วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อิสรภาพแห่งอัลอิสลาม

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 28 ยะมะดิลอาเคร 1431 (วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553)
อิสรภาพแห่งอัลอิสลาม

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
لا يُكَلِّفُ اللَّهُ نَفْسًا إِلا وُسْعَهَا لَهَا مَا كَسَبَتْ وَعَلَيْهَا مَا اكْتَسَبَتْ رَبَّنَا لا تُؤَاخِذْنَا إِنْ نَسِينَا أَوْ أَخْطَأْنَا رَبَّنَا وَلا تَحْمِلْ عَلَيْنَا إِصْرًا كَمَا حَمَلْتَهُ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِنَا رَبَّنَا وَلا تُحَمِّلْنَا مَا لا طَاقَةَ لَنَا بِهِ وَاعْفُ عَنَّا وَاغْفِرْ لَنَا وَارْحَمْنَا أَنْتَ مَوْلانَا فَانْصُرْنَا عَلَى الْقَوْمِ الْكَافِرِينَ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
กระผมขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เกรงกลัวต่อพระองค์ ในการกระทำทั้งหลายของเรา การปฏิบัติของเรานั้น อยู่ในหนทางอันเที่ยงตรงแห่งพระองค์หรือไม่ การปฎิบัติศาสนกิจของเรามีข้อบกพร่องใดบ้าง อย่างไร และเราพร้อมหรือไม่ที่จะปรับปรุงแก้ไขกิจกรรมเหล่านั้น ในขณะที่ความประพฤติและพฤติกรรมใดๆ ของเราได้ไปละเมิดหรือขัดแย้งกับใครในเรื่องใดบ้าง และเราพร้อมหรือไม่ที่จะขอมะอัพกับเขาในเรื่องที่ขัดแย้งกันทั้งในประเด็นทั่วๆ ไป ประเด็นสัพเพเหระ หรือในประเด็นสำคัญ เพื่อที่เราจะมุ่งมั่นไปสู่หนทางแห่งอัลอิสลาม

ท่านทั้งหลาย
ข้อบกพร่องข้อหนึ่งขอเราคือ การที่เราไม่เข้าใจอิสลาม เราปฏิบัติตนออกนอกแนวทางอิสลามโดยที่เรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราบกพร่องที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในจุดที่เราสงสัย เราประพฤติปฏิบัติตามสามัญสำนึกโดยที่ไม่ศึกษาให้เกิดความถ่องแท้ในเรื่องนั้นๆ เราปฏิบัติตามเพียงภูมิรู้ของเราโดยที่ไม่ศึกษาถึงรากเหง้าที่แท้จริงในสิ่งที่เราสงสัย บางคนไม่ยอมศึกษาไม่ยอมหักล้างความเชื่อที่ผิดๆ ที่ปฏิบัติกันมาจนเป็นประเพณี ทั้งๆ ที่ในบางเรื่องหลักคิดและวิธีปฏิบัติดังกล่าวนั้นไม่มีในอิสลาม
ท่านทั้งหลาย
ขอให้เราจงมุ่งศึกษาอิสลาม ศาสนาของเรากันอย่างถ่องแท้ ศึกษาอิสลามอันบริสุทธิ์ ที่ปราศจากสิ่งเจือปน ซึ่งแน่นอน ในแวดวงที่เราอยู่นี้ สิ่งเจือปนย่อมมีบ้าง แต่ขอให้เราขจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ เพื่อที่คนรุ่นใหม่จะได้ใกล้ชิดความเป็นมุสลิมมากยิ่งขึ้น ง่ายขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนแต่อย่างใด
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนาเกิดขึ้นหลากหลายเป็นต้นว่า มีข่าวว่าดาราจะแต่งงานสามศาสนา หรือทางการจะจัดทำบุญ 5 ศาสนา เพื่อปัดรังควาญความเสื่อมเสียที่เกิดขึ้น
ทั้งสองเรื่องมิใช่ความเชื่อที่เป็นความบริสุทธิ์ของศาสนาอิสลาม เป็นความเจือปนที่สุดท้ายหากไม่น้อมนำความรู้ที่ถูกต้องมาพิจารณากัน สังคมมุสลิมและคนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดในเรื่องนี้ และจะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ เป็นอันตรายอย่างยิ่งหากคนรุ่นใหม่จะจดจำการกระทำที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนเช่นนี้ไปใช้ในการปฏิบัติ และสุดท้าย คนทั่วๆไปเข้าใจอย่างนั้น
ท่านทั้งหลาย
อิสลาม ของพระองค์อัลออฮ์ (ซ.บ.) โดยท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) เป็นผู้เผยแผ่ นั้น เป็นศาสนาที่วางรากฐานบนความอิสรภาพเพื่อน้อมนำสู่สันติสุข ดังนั้น รากฐานดังกล่าวจึงวางอยู่บนพื้นฐานอันเรียบง่าย มีเหตุผลและไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาเจือปน แนวปฏิบัติที่สำคัญในอิสลาม หากเราวิเคราะห์อย่างถ่องแท้แล้ว แนวปฏิบัติจะควบคู่ไปกับหลักศรัทธาในอิสลาม ซึ่งโดยทั่วไป การศรัทธาในอิสลามจะมุ่งเน้นในสิ่งที่เป็นข้อปฏิบัติประการแรกของมุสลิมนั่นคือ บนพื้นฐานของคำว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และท่านศาสดามูฮำหมัด คือศาสนทูตของพระองค์” หลักการนี้ เป็นสิ่งที่มุสลิมมุ่งมั่นกล่าวปฏิญาณตนเป็นมุสลิม และในการละหมาดทุกครั้งเราก็มุ่งที่จะทบทวนการปฏิญาณดังกล่าวนี้ ดังนั้น เมื่อเรากล่าวด้วยวาจาว่าอัลลอฮ์ (ซ.บ.) เป็นพระเจ้าไม่มีภาคีสำหรับพระองค์ แล้ว ทุกๆโองการในอัลกุรอ่านซึ่งเป็นพระดำรัสของพระองค์นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่มุสลิมทั้งหลายจะน้อมนำมาปฏิบัติรวมถึง แบบฉบับของท่านศาสดาที่ได้กระทำและแสดงออกถึงการปฏิบัติของท่าน ซึ่งเป็นแนวทางสำหรับมุสลิมทั้งหลายจะใช้ในการปฏิบัติ ดังนั้น เมื่อแนวคิดและแนวปฏิบัติของมุสลิมเป็นดังสองสิ่งนี้ เราลองมาพิจารณากันดูว่า เราจะปล่อยให้สังคมเข้าใจผิดถึงวิธีปฏิบัติตนของมุสลิมจะเป็นไปตามแบบอย่างอื่นๆ ที่ถูกเจือปนหรือไม่
หากพิจารณาถึงสังคมไทย ของเรา ในช่วงปี พ.ศ. 2480-2495 จะพบว่า ทางการของไทยมีจุดมุ่งหมายที่จะกลืนชนกลุ่มน้อยทุกๆกลุ่มให้เป็นคนไทย มีการสวมหมวก มีการเลิกกินหมาก ให้เปลี่ยนชื่อมาใช้ชื่อที่มีคำหรือพยางค์ออกเสียงเป็นภาษาไทย ไม่พูดภาษาถิ่น แต่ให้ใช้ภาษาไทยที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่อิงพุทธหรือพราหมณ์ ในการทำพิธีกรรมต่างๆ นอกจากนี้ แล้ว ยังส่งเสริมให้มีการกลมกลืนศาสนาโดยการแต่งงาน และพิธีกรรมที่เป็นทางการต่างๆ จะเห็นว่า ในช่วงดังกล่าว เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้แต่ละศาสนาที่เข้ามายังประเทศไทย ส่วนใหญ่จะนิยมกระทำการตามประเพณีไทย มีการทำบุญทั้งงานเกิดแก่เจ็บตาย จะกระทำที่คล้ายๆ กัน มีพิธีกรรมที่เน้นถึงสิ่งที่เป็นการตั้งภาคี เพื่อให้ภาคีเหล่านั้น ช่วยขอพร หรือดลบันดาลต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อช่วยให้ชุมชนและสังคมเกิดความผาสุก ซึ่งแนวปฏิบัติอย่างนี้ เป้นผลให้ศาสนาต่างๆ ในชุมชนและพื้นที่ต่างๆ จะมีประเพณีปฏิบัติที่ไม่แตกต่างกัน เพื่อให้กลมกลืนลดความแตกต่างในแต่ละศาสนา เพื่อที่ทางการคิดว่าจะเกิดความสามัคคีในชาติ
ผลทางนโยบายดังกล่าว ถูกสั่งสมจากชนรุ่นหนึ่งมายังชนรุ่นต่อมา ซึ่งเราไม่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เป็นศาสนาอันบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปนใดๆ แต่เรามุ่งกระทำจนเป็นประเพณีที่สืบต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงปัจจุบัน สิ่งเหล่านั้นถูกปลูกฝังจนทำให้เราไม่คิดที่จะแยกแยะให้ได้ว่า สิ่งใดเป็นประเพณีและสิ่งใดคือวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง และเราเตรียมความพร้อมสำหรับความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด
การที่มุสลีมะห์ หรือมุสลีมีน หนุ่มสาวที่จะเข้าสู่พิธีนิกะห์ นั้น หากเรามาดูแบบฉบับของท่านศาสดาแล้ว จะเห็นว่าการนิกะห์ง่าย ซึ่งแตกต่างจากการทำซินา ที่มันยากมากหากสังคมทั้งหลายใช้แนวทางแห่งอิสลาม ผู้ปกครองฝ่ายหญิงหากถูกครอบงำทางสังคมและมองแปลกแยกจากอิสลาม แล้ว เขาจะส่วนอย่างมากที่จะแปรผลของการตั้งกำแพงมะฮัร จนเป็นเหตุให้ลูกสาวของเราไปทำซินา ในบางกรณีมีคนมุสลิมที่ดีแต่สู้กำแพงมะฮัรของเขาไม่ไหว ต้องไปทางอื่น ในที่สุดลูกสาวของเราก็ไปนิกะห์กับชายมุชริก ทั้งๆ ที่มีมุสลิมที่ดีอีกมากมายให้เลือก นั่นเพราะเรามองเพียงคุณค่าแห่งโลกดุนยาหาใช่มองไกลถึงกิยามัต เพื่อที่จะใกล้ชิดกับพระองค์
ท่านทั้งหลาย
แล้วการแต่งงาน สามศาสนามีในอิสลามหรือไม่ คงจะเป็นคำตอบที่ดีแล้วว่า ไม่มีในอิสลาม หากมุสลิมหรือมุสลีมะห์ท่านใดกระทำอย่างนั้น เขาไม่ได้กระทำตามกรอบแห่งอิสลาม และเขาผู้นั้นออกห่างไกลจากความเป็นมุสลิม เพราะการแต่งงานหรือการนิกะห์ตามแบบฉบับแห่งอิสลาม เป็นสิ่งที่ง่ายไม่ใช่เรื่องยาก แล้วหากเขาผู้นั้นแต่งงานตามแนวทางแห่งอิสลามแล้ว ถือว่าการแต่งงานนั้น สมบูรณ์ หากต่อมาเขาไปแต่งงานตามศาสนาอื่นๆ นั่นคือหนทางที่ผลักไสตัวของเขาเองให้ออกห่างไกลไปจากความเป็นมุสลิมและแนวทางแห่งอัลอิสลาม หรือเราจะปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยไม่ท้วงติงกระนั้นหรือ
เช่นกัน การทำบุญ 5 ศาสนา นั้น เป็นประเพณีของชาวพุทธหรือพราหมณ์ ไม่มีในอิสลาม และมุสลิมคงไม่ถูกต้องหากจะเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว เพราะจุดมุ่งหมายของการกระทำดังกล่าวนั้น คือการตั้งภาคีให้กับพระองค์ เพราะมุสลิมที่บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปนนั้น เราจะมองกันที่จุดมุ่งหมายแห่งการกระทำมากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น
ขอให้พิจารณาโองการจากอัลบ้ากอเราะห์ Al-Qur'an, 002.286 (Al-Baqara [The Cow]) ความว่า

002.286 لا يُكَلِّفُ اللَّهُ نَفْسًا إِلا وُسْعَهَا لَهَا مَا كَسَبَتْ وَعَلَيْهَا مَا اكْتَسَبَتْ رَبَّنَا لا تُؤَاخِذْنَا إِنْ نَسِينَا أَوْ أَخْطَأْنَا رَبَّنَا وَلا تَحْمِلْ عَلَيْنَا إِصْرًا كَمَا حَمَلْتَهُ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِنَا رَبَّنَا وَلا تُحَمِّلْنَا مَا لا طَاقَةَ لَنَا بِهِ وَاعْفُ عَنَّا وَاغْفِرْ لَنَا وَارْحَمْنَا أَنْتَ مَوْلانَا فَانْصُرْنَا عَلَى الْقَوْمِ الْكَافِرِينَ

002.286 On no soul doth Allah Place a burden greater than it can bear. It gets every good that it earns, and it suffers every ill that it earns. (Pray:) "Our Lord! Condemn us not if we forget or fall into error; our Lord! Lay not on us a burden Like that which Thou didst lay on those before us; Our Lord! Lay not on us a burden greater than we have strength to bear. Blot out our sins, and grant us forgiveness. Have mercy on us. Thou art our Protector; Help us against those who stand against faith."
[2.286] อัลลอฮ์จะไม่ทรงบังคับชีวิตหนึ่งชีวิตใดนอกจากตามความสามารถของชีวิตนั้นเท่านั้น (อัลลอฮ์ได้ทรงใช้ให้แต่ละคนปฏิบัติเท่าที่เขามีความสามารถเท่านั้น) ชีวิตนั้นจะได้รับการตอบแทนดีในสิ่งที่เขาได้แสวงหาไว้ และชีวิตนั้นจะได้รับการลงโทษในสิ่งชั่วที่เขาได้แสวงหาไว้ โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าเอาโทษแก่เราเลย หากพวกเราลืม หรือผิดพลาดไป โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าได้บรรทุกภาระหนักใด ๆแก่พวกเรา(หมายถึงบัญญัติอันเป็นภาระหนักในการปฏิบัติ ที่ใช่คำว่าบรรทุกนั้นเป็นสำนวนเปรียบเทียบ กล่าวคือ บัญญัติอันเป็นภาระหนักในการปฏิบัตินั้น ประหนึ่งการแบกภาระอันหนัก) เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงบรรทุกมัน แก่บรรดาผู้ที่อยู่ก่อนหน้าพวกเรามาแล้ว โอ้พระเจ้าของพวกเรา! โปรดอย่าให้พวกเราแบกมันได้(หมายถึงบัญญัติที่ไม่มีกำลังความสามารถที่จะปฏิบัติได้ ที่ใช้คำว่าแบกก็เป็นสำนวนเปรียบเทียบเช่นเดียวกับคำว่า “บรรทุก”) และโปรดได้ทรงอภัยแก่พวกเราและยกโทษให้แก่พวกเรา และเมตตาแก่พวกเราด้วยเถิด พระองค์นั้น คือผุ้ปกครองของพวกเราดังนั้นโปรดได้ทรงช่วยเหลือพวกเราให้ได้รับชัยชนะเหนือกลุ่มชนที่ปฏิเสธศรัทธาด้วยเถิด
ท่านทั้งหลาย
ในเรื่องแนวปฏิบัติทางศาสนานั้น ขอให้เรานั้นจงมุ่งมั่นกระทำเพื่อให้เกิดแนวทางที่บริสุทธิ์แห่งศาสนา การปฏิบัติใดๆ นั้น ขอให้เรามีวิจารณญาณในเรื่องนั้น และปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องลดความเคลือบแคลงใดๆ โดยศึกษาถึงรากเหง้าแห่งอิสลามในเรื่องนั้น ๆ เพราะอิสลามจะมุ่งเป้าหมายทุกการกระทำเพื่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ไม่มีการตั้งภาคีใดๆ สำหรับพระองค์ และในกิจการทางศาสนาใดนั้น ก็เป็นเรื่องของศาสนานั้น ไม่มีการเจือปนหรือมุ่งกระทำที่เหมือนๆ กัน ดังนั้น การอยู่ในสังคมแบบอิสลามในความหลากหลายนั้น ต้องแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง ซี่งเป็นจุดหมายแห่งอิสรภาพในการนับถือศาสนา


إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น