีวิตในห้วงเวลาถัดไปตามแนวทางที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) ทรงชี้นำ ตามนัยแห่งโองการหรือพระดำรัสของพระองค์ อิสลามมิใช่เพียงศาสนา หากแต่อิสลามเป็นระบอบปกครองหนึ่งที่มุ่งเน้นความสันติสุข ความเท่าเทียมกัน การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน รวมไปถึงการมีจิตวิญญาณที่จะมุ่งให้เกิดความทัดเทียมกันในสังคม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งกันและกัน ซึ่งบทบัญญัติแห่งศาสนา จะกล่าวถึงการละหมาดควบคู่ไปกับการบริจาคซะกาต ด้วยมุ่งหวังว่าอิบาดัรดังกล่าวจะนำมาซึ่งความาสันติสุขในทางสังคม
ท่านทั้งหลาย
ขอจงพิจารณาความหมายแห่งโองการในซูเราะฮฺ อัซซุมัร (Al-Qur'an, 039.003 (Az-Zumar [The Troops, Throngs])) ความว่า
039.003 أَلا لِلَّهِ الدِّينُ الْخَالِصُ وَالَّذِينَ اتَّخَذُوا مِنْ دُونِهِ أَوْلِيَاءَ مَا نَعْبُدُهُمْ إِلا لِيُقَرِّبُونَا إِلَى اللَّهِ زُلْفَى إِنَّ اللَّهَ يَحْكُمُ بَيْنَهُمْ فِي مَا هُمْ فِيهِ يَخْتَلِفُونَ إِنَّ اللَّهَ لا يَهْدِي مَنْ هُوَ كَاذِبٌ كَفَّارٌ
039.003 Is it not to Allah that sincere devotion is due? But those who take for protectors other than Allah (say): "We only serve them in order that they may bring us nearer to Allah." Truly Allah will judge between them in that wherein they differ. But Allah guides not such as are false and ungrateful.
39.3 พึงทราบเถิด การอิบาดะฮฺโดยบริสุทธิ์ใจนั้นเป็นของอัลลอฮฺองค์เดียว (โอ้มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย! แท้จริงอัลลอฮฺ ตะอาลา จะไม่ทรงรับการงานใด ๆ เว้นแต่สิ่งนั้นจะกระทำไปโดยบริสุทธิ์ใจ หวังในพระพักตร์ของพระองค์เท่านั้น) ส่วนบรรดาผู้ที่ยึดถือเอาบรรดาผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮฺ โดยกล่าวว่าเรามิได้เคารพภักดีพวกเขา เว้นแต่เพื่อทำให้เราเข้าใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺ (อัศศอวีย์กล่าวว่า เมื่อมีการกล่าวแก่พวกมุชริกีนว่า ใครเป็นผู้สร้างพวกท่าน? ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และใครคือพระเจ้าของพวกท่าน และพระเจ้าของปู่ย่าตายายของพวกท่าน? พวกเขาจะกล่าวว่า “อัลลอฮฺ” แล้วพวกเขาจะถูกถามอีกว่า แล้วทำไมพวกท่านจึงสักการะบูชาเจว็ดต่างๆ เล่า? พวกเขาก็จะตอบว่า เพื่อทำให้เราใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ และขอความช่วยเหลือแก่เรา ณ ที่พระองค์) แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องนั้น แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงชี้นำทางแก่ผู้กล่าวเท็จ ผู้ไม่สำนึกบุญคุณ (ในวันกิยามะฮฺ อัลลอฮฺจะทรงตัดสินในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องของศาสนา จะทรงให้บรรดามุอฺมินเข้าสวรรค์ และพวกปฏิเสธศรัทธาเข้านรก พระองค์จะไม่ทรงชี้นำทาง และชี้แนะศาสนาที่ถูกต้องแก่ผู้ที่กล่าวเท็จต่อพระเจ้าของเขา และผู้ปฏิเสธศรัทธาที่ไม่สำนึกบุญคุณต่อพระองค์)

ท่านทั้งหลาย
จะเห็นได้ว่า หลักปฏิบัติและหลักศรัทธาต่อพระองนั้น มีจุดมุ่งหมายสำคัญต่อพระองค์ นั่นคือ การกระทำทั้งหลาย หาใช่ว่าเราจะกระทำเพียงให้คนทั่วไปได้เห็นได้เข้าใจ หาใช่ไม่ ทุกๆ การกระทำของเรา นั้น เป็นการกระทำเพื่อพระองค์ ทุกๆ การกระทำที่มาจากทางกาย วาจา หรือจิตใจของเรานั้น เรามอบหมายต่อพระองค์ทั้งสิ้น การบริจาคซ่ากาตของเรา มิใช่เพียงทรัพย์สินผ่านจากมือเราไปถึงผู้มีสิทธิรับซ่ากาต แล้วคนที่รู้เห็นต่างชื่นชมเราเพียงเท่านั้น ไม่ แต่สิ่งที่เรามุ่งมั่นที่จะได้รับภาคผลแห่งการกระทำของเรา คือ ความมุ่งมาดปรารถนาที่บ่งบอกให้เห็นถึงความยำเกรงต่อพระองค์ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นวาระของมนุษย์ที่มีต่อพระเจ้า หาใช่เสียงสรรเสริญเยินยอจากปากของคนโดยทั่วไปไม่ เพราะมนุษย์นั้นต่ำต้อยเสียเหลือเกิน และแต่ละคนไม่ได้มีความแตกต่างกัน ทุกคนมีความสามารถไม่แตกต่างกัน มีกำเนิดเช่นเดียวกัน สิ่งที่ต่างกัน นั้น มิใช่ว่าเป็นความรักของพระองค์ที่ให้ริสกีคนหนึ่งมากกว่าอีกคนหนึ่ง เท่านั้น แต่นั่น เป็นการทดสอบจากพระองค์ เป็นการตรวจสอบถึงคุณค่าของแต่ละคน บ่งบอกให้เห็นว่า ความแตกต่างจากริสกีที่ได้รับนั้น เป็นการทดสอบสำคัญของพระองค์ จากทุกๆ คนในสังคม แม้ว่าความสามารถในการแสวงหาของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าถึงทรัพยากรที่ไม่เท่ากัน แต่สิ่งที่แฝงปรัชญาหนึ่งไว้ก็คือ คนที่มีความสามารถมากกว่า ต้องมองสังคม มองถึงคนที่ด้อยกว่า เพื่อที่ทั้งสังคมจะดำเนินชีวิตไปพร้อมๆ กัน เป็นการปกป้องสังคมร่วมกัน ด้วยจิตวิญญาณที่มุ่งเน้นให้เห็นถึงความรักความปรารถนาดีที่มีต่อกัน หาใช่ว่า เป็นการเอาเปรียบเดียดฉันท์ แสวงหา แข่งขัน ความเห็นแก่ตัว มุ่งแต่จะรับเพียงด้านเดียว ไม่มองถึงความสำคัญของคนรอบข้าง ในที่สุด สังคมเดือดร้อน การเอารัดเอาเปรียบกันอย่างนี้ เกิดความเสียหาย ในที่สุด ผลร้ายที่จะตามมานั้น ย้อนกลับมาทำลายตนเอง ขอให้พจารณาการสร้างของพระองค์ จากโองการ ในซูเราะฮฺ อัซซุมัร (Al-Qur'an, 039.005 (Az-Zumar [The Troops, Throngs])) ความว่า
039.005 خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأرْضَ بِالْحَقِّ يُكَوِّرُ اللَّيْلَ عَلَى النَّهَارِ وَيُكَوِّرُ النَّهَارَ عَلَى اللَّيْلِ وَسَخَّرَ الشَّمْسَ وَالْقَمَرَ كُلٌّ يَجْرِي لأجَلٍ مُسَمًّى أَلا هُوَ الْعَزِيزُ الْغَفَّارُ
039.005 He created the heavens and the earth in true (proportions): He makes the Night overlap the Day, and the Day overlap the Night: He has subjected the sun and the moon (to His law): Each one follows a course for a time appointed. Is not He the Exalted in Power - He Who forgives again and again?
39.5 พระองค์ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินด้วยความจริงอันชัดแจ้ง (ทรงสร้างมันทั้งสองอย่างสมบูรณ์แบบ และลักษณะที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ด้วยความจริงที่ชัดแจ้งและหลักฐานอันแจ่มชัด) พระองค์ทรงให้กลางคืนคาบเกี่ยวเข้าไปในกลางวันและทรงให้กลางวันคาบเกี่ยวเข้าไปในกลางคืน (อัลกุรฏบีย์กล่าวไว้ในตัฟซีรของเขาว่า “คือทรงให้กลางคืนแผ่คลุมเข้าไปในกลางวันจนกระทั่งแสงของมันหายไปและกลางวันแผ่คลุมเข้าไปในกลางคืน จนกระทั่งความมืดหายไป ซึ่งตรงกับคำอธิบายของก็ตาดะฮฺ ในความหมายแห่งคำกล่าวของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่ว่า “พระองค์ทรงให้กลางคืนแผ่คลุมกลางวัน ต่างก็ไล่ตามซึ่งกันและกันอย่างรวดเร็ว”) และทรงให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์ (แก่มนุษย์) ทุกสิ่งโคจรไปตามวาระที่ได้กำหนดไว้ พึงทราบเถิด พระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงอภัยอย่างมาก (คือดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์จะโคจรไปเพื่อผลประโยชน์ของปวงบ่าว ทั้งสองต่างก็โคจรไปตามเวลาที่ถูกกำหนดไว้ ณ ที่อัลลอฮฺ จนกระทั่งวันกิยามะฮฺ)

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
จงหยุดคิด และพินิจตรึกตรอง ว่า สิ่งที่เราได้จากการสร้างของพระองค์ นั้น เราต้องใช้ตลอดชีวิตของเรา ไม่มีสิ่งใดที่เราจะไม่ได้ใช้ เพราะทุกๆ มัคโล้คของพระองค์ นั้น มนุษย์ทุกๆ คน ต้องนำมันมาประยุกต์ ปรับปรุงเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อการดำเนินชีวิตแทบทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์จะสร้างมันเพื่อที่จะใช้ให้มันดำเนินไปเพื่อประโยชน์กับสิ่งอื่นๆ เลยไม่ หากเรามามองถึงการเลี้ยงสัตว์ คงไม่มีใครไม่มุ่งหวังผลตอบแทนจากการเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เหล่านั้น เพราะแท้ที่จริงนั้น มนุษย์ต่างแสวงหาประโยชน์จากสัตว์ต่างๆ เหล่านั้น ทั้งการบริโภค การอุปโภค และนันทนาการที่มุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยจากสัตว์เหล่านั้น หากย้อนมองกลับถึงการสร้างของพระองค์ การอำนวยประโยชน์ต่างๆ จากพระองค์แล้ว เราแทบจะไม่ได้ย้อนกลับถึงการแสดงการขอบคุณต่อพระองค์เสียเลย ผิดกลับสัตว์ที่เราเลี้ยงมัน เราได้ใช้ประโยชน์ต่างๆ จากมัน เป็นผลตอบแทน ทั้งๆ ที่เราได้แสวงหาถึงบทบาทของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า หากแต่กับพระเจ้าผู้สร้างเราแล้ว ณ พระองค์ นั้น พระองค์เป็นผู้มีเดชานุภาพ และพระองค์ทรงอภัย และทรงตอบแทน ในสิ่งที่เราต้องการ ดังนั้น นัยยะแห่งอัลอิสลาม คือ หนทางแห่งความสันติสุข โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดที่การกระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และไม่กระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม โดยที่ทุกๆ การงานนั้น มีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือความยำเกรงต่อพระองค์ หาใช่อื่นใดไม่


ท่านทั้งหลาย
จุดบกพร่องของเราอยู่ที่ใด ขอให้เราจงทบทวนและมุ่งมั่นแก้ไขสิ่งบกพร่องต่างๆ เหล่านั้น ให้หมดไป และจงเตาบัรต่อพระองค์ ในการกระทำที่บกพร่องนั้น แต่การเตาบัรต่อพระองค์นั้น หาใช่เป็นการเตาบัรที่กลายเป้นประเพณีไป กล่าวคือ เช้า เตาบัรเรื่องหนึ่ง บ่ายกลับไปทำเรื่องดังกล่าว เช้าวันใหม่ก็มาเตาบัร ตกบ่ายก็กระทำอย่างนี้เรื่อยๆ ไปนั้น หาใช่เป้นการแสดงออกถึงความจริงใจในการเตาบัรของเราไม่ ตรงกันข้าม อากับกิริยาอย่างนี้ เป็นการกระทำของพวกหน้าไหว้หลังหลอก ที่แยบยล หลอกลวงต่อพระองค์ บิดเบือน ดังนั้น จุดบกพร่องต่างๆ เหล่านี้ ขอให้เราจงพิจารณา ทบทวนตนเอง แสวงหาความรู้ในเรื่องดังกล่านั้น เพื่อปฏิบัติสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้องโดยเฉพาะ การกระทำในสิ่งที่เป็นการตั้งภาคีต่อพระองค์ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ในหลักศรัทธาแห่งอัลอิสลาม ขอให้เราทั้งหลายจงออกห่างไกลต่อสิ่งเหล่านั้น และหากเรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่ผิดเพี้ยน เป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอให้ศึกษาอย่างละเอียด และแสดงออกให้คนทั้งหลายได้เห็นถึงการปฏิบัติตนตามแบบอย่างของมุสลิมที่ดี ในหนทางของศาสนา ออกให้ห่างไกลจากแนวทางที่บิดเบือน ซึ่งเป็นหนทางอื่น มิใช่หนทางของผู้ศรัทธา สุดท้ายนี้ ขอฝากโองการ ในซูเราะฮฺ อัซซุมัร (Al-Qur'an, 039.005 (Az-Zumar [The Troops, Throngs])) ความว่า
039.008 وَإِذَا مَسَّ الإنْسَانَ ضُرٌّ دَعَا رَبَّهُ مُنِيبًا إِلَيْهِ ثُمَّ إِذَا خَوَّلَهُ نِعْمَةً مِنْهُ نَسِيَ مَا كَانَ يَدْعُو إِلَيْهِ مِنْ قَبْلُ وَجَعَلَ لِلَّهِ أَنْدَادًا لِيُضِلَّ عَنْ سَبِيلِهِ قُلْ تَمَتَّعْ بِكُفْرِكَ قَلِيلا إِنَّكَ مِنْ أَصْحَابِ النَّارِ
039.008 When some trouble toucheth man, he crieth unto his Lord, turning to Him in repentance: but when He bestoweth a favour upon him as from Himself, (man) doth forget what he cried and prayed for before, and he doth set up rivals unto Allah, thus misleading others from Allah's Path. Say, "Enjoy thy blasphemy for a little while: verily thou art (one) of the Companions of the Fire!"
39.8 และเมื่อทุกขภัยใด ๆ ประสบแก่มนุษย์ เขาก็จะวิงวอนขอต่อพระเจ้าของเขาเป็นผู้หันหน้าเข้าสู่พระองค์อย่างนอบน้อม (เมื่อทุกขภัยเช่น ความยากจน เจ็บไข้ได้ป่วย และการทดสอบอื่น ๆ ประสบแก่เขา เขาจะผินหน้าเข้าหาพระองค์เพื่อวิงวอนขอให้ทุกขภัยนั้นหมดสิ้นไป ) ครั้นเมื่อพระองค์ทรงประทานความโปรดปรานจากพระองค์ให้แก่เขา เขาก็ลืมสิ่งที่เขาได้เคยวิงวอนขอต่อพระองค์มาแต่ก่อน และเขาได้ตั้งภาคีคู่เคียงกับอัลลอฮฺเพื่อให้หลงจากทางของอัลลอฮฺ (คือเมื่อทรงปลดเปลื้องความทุกข์ยากให้ผ่านพ้นไปแล้ว เขาก็ตั้งสิ่งอื่น ๆคู่เคียงกับอัลลอฮฺในการทำอิบาดะฮฺเขาลืมสภาพก่อน ๆ ขณะที่เขากำลังอยู่ในความทุกข์ยาก) จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด ท่านจงร่าเริงเพียงระยะหนึ่งต่อการปฏิเสธของท่านเถิด แท้จริงท่านนั้นอยู่ในหมู่ชาวนรก (เป็นการขู่สำทับ คือจงร่าเริงในขณะที่ท่านดำรงชีวิตอยู่ในโลกดุนยาที่จะสูญสลายนี้เพียงชั่วครู่หนึ่งเถิด เพราะท่านนั้นเป็นชาวนรกอย่างแน่นอน)

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
http://www.alquran-thai.com/ShowSurah.asp?SurahNo=39

อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จงออกห่างไกล สุรา และการพนัน

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 6 ร่อยับ 1431 (วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553)
จงออกห่างไกล สุรา และการพนัน

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
إِنَّمَا يُرِيدُ الشَّيْطَانُ أَنْ يُوقِعَ بَيْنَكُمُ الْعَدَاوَةَ وَالْبَغْضَاءَ فِي الْخَمْرِ وَالْمَيْسِرِ وَيَصُدَّكُمْ عَنْ ذِكْرِ اللَّهِ وَعَنِ الصَّلاةِ فَهَلْ أَنْتُمْ مُنْتَهُونَ
وَأَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَاحْذَرُوا فَإِنْ تَوَلَّيْتُمْ فَاعْلَمُوا أَنَّمَا عَلَى رَسُولِنَا الْبَلاغُ الْمُبِينُ


ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอให้กระผมและท่านทั้งหลาย จงตระหนักและให้ความสำคัญกับการยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ให้มากและจงตรวจสอบการกระทำที่ผ่านมาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เรามีความบกพร่อง หย่อนยาน ไร้ประสิทธิภาพในด้านใดบ้าง เรากระทำสิ่งใดผิดพลาด คลาดเคลื่อน หรือหลงผิด กับเรื่องราวที่ไร้สาระ หรือเรื่องราวที่สับสนวุ่นวาย ใดบ้าง เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้เตรียมความพร้อม และเผชิญกับสิ่งที่ปลุกเร้าหรือเรื่องราวนานาที่จะเข้ามาในชีวิตของเราในรอบสัปดาห์ต่อไป เพื่อที่เราทั้งหลาย จะได้รับความเมตตา ความกรุณาปราณีจากพระองค์ เพราะ ณ พระองค์ นั้น ทรงให้อภัยและรับการเตาบัรของปวงบ่าวผู้ศรัทธาทั้งหลาย จึงขอให้พวกเรา ณ ที่นี้ จงยำเกรงต่อพระองค์
ท่านทั้งหลาย
อบายมุข คือ สิ่ง การกระทำและข้อปฏิบัติที่ควรออกห่างไกล อย่าปล่อยให้ตัวเรา ครอบครัวของเรา คนในปกครองของเรา เข้าใกล้กับอบายมุขเหล่านั้น เพราะนั่นคือหนทางที่เราจะพบกับความเสื่อมถอย ทั้งทางร่างกาย ทรัพย์สิน รวมไปถึงความมั่นคงปลอดภัยอีกด้วย การเข้าใกล้อบายมุข ไม่ว่าจะเป็นการสนองตอบที่จะรับเชิญไปสู่หนทางของอบายมุข หรือ การเข้าสู่การกระทำที่เป็นอบายมุข นั่นคือหนทางที่เราจะก้าวล่วงเข้าใกล้แนวทางแห่งอบายมุขนั้น หากเราจะพิจารณาถึงสิ่งที่เป็นอบายมุขนั้น มีเรื่องใดบ้าง ซึ่งในคุตบะห์นี้ จะได้กล่าวถึง 2 เรื่อง นั่นคือ การพนัน และการดื่มสุรา
หากเราจะสอบถามเพื่อนต่างศาสนิก จะพบว่า การกระทำที่ผิดข้อบัญญัติทางศาสนาที่สำคัญ นั้น ทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่ผิดต่อมุขบัญญัติทางศาสนา ผิดทั้งในเรื่องศีลธรรม จรรยา แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่า สังคมเห็นเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ ตรงกันข้าม เรามักจะพบว่าทั้งสองเรื่องเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของทางราชการ เป็นแหล่งรายได้ที่ผ่านการจัดเก็บภาษีที่สำคัญ อาจกล่าวได้ว่า รายได้จากภาษีสรรพสามิต รายใหญ่จะได้มาจากการขายสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นจำนวนมาก และบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่จะทุ่มทุนงบประมาณการโฆษณาเป็นตัวเลขหลักเกือบสิบล้านบาท เพื่อเป็นการส่งเสริมการขาย การทุ่มทุนเพื่อผลิตสื่อโฆษณาที่ทุ่มทุนเป็นจำนวนมากเพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้า ทั้งๆ ที่ สินค้าชนิดนี้ เป็นสินค้าที่มุ่งไปสู่หนทางแห่งอบายมุข จะเห็นได้ว่า รายได้จากการจัดเก็บภาษีในเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งจะถูกแบ่งปันให้กับสถานีโทรทัศน์สถานีหนึ่ง ซึ่งเป็นสื่อโทรทัศน์สาธารณะ เพื่อคืนประโยชน์ให้กับประชาชน ทั้งๆ ที่ รัฐบาลก็ต้องจัดสรรงบประมาณทางด้านสุขภาพให้กับประชาชนเพื่อรักษาสุขภาพอันเนื่องมาจากการบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในตัวเลขที่นับวันมีแนวโน้มสูงขึ้น เราจะพบข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ไม่เว้นแต่ละวันเกี่ยวกับภัยร้ายที่เกิดจากการบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นภัยอันตราย ทั้งภัยจากอุบัติเหตุ ความคึกคะนอง รวมไปถึง ภัยสังคม จากอาชญากรรมทั้งหลาย
ท่านทั้งหลาย
ขอให้เราจงป้องกันตนเอง และคนในครอบครัวให้ออกห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้ การป้องกัน นั้น ย่อมดีกว่าการแก้ไข ซึ่งภัยร้ายดังกล่าวนี้ มันบั่นทอนต่อสังคม บั่นทอนต่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของสังคม แม้ว่ารายได้ของรัฐบาลส่วนใหญ่จะได้มาจากเรื่องนี้ แต่หากเราจะพิจารณาให้ถ่องแท้แล้วจะพบว่า เป็นรายได้เพียงเสี้ยวเดียวจากกลุ่มชนรากหญ้าที่บริโภคในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ สุดท้ายผลเสียที่เกิดขึ้น เป็นผลกระทบในเรื่องต่างๆ เช่นกัน
อีกเรื่องหนึ่ง คือ การพนัน ซึ่งในปัจจุบัน เรามักจะพบว่า คนนิยมเล่นการพนันกันค่อนข้างมาก การพนัน เกิดขึ้นได้เกือบจะตลอดเวลา บางครั้งเราอาจได้ยินคนทั่วๆ ไปมักพูดกันว่า “เมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกัน การพนันย่อมเกิดขึ้น” จะสะท้อนภาพลักษณ์ที่ชัดเจนได้ว่า ในสังคมนั้น สิ่งเร้าที่นำไปสู่การพนัน มีอยู่โดยทั่วไป เช่นกัน การพนันบางเรื่องเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และในบางเรื่องการเล่นการพนันก็ไม่ผิดกฎหมายซึ่งกฎหมายจะรองรับในบางเรื่องที่การเล่นการพนันเป็นที่อนุมัติ โดยมีหลักเกณฑ์และข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจน
ท่านทั้งหลาย
รัฐบาลในหลายประเทศ เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการพนันที่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งสร้างรายได้อันมหาศาลจากการพนันนี้ ในบางสมัยของรัฐบาล พยายามยกการพนันบางเรื่องที่อยู่ใต้ดินให้เป็นเรื่องการพนันที่ถูกกฎหมาย บางครั้งรัฐบาลมีจุดมุ่งหมายที่จะเปิดบ่อนกาสิโนอย่างเสรี เพื่อที่จะจัดการในเรื่องภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้เกิดเป็นรายได้หลัก เพื่อเป็นแหล่งของงบประมาณของประเทศที่สำคัญ
ผลที่ตามมาของการพนัน คือ การสูญเสียเงินทองและทรัพย์สิน การสูญเสียรายได้เหล่านี้ เป็นหนทางที่นำไปสู่อาชญากรรม การทวงหนี้ การเป็นคนหนี้สินร้นพ้นตัว สอดรับกับปัญหาทางสังคมที่ตามมา นั่นคือความเสื่อมที่เกิดขึ้น เป็นความเสื่อมที่เป็นภาระสำคัญ ที่รัฐบาลต้องมองอย่างรอบคอบ และใช้วิจารณญาณที่เหมาะสมในการจะนำเรื่องดังกล่าว เพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ จากเรื่องนี้
จากโองการแห่งอัลกุรอ่าน ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ Al-Qur'an, 005.091-092 (Al-Maeda [The Table, The Table Spread]ฟ) ความว่า

005.091 إِنَّمَا يُرِيدُ الشَّيْطَانُ أَنْ يُوقِعَ بَيْنَكُمُ الْعَدَاوَةَ وَالْبَغْضَاءَ فِي الْخَمْرِ وَالْمَيْسِرِ وَيَصُدَّكُمْ عَنْ ذِكْرِ اللَّهِ وَعَنِ الصَّلاةِ فَهَلْ أَنْتُمْ مُنْتَهُونَ
005.091 Satan's plan is (but) to excite enmity and hatred between you, with intoxicants and gambling, and hinder you from the remembrance of Allah, and from prayer: will ye not then abstain?
91. ที่จริงชัยฏอนนั้นเพียงต้องการที่จะให้เกิดการเป็นศัตรูกันและการเกลียดชังกันระหว่างพวกเจ้าในสุราและการพนัน(คือในการดื่มสุราและการเล่นการพนัน เราะทั้งสองนั้นก่อให้เกิดการวิวาทกัน และผูกใจเจ็บกัน)เท่านั้น และมันจะหันเหพวกเจ้าออกจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์ และการละหมาด(เพราะผู้ที่มึนเมานั้นง่ายแก่การที่ชัยฏอนจะจูงเขาให้ไปทางไหนก็ได้ เฉพาะอย่างยิ่งในการหันเหออกจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์และการละหมาด ส่วนการพนันนั้นก็ทำให้ผู้เล่นมุ่งที่จะได้รับกำไร จึงไม่มีช่องที่รำลึกถึงอัลลอฮ์ และมีเวลาไปทำละหมาด)แล้วพวกเจ้าจะยุติใหม่(เป็นคำถามในเชิงปราบให้มีการยุติในการดื่มสุราและการพนัน)

005.092 وَأَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَاحْذَرُوا فَإِنْ تَوَلَّيْتُمْ فَاعْلَمُوا أَنَّمَا عَلَى رَسُولِنَا الْبَلاغُ الْمُبِينُ
005.092 Obey Allah, and obey the Messenger, and beware (of evil): if ye do turn back, know ye that it is Our Messenger's duty to proclaim (the message) in the clearest manner.
92. และพวกเจ้าจงเชื่อฟังอัลลอฮ์ และจงเชื่อฟังร่อซูลเถิด และพึงระมัดระวัง(คือระมัดระวังมิให้ตกอยู่ในฐานะผู้ฝ่าฝืนอัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์มิเช่นนั้นแล้วพวกเขาจะได้รับโทษ)ไว้ด้วย แต่ถ้าพวกเจ้าผินหลังได้(คือไม่เชื่อฟังอัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์2) ก็พึงรู้เถิดว่าที่จริงหน้าที่ของร่อซูลของเรานั้น คือ การประกาศอันชัดเจนเท่านั้น(คือท่านนะบีมีหน้าที่ประกาศศาสนาของอัลลอฮ์ แก่พวกท่านอย่างชัดเจนเท่านั้น ส่วนพวกท่านจะเชื่อฟังหรือไม่นั้นเป็นเรื่องระหว่างพวกท่านกับอัลลอฮ์ ท่านนะบีได้กระทำหน้าที่ของท่านโดยสมบูรณ์แล้ว)

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
จะเห็นว่า นัยแห่งโองการจากอัลกุรอ่านที่ได้หยิบยกมาข้างต้น ชี้ให้เห็นถึงภัยร้ายอันแฝงเร้นมากับอบายมุขทั้งการพนันและสุรา เป็นสิ่งที่เป็นยาพิษของสังคม มิใช่ความหอมหวานที่ทางการจะนำมาสร้างให้เกิดเป็นรายได้หลักของประเทศที่จะหล่อเลี้ยงสังคมในระบบโดยรวม แม้จะมีการรณรงค์กันอย่างเข้มแข็งเพื่อหลีกเลี่ยงในเรื่องดังกล่าว แต่ในที่สุดแล้ว เรากลับมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการสร้างรายได้ที่สำคัญของทางรัฐบาล ขอให้เราวิเคราะห์และใช้วิจารณญาณที่เที่ยงตรง มองอย่างรอบคอบในเรื่องนี้ เพื่อที่เราจะออกห่างไกลจากสิ่งอันเป้นอบายมุขอันเป็นต้นเหตุแห่งภัยร้ายแรงจากอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น
ในตอนท้ายนี้ ขอฝากท่านทั้งหลายในที่นี้ว่า การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะสร้างเสริมสุขภาพและพลานามัยของร่างกาย นักกีฬาก็เป็นกลุ่มชนที่เห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย โดยมีการแข่งขันแพ้ชนะกันเพื่อสร้างเสริมน้ำใจนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย คนดูกีฬา ก็ต้องมองให้เห็นถึงพัฒนาการของนักกีฬา ไหวพริบ ปฏิภาณของนักกีฬาทั้งหลาย ที่จะแก้ไขปัญหาในระหว่างการแข่งขัน เพื่อที่จะทำให้การเชียร์กีฬาต่อทีมโปรดให้ได้รับชัยชนะ และรู้จักแพ้และให้อภัย เมื่อพบว่าทีมที่เชียร์นั้นพ่ายแพ้
ท่านทั้งหลาย
หากเราจะดูกีฬา ก็ต้องดูบนพื้นฐานที่เป็นการชมนักกีฬา อย่าดูบนพื้นฐานของการเล่นการพนัน และเช่นกัน อย่าให้เลยเถิดจนพลาดพลั้งต่อเวลาที่สำคัญในการเป็นบ่าวที่ดีและหน้าที่สำคัญต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.)

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อิสรภาพแห่งอัลอิสลาม

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 28 ยะมะดิลอาเคร 1431 (วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553)
อิสรภาพแห่งอัลอิสลาม

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
لا يُكَلِّفُ اللَّهُ نَفْسًا إِلا وُسْعَهَا لَهَا مَا كَسَبَتْ وَعَلَيْهَا مَا اكْتَسَبَتْ رَبَّنَا لا تُؤَاخِذْنَا إِنْ نَسِينَا أَوْ أَخْطَأْنَا رَبَّنَا وَلا تَحْمِلْ عَلَيْنَا إِصْرًا كَمَا حَمَلْتَهُ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِنَا رَبَّنَا وَلا تُحَمِّلْنَا مَا لا طَاقَةَ لَنَا بِهِ وَاعْفُ عَنَّا وَاغْفِرْ لَنَا وَارْحَمْنَا أَنْتَ مَوْلانَا فَانْصُرْنَا عَلَى الْقَوْمِ الْكَافِرِينَ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
กระผมขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เกรงกลัวต่อพระองค์ ในการกระทำทั้งหลายของเรา การปฏิบัติของเรานั้น อยู่ในหนทางอันเที่ยงตรงแห่งพระองค์หรือไม่ การปฎิบัติศาสนกิจของเรามีข้อบกพร่องใดบ้าง อย่างไร และเราพร้อมหรือไม่ที่จะปรับปรุงแก้ไขกิจกรรมเหล่านั้น ในขณะที่ความประพฤติและพฤติกรรมใดๆ ของเราได้ไปละเมิดหรือขัดแย้งกับใครในเรื่องใดบ้าง และเราพร้อมหรือไม่ที่จะขอมะอัพกับเขาในเรื่องที่ขัดแย้งกันทั้งในประเด็นทั่วๆ ไป ประเด็นสัพเพเหระ หรือในประเด็นสำคัญ เพื่อที่เราจะมุ่งมั่นไปสู่หนทางแห่งอัลอิสลาม

ท่านทั้งหลาย
ข้อบกพร่องข้อหนึ่งขอเราคือ การที่เราไม่เข้าใจอิสลาม เราปฏิบัติตนออกนอกแนวทางอิสลามโดยที่เรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราบกพร่องที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในจุดที่เราสงสัย เราประพฤติปฏิบัติตามสามัญสำนึกโดยที่ไม่ศึกษาให้เกิดความถ่องแท้ในเรื่องนั้นๆ เราปฏิบัติตามเพียงภูมิรู้ของเราโดยที่ไม่ศึกษาถึงรากเหง้าที่แท้จริงในสิ่งที่เราสงสัย บางคนไม่ยอมศึกษาไม่ยอมหักล้างความเชื่อที่ผิดๆ ที่ปฏิบัติกันมาจนเป็นประเพณี ทั้งๆ ที่ในบางเรื่องหลักคิดและวิธีปฏิบัติดังกล่าวนั้นไม่มีในอิสลาม
ท่านทั้งหลาย
ขอให้เราจงมุ่งศึกษาอิสลาม ศาสนาของเรากันอย่างถ่องแท้ ศึกษาอิสลามอันบริสุทธิ์ ที่ปราศจากสิ่งเจือปน ซึ่งแน่นอน ในแวดวงที่เราอยู่นี้ สิ่งเจือปนย่อมมีบ้าง แต่ขอให้เราขจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ เพื่อที่คนรุ่นใหม่จะได้ใกล้ชิดความเป็นมุสลิมมากยิ่งขึ้น ง่ายขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนแต่อย่างใด
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนาเกิดขึ้นหลากหลายเป็นต้นว่า มีข่าวว่าดาราจะแต่งงานสามศาสนา หรือทางการจะจัดทำบุญ 5 ศาสนา เพื่อปัดรังควาญความเสื่อมเสียที่เกิดขึ้น
ทั้งสองเรื่องมิใช่ความเชื่อที่เป็นความบริสุทธิ์ของศาสนาอิสลาม เป็นความเจือปนที่สุดท้ายหากไม่น้อมนำความรู้ที่ถูกต้องมาพิจารณากัน สังคมมุสลิมและคนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดในเรื่องนี้ และจะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ เป็นอันตรายอย่างยิ่งหากคนรุ่นใหม่จะจดจำการกระทำที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนเช่นนี้ไปใช้ในการปฏิบัติ และสุดท้าย คนทั่วๆไปเข้าใจอย่างนั้น
ท่านทั้งหลาย
อิสลาม ของพระองค์อัลออฮ์ (ซ.บ.) โดยท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) เป็นผู้เผยแผ่ นั้น เป็นศาสนาที่วางรากฐานบนความอิสรภาพเพื่อน้อมนำสู่สันติสุข ดังนั้น รากฐานดังกล่าวจึงวางอยู่บนพื้นฐานอันเรียบง่าย มีเหตุผลและไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาเจือปน แนวปฏิบัติที่สำคัญในอิสลาม หากเราวิเคราะห์อย่างถ่องแท้แล้ว แนวปฏิบัติจะควบคู่ไปกับหลักศรัทธาในอิสลาม ซึ่งโดยทั่วไป การศรัทธาในอิสลามจะมุ่งเน้นในสิ่งที่เป็นข้อปฏิบัติประการแรกของมุสลิมนั่นคือ บนพื้นฐานของคำว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และท่านศาสดามูฮำหมัด คือศาสนทูตของพระองค์” หลักการนี้ เป็นสิ่งที่มุสลิมมุ่งมั่นกล่าวปฏิญาณตนเป็นมุสลิม และในการละหมาดทุกครั้งเราก็มุ่งที่จะทบทวนการปฏิญาณดังกล่าวนี้ ดังนั้น เมื่อเรากล่าวด้วยวาจาว่าอัลลอฮ์ (ซ.บ.) เป็นพระเจ้าไม่มีภาคีสำหรับพระองค์ แล้ว ทุกๆโองการในอัลกุรอ่านซึ่งเป็นพระดำรัสของพระองค์นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่มุสลิมทั้งหลายจะน้อมนำมาปฏิบัติรวมถึง แบบฉบับของท่านศาสดาที่ได้กระทำและแสดงออกถึงการปฏิบัติของท่าน ซึ่งเป็นแนวทางสำหรับมุสลิมทั้งหลายจะใช้ในการปฏิบัติ ดังนั้น เมื่อแนวคิดและแนวปฏิบัติของมุสลิมเป็นดังสองสิ่งนี้ เราลองมาพิจารณากันดูว่า เราจะปล่อยให้สังคมเข้าใจผิดถึงวิธีปฏิบัติตนของมุสลิมจะเป็นไปตามแบบอย่างอื่นๆ ที่ถูกเจือปนหรือไม่
หากพิจารณาถึงสังคมไทย ของเรา ในช่วงปี พ.ศ. 2480-2495 จะพบว่า ทางการของไทยมีจุดมุ่งหมายที่จะกลืนชนกลุ่มน้อยทุกๆกลุ่มให้เป็นคนไทย มีการสวมหมวก มีการเลิกกินหมาก ให้เปลี่ยนชื่อมาใช้ชื่อที่มีคำหรือพยางค์ออกเสียงเป็นภาษาไทย ไม่พูดภาษาถิ่น แต่ให้ใช้ภาษาไทยที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่อิงพุทธหรือพราหมณ์ ในการทำพิธีกรรมต่างๆ นอกจากนี้ แล้ว ยังส่งเสริมให้มีการกลมกลืนศาสนาโดยการแต่งงาน และพิธีกรรมที่เป็นทางการต่างๆ จะเห็นว่า ในช่วงดังกล่าว เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้แต่ละศาสนาที่เข้ามายังประเทศไทย ส่วนใหญ่จะนิยมกระทำการตามประเพณีไทย มีการทำบุญทั้งงานเกิดแก่เจ็บตาย จะกระทำที่คล้ายๆ กัน มีพิธีกรรมที่เน้นถึงสิ่งที่เป็นการตั้งภาคี เพื่อให้ภาคีเหล่านั้น ช่วยขอพร หรือดลบันดาลต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อช่วยให้ชุมชนและสังคมเกิดความผาสุก ซึ่งแนวปฏิบัติอย่างนี้ เป้นผลให้ศาสนาต่างๆ ในชุมชนและพื้นที่ต่างๆ จะมีประเพณีปฏิบัติที่ไม่แตกต่างกัน เพื่อให้กลมกลืนลดความแตกต่างในแต่ละศาสนา เพื่อที่ทางการคิดว่าจะเกิดความสามัคคีในชาติ
ผลทางนโยบายดังกล่าว ถูกสั่งสมจากชนรุ่นหนึ่งมายังชนรุ่นต่อมา ซึ่งเราไม่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เป็นศาสนาอันบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปนใดๆ แต่เรามุ่งกระทำจนเป็นประเพณีที่สืบต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงปัจจุบัน สิ่งเหล่านั้นถูกปลูกฝังจนทำให้เราไม่คิดที่จะแยกแยะให้ได้ว่า สิ่งใดเป็นประเพณีและสิ่งใดคือวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง และเราเตรียมความพร้อมสำหรับความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด
การที่มุสลีมะห์ หรือมุสลีมีน หนุ่มสาวที่จะเข้าสู่พิธีนิกะห์ นั้น หากเรามาดูแบบฉบับของท่านศาสดาแล้ว จะเห็นว่าการนิกะห์ง่าย ซึ่งแตกต่างจากการทำซินา ที่มันยากมากหากสังคมทั้งหลายใช้แนวทางแห่งอิสลาม ผู้ปกครองฝ่ายหญิงหากถูกครอบงำทางสังคมและมองแปลกแยกจากอิสลาม แล้ว เขาจะส่วนอย่างมากที่จะแปรผลของการตั้งกำแพงมะฮัร จนเป็นเหตุให้ลูกสาวของเราไปทำซินา ในบางกรณีมีคนมุสลิมที่ดีแต่สู้กำแพงมะฮัรของเขาไม่ไหว ต้องไปทางอื่น ในที่สุดลูกสาวของเราก็ไปนิกะห์กับชายมุชริก ทั้งๆ ที่มีมุสลิมที่ดีอีกมากมายให้เลือก นั่นเพราะเรามองเพียงคุณค่าแห่งโลกดุนยาหาใช่มองไกลถึงกิยามัต เพื่อที่จะใกล้ชิดกับพระองค์
ท่านทั้งหลาย
แล้วการแต่งงาน สามศาสนามีในอิสลามหรือไม่ คงจะเป็นคำตอบที่ดีแล้วว่า ไม่มีในอิสลาม หากมุสลิมหรือมุสลีมะห์ท่านใดกระทำอย่างนั้น เขาไม่ได้กระทำตามกรอบแห่งอิสลาม และเขาผู้นั้นออกห่างไกลจากความเป็นมุสลิม เพราะการแต่งงานหรือการนิกะห์ตามแบบฉบับแห่งอิสลาม เป็นสิ่งที่ง่ายไม่ใช่เรื่องยาก แล้วหากเขาผู้นั้นแต่งงานตามแนวทางแห่งอิสลามแล้ว ถือว่าการแต่งงานนั้น สมบูรณ์ หากต่อมาเขาไปแต่งงานตามศาสนาอื่นๆ นั่นคือหนทางที่ผลักไสตัวของเขาเองให้ออกห่างไกลไปจากความเป็นมุสลิมและแนวทางแห่งอัลอิสลาม หรือเราจะปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยไม่ท้วงติงกระนั้นหรือ
เช่นกัน การทำบุญ 5 ศาสนา นั้น เป็นประเพณีของชาวพุทธหรือพราหมณ์ ไม่มีในอิสลาม และมุสลิมคงไม่ถูกต้องหากจะเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว เพราะจุดมุ่งหมายของการกระทำดังกล่าวนั้น คือการตั้งภาคีให้กับพระองค์ เพราะมุสลิมที่บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปนนั้น เราจะมองกันที่จุดมุ่งหมายแห่งการกระทำมากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น
ขอให้พิจารณาโองการจากอัลบ้ากอเราะห์ Al-Qur'an, 002.286 (Al-Baqara [The Cow]) ความว่า

002.286 لا يُكَلِّفُ اللَّهُ نَفْسًا إِلا وُسْعَهَا لَهَا مَا كَسَبَتْ وَعَلَيْهَا مَا اكْتَسَبَتْ رَبَّنَا لا تُؤَاخِذْنَا إِنْ نَسِينَا أَوْ أَخْطَأْنَا رَبَّنَا وَلا تَحْمِلْ عَلَيْنَا إِصْرًا كَمَا حَمَلْتَهُ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِنَا رَبَّنَا وَلا تُحَمِّلْنَا مَا لا طَاقَةَ لَنَا بِهِ وَاعْفُ عَنَّا وَاغْفِرْ لَنَا وَارْحَمْنَا أَنْتَ مَوْلانَا فَانْصُرْنَا عَلَى الْقَوْمِ الْكَافِرِينَ

002.286 On no soul doth Allah Place a burden greater than it can bear. It gets every good that it earns, and it suffers every ill that it earns. (Pray:) "Our Lord! Condemn us not if we forget or fall into error; our Lord! Lay not on us a burden Like that which Thou didst lay on those before us; Our Lord! Lay not on us a burden greater than we have strength to bear. Blot out our sins, and grant us forgiveness. Have mercy on us. Thou art our Protector; Help us against those who stand against faith."
[2.286] อัลลอฮ์จะไม่ทรงบังคับชีวิตหนึ่งชีวิตใดนอกจากตามความสามารถของชีวิตนั้นเท่านั้น (อัลลอฮ์ได้ทรงใช้ให้แต่ละคนปฏิบัติเท่าที่เขามีความสามารถเท่านั้น) ชีวิตนั้นจะได้รับการตอบแทนดีในสิ่งที่เขาได้แสวงหาไว้ และชีวิตนั้นจะได้รับการลงโทษในสิ่งชั่วที่เขาได้แสวงหาไว้ โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าเอาโทษแก่เราเลย หากพวกเราลืม หรือผิดพลาดไป โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าได้บรรทุกภาระหนักใด ๆแก่พวกเรา(หมายถึงบัญญัติอันเป็นภาระหนักในการปฏิบัติ ที่ใช่คำว่าบรรทุกนั้นเป็นสำนวนเปรียบเทียบ กล่าวคือ บัญญัติอันเป็นภาระหนักในการปฏิบัตินั้น ประหนึ่งการแบกภาระอันหนัก) เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงบรรทุกมัน แก่บรรดาผู้ที่อยู่ก่อนหน้าพวกเรามาแล้ว โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าให้พวกเราแบกมันได้(หมายถึงบัญญัติที่ไม่มีกำลังความสามารถที่จะปฏิบัติได้ ที่ใช้คำว่าแบกก็เป็นสำนวนเปรียบเทียบเช่นเดียวกับคำว่า “บรรทุก”) และโปรดได้ทรงอภัยแก่พวกเราและยกโทษให้แก่พวกเรา และเมตตาแก่พวกเราด้วยเถิด พระองค์นั้น คือผุ้ปกครองของพวกเราดังนั้นโปรดได้ทรงช่วยเหลือพวกเราให้ได้รับชัยชนะเหนือกลุ่มชนที่ปฏิเสธศรัทธาด้วยเถิด
ท่านทั้งหลาย
ในเรื่องแนวปฏิบัติทางศาสนานั้น ขอให้เรานั้นจงมุ่งมั่นกระทำเพื่อให้เกิดแนวทางที่บริสุทธิ์แห่งศาสนา การปฏิบัติใดๆ นั้น ขอให้เรามีวิจารณญาณในเรื่องนั้น และปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องลดความเคลือบแคลงใดๆ โดยศึกษาถึงรากเหง้าแห่งอิสลามในเรื่องนั้น ๆ เพราะอิสลามจะมุ่งเป้าหมายทุกการกระทำเพื่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ไม่มีการตั้งภาคีใดๆ สำหรับพระองค์ และในกิจการทางศาสนาใดนั้น ก็เป็นเรื่องของศาสนานั้น ไม่มีการเจือปนหรือมุ่งกระทำที่เหมือนๆ กัน ดังนั้น การอยู่ในสังคมแบบอิสลามในความหลากหลายนั้น ต้องแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง ซี่งเป็นจุดหมายแห่งอิสรภาพในการนับถือศาสนา


إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาชีวิตที่ยั่งยืน

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 21 ยะมะดิลอาเคร 1431 (วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553)
รักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาชีวิตที่ยั่งยืน

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
وَآيَةٌ لَهُمُ الأرْضُ الْمَيْتَةُ أَحْيَيْنَاهَا وَأَخْرَجْنَا مِنْهَا حَبًّا فَمِنْهُ يَأْكُلُونَ
وَجَعَلْنَا فِيهَا جَنَّاتٍ مِنْ نَخِيلٍ وَأَعْنَابٍ وَفَجَّرْنَا فِيهَا مِنَ الْعُيُونِ
لِيَأْكُلُوا مِنْ ثَمَرِهِ وَمَا عَمِلَتْهُ أَيْدِيهِمْ أَفَلا يَشْكُرُونَ
سُبْحَانَ الَّذِي خَلَقَ الْأَزْوَاجَ كُلَّهَا مِمَّا تُنبِتُ الْأَرْضُ وَمِنْ أَنفُسِهِمْ وَمِمَّا لَا يَعْلَمُونَ
وَآيَةٌ لَهُمُ اللَّيْلُ نَسْلَخُ مِنْهُ النَّهَارَ فَإِذَا هُمْ مُظْلِمُونَ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
วันเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปแต่ละวันนั้น เราได้พบเจอกับสิ่งต่างๆ มากมาย หลายๆเรื่อง ทำให้เราได้แง่คิดในการดำเนินชีวิตและได้เรียนรู้ในหลายๆ เรื่อง เพื่อนำมาปรับปรุงตนเองให้เหมาะสม เพื่อที่ช่วยให้เราได้ดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสมตามสภาพความผันแปรไป ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินบทบาทของเรานั้น จะส่งผลให้เราได้รับบทเรียนต่างๆ ที่หลากหลายเพื่อนำมาปรับปรุงสถานะ และปัจจัยต่างๆ ให้เราได้ใช้ชีวิตในระหว่างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อดำรงสถานะของเราให้ดำเนินไปอย่างยั่งยืน กระผมขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์ ตรวจสอบตนเอง ตรวจสอบความประพฤติ พฤติกรรม การกระทำ ของเราว่าการกระทำใดๆ ของเรานั้น เราได้กระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และละเว้นในเรื่องที่พระองค์ทรงห้าม การกระทำของเราได้ละเมิดบุคคลที่สาม หรือใครบ้าง จงมะอัพกับเขาเหล่านั้น และจงขอลุแก่โทษ (อิสติฆฟาร)ต่อพระองค์ เสียใจกับการกระทำนั้น และไม่กระทำสิ่งนั้นๆ อีก เพื่อที่เราจะได้ภาคภูมิใจต่อพระองค์ในวันแห่งการตัดสิน
ท่านทั้งหลาย
จงพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา จะเห็นว่า ในรอบปีที่ผ่านไป สภาพบรรยากาศแวดล้อม สภาพการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปตามสถานะทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง มีความเปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อนๆ มากมาย หากพิจารณาเฉพาะสภาพอากาศที่เราประสบอยู่นั้น จะพบว่ามีความแปรปรวนมากมาย หากพิจารณาสภาพอากาศในปีที่แล้วกับปีนี้ แตกต่างกัน เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว มีฝนตกมากมาย อากาศสดชื่น ไม่แห้งแล้งหรือร้อนจนเกินไป แต่สภาพอากาศในปีนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน อากาศร้อนมาก และหากมีฝนตกแล้วในบริเวณทั่วไปจะพบว่ามีฝนตกหนักถึงหนักมาก ลักษณะเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงสภาวะแวดล้อมเกิดความเปลี่ยนแปลง ชั้นบรรยากาศบางชั้นถูกทำลายอันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของประชากร การใช้พลังงานและสารเคมีจำนวนมากที่มีผลต่อการทำลายชั้นบรรยากาศ และการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ จากความเลินเล่อและความฟุ่มเฟือยของแต่ละคน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสภาพแวดล้อม และผลลัพท์แห่งความเสียหายดังกล่าวจึงย้อนกลับมายังมนุษย์ ผู้ทำลายสิ่งแวดล้อม และคนอื่นๆ เพื่อที่แต่ละคนจะได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวต่อไป
ท่านทั้งหลาย
ในวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกๆ ปี เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกที่จะร่วมมือร่วมใจกันรณรงค์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม มองเห็นคุณค่าและความสำคัญของแต่ละคนต่อความสูญเสียและความเสียหายที่สะท้อนย้อนกลับมาหาตนเอง เราคงมองเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การกระทำที่เรียกว่าความเคยตัวที่แต่ละคนทำในเรื่องต่างๆ จนเคยชิน เป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น ขยะ ปฏิกูลที่ถูกทิ้งให้ย่อยสลายไปในแต่ละวัน หากเรามองข้ามความสำคัญของการทำลาย เราทำลายอย่างไม่รู้ จะส่งผลอันร้ายแรงมายังเรา ยกตัวอย่าง วัตถุจำพวกพลาสติก โดยมากเรานิยมนำมาใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย แต่เรามองข้ามโทษของมันไปอย่างเลินเล่อที่เราทำลายโดยการเผา เพราะสารบางชนิดเมื่อถูกทำลายจะสั่งสมรวมตัวกันในชั้นบรรยากาศทำให้ชั้นบรรยากาศเกิดการผุกร่อนเสียหาย ในที่สุด ทำให้แสงอาทิตย์ไม่ถูกกรองในชั้นบรรยากาศ เป็นผลให้มนุษย์เดือดร้อนจากสภาพอากาศและความเปลี่ยนแปลงของอากาศและฤดูกาล
ท่านทั้งหลาย
ขอให้พิจารณาถึงสภาพการสร้างของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) จากโองการแห่งซูเราะห์ยาซีน Al-Qur'an, 036.033-037 (Ya-Seen [Ya-Seen]) ความว่า

036.033 وَآيَةٌ لَهُمُ الأرْضُ الْمَيْتَةُ أَحْيَيْنَاهَا وَأَخْرَجْنَا مِنْهَا حَبًّا فَمِنْهُ يَأْكُلُونَ
036.033 A Sign for them is the earth that is dead: We do give it life, and produce grain therefrom, of which ye do eat.
[36.33] และสัญญาณหนึ่งสำหรับพวกเขาก็คือ แผ่นดินที่แห้งแล้งเราได้ให้มันมีชีวิตชีวาขึ้นมาและเราได้นำเมล็ดพืชออกมาจากมัน ซึ่งส่วนหนึ่งจากเมล็ดพืชนั้นพวกเขาใช้กิน
036.034 وَجَعَلْنَا فِيهَا جَنَّاتٍ مِنْ نَخِيلٍ وَأَعْنَابٍ وَفَجَّرْنَا فِيهَا مِنَ الْعُيُونِ
036.034 And We produce therein orchard with date-palms and vines, and We cause springs to gush forth therein:
[36.34] และเราได้ทำให้มีในแผ่นดินนั้นเรือกสวนมากหลาย จากอินทผลัมและองุ่น และเราได้ทำมีตาน้ำในนั้น
036.035 لِيَأْكُلُوا مِنْ ثَمَرِهِ وَمَا عَمِلَتْهُ أَيْدِيهِمْ أَفَلا يَشْكُرُونَ
036.035 That they may enjoy the fruits of this (artistry): It was not their hands that made this: will they not then give thanks?
[36.35] เพื่อพวกเขาจะได้กินผลไม้ของมันและจากสิ่งที่มือของพวกเขาได้กระทำมันขึ้นแล้วพวกเขาจะไม่ขอบคุณกระนั้นหรือ ?
036.036 سُبْحَانَ الَّذِي خَلَقَ الْأَزْوَاجَ كُلَّهَا مِمَّا تُنبِتُ الْأَرْضُ وَمِنْ أَنفُسِهِمْ وَمِمَّا لَا يَعْلَمُونَ
036.036 Glory to Allah, Who created in pairs all things that the earth produces, as well as their own (human) kind and (other) things of which they have no knowledge.
[36.36] มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระผู้ทรงสร้างทุกสิ่งทั้งหมดเป็นคู่ ๆ จากสิ่งที่แผ่นดินได้ (ให้มัน) งอกเงยขึ้นมา
และจากตัวของพวกเขาเองและจากสิ่งที่พวกเขาไม่รู้
036.037 وَآيَةٌ لَهُمُ اللَّيْلُ نَسْلَخُ مِنْهُ النَّهَارَ فَإِذَا هُمْ مُظْلِمُونَ
036.037 And a Sign for them is the Night: We withdraw therefrom the Day, and behold they are plunged in darkness;
[36.37] และสัญญาณหนึ่งสำหรับพวกเขาก็คือกลางคืน เราได้ถอนกลางวันออกจากมัน แล้วพวกเขาก็อยู่ในความมืด

ความสวยงามแห่งการสร้างของพระองค์นั้น เป็นความสวยงามที่เรามองเห็นการดำเนินชีวิตที่สดใส ในแต่ละฤดูกาล ที่พระองค์ทรงมอบริสกีที่สำคัญให้กับเรา เป็นความสวยงามที่เห็นถึงคุณค่าของการมีชีวิต การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ท่ามกลางการขอบคุณต่อสิ่งอันมีคุณค่าที่พระองค์ทรงให้
ท่านทั้งหลาย
เราตอบแทนการให้ของพระองค์อย่างไรบ้าง เรารักษาสภาพแวดล้อมที่พระองค์ทรงมอบให้นี้อย่างไร เราจะรักษาคุณค่าความสวยงามนี้ไว้ให้กับเยาวชนรุ่นหลังอีกหรือไม่ และเราทนุถนอมสิ่งที่สวยงามเหล่านี้ไว้ให้ยาวนานหรือยั่งยืนเพียงใด นั่นคือความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อม เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และโลกทั้งโลก เพื่อการมอบหมายความยิ่งใหญ่นี้เพื่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) เพราะภารกิจนี้ หาใช่หน้าที่เฉพาะของใคร แต่เป็นของทุกๆ คน ที่ได้ใช้ทรัพยากรของพระองค์ เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่ไม่ได้ระบุไว้ แต่เป็นสิ่งที่ทุกๆ คน ต้องให้ความสำคัญ เพื่อความยั่งยืนในการดำเนินชีวิต ความเรียบง่ายและความสวยงามแห่งคุณค่าและความสำคัญของทุกๆ คน ในวันนี้และอนาคตต่อไป
إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com