วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

มาร่วมกันสร้างมัสยิดให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 18 ชะห์บาน 1431 (วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553)
มาร่วมกันสร้างมัสยิดให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُتِبَ عَلَيْكُمُ الصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
إِنَّمَا يَعْمُرُ مَسَاجِدَ اللَّهِ مَنْ آمَنَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الآخِرِ وَأَقَامَ الصَّلاةَ وَآتَى الزَّكَاةَ وَلَمْ يَخْشَ إِلا اللَّهَ فَعَسَى أُولَئِكَ أَنْ يَكُونُوا مِنَ الْمُهْتَدِينَ
هُوَ الَّذِي أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدَى وَدِينِ الْحَقِّ لِيُظْهِرَهُ عَلَى الدِّينِ كُلِّهِ وَلَوْ كَرِهَ الْمُشْرِكُونَ
وَالْمُؤْمِنُونَ وَالْمُؤْمِنَاتُ بَعْضُهُمْ أَوْلِيَاءُ بَعْضٍ يَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنْكَرِ وَيُقِيمُونَ الصَّلاةَ وَيُؤْتُونَ الزَّكَاةَ وَيُطِيعُونَ اللَّهَ وَرَسُولَهُ أُولَئِكَ سَيَرْحَمُهُمُ اللَّهُ إِنَّ اللَّهَ عَزِيزٌ حَكِيمٌ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ภายใต้เสียงสัญญาณเตือนที่ทุกคนต่างมุ่งมั่นทำกิจกรรมส่วนตนอยู่นั้น หากสัญญาณดังกล่าวถูกเตือนว่าเวลาที่ทุกคนรอคอยนั้นกำลังจะมาถึง ทุกๆ ฝ่ายต่างก็มุ่งตรงต่อกิจกรรมดังกล่าวนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบทบาทในภารกิจอื่นๆ ต่อมา เพื่อให้บรรลุความตั้งมั่นที่พวกเขาเหล่านั้นรอคอยอย่างใจจรดใจจ่อ ท่ามกลางสภาวะความเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้านที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง นั่นคือสัญญาณที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงตักเตือนปวงบ่าวทั้งหลาย เพื่อที่พวกเขาเหล่านั้น จะได้ยึดมั่นและยำเกรงต่อพระองค์ ใส่ใจในสิ่งที่เราได้รับจากพระองค์ และรำลึกถึงพระองค์ เมื่อใดก็ตามที่เราต้องกลับไปยังพระองค์ วินาทีแรกที่ชีวิตของเราจะดับสิ้นลงนั้น ความกระวนกระวายใจก็ยิ่งสับสนและเริ่มมองหาหนทางแห่งการช่วยเหลือ ทั้งคนที่เฝ้าไข้ คนรอบข้างหรือแม้แต่ตัวเราเองที่นอนเจ็บอยู่ในขณะนั้น ดังนั้น จึงขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงลดความเย่อหยิ่ง ความทระนงตน และพึงสังวรด้วยว่า มนุษย์นั้น ต้องมีความยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เราต้องมีความพร้อมในการที่จะกลับไปยังพระองค์ เพื่อที่เราจะได้ใกล้ชิดพระองค์ในวันแห่งการตอบแทน

ท่านทั้งหลาย
หากนับจากวันนี้ไปจนกระทั่งสิ้นเดือนนี้ การตรวจสอบการเห็นเดือนเสี้ยวเพื่อเริ่มเดือนใหม่นั้น เรายังพอมีเวลาเหลือสำหรับการใช้ชีวิตในเดือนชะห์บาน นี้ อีก ประมาณ 11 วัน นั่นคือ หากเห็นเดือนเสี้ยวแล้ว จะเป็นช่วงเวลาของการเริ่มต้นเดือนร่อมาดอลอัลมุบาร็อก เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้แสวงหาความรักและความปรารถนาดีต่อพระองค์ ทั้งในยามกลางวันและกลางคืน สุดแท้แต่ว่าเรานั้นมีความสามารถที่จะค้นหาได้มากน้อยเพียงใด ขอให้พิจารณาถึงอายะห์แห่งอัลกุรอ่าน โองการจากอัลบ้ากอเราะห์ Al-Qur'an, 002.183 (Al-Baqara [The Cow]) ความว่า
002.183 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُتِبَ عَلَيْكُمُ الصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
002.183 O ye who believe! Fasting is prescribed to you as it was prescribed to those before you, that ye may (learn) self-restraint,-
183. บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอดนั้นได้ถูกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้ก่อนหน้าพวกเจ้ามาแล้วเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง
อาจกล่าวได้ว่า จุดมุ่งหมายปลายทางแห่งการถือศีลอด เป็นการตอบสนองความยำเกรงต่อพระองค์ หาใช่สิ่งอื่นใดไม่ โดยทั่วไปมุสลิม ต่างชื่นชอบช่วงเวลาและโอกาสแห่งเดือนร่อมาดอล เพื่อที่เขาเหล่านั้น จะได้แสดงออกถึงบทบาท ความพึงพอใจ และความรัก ในความเป็นมุสลิม ซึ่งภาพรวมของมุสลิมที่เป็นความประทับใจมิรู้ลืม การถือศีลอด การแบ่งปันอาหารระหว่างเพื่อนบ้าน การมาร่วมละศีลอดกันที่มัสยิด หรือตามบ้านต่างๆ ในชุมชน การบริจาคทานให้กับคนยากจน ทั้งทาน(ซะกาต) ที่ถูกกำหนดตามอัตราซึ่งเป็นข้อบังคับตามหลักศาสนา และทาน(ซะกาต) ที่เป็นความสมัครใจของแต่ละคน และการเดินทางไปร่วมละหมาดญะมาอะห์ ทุกค่ำคืนตลอดเดือนสำคัญนี้ ทั้งนี้ เป็นแบบฉบับ แนวทาง และประเพณีอันดีงามของมุสลิม เพื่อสนองตอบถึงเป้าหมายอันยิ่งใหญ่แห่งการถือศีลอด นั่นคือการแสดงออกถึงความยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ซึ่งผลพลอยได้ หรือภาคผลอื่นของการถือศีลอดนั้น เช่น การมีสุขภาพที่ดีหลังจากผ่านพ้นการถือศีลอด ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบัน ต่างเห็นถึงความสำคัญของข้อบังคับนี้ ถือเป็นกุศโลบายอันแยบคายของข้อกำหนดของอิสลามที่ให้การถือศีลอดนี้เป็นการรักษาสุขภาพที่ดีของชาวมุสลิม แต่ก็มีกลุ่มชนบางพวกที่ไม่ใคร่ใยดีต่อภารกิจนี้ แต่นั่นคือความคิดของคนที่แม้เป็นมุสลิม แต่เขาเหล่านั้น ยังห่างไกลจากความรักความเมตตาจากพระองค์ ขอดุอาร์จากพระองค์ช่วยทำให้จิตใจของเขาเหล่านั้นกลับมาอยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงของพระองค์ด้วยเทอญ
ท่านทั้งหลาย
วาระสำคัญแห่งเดือนร่อมาดอล หลายๆ ครอบครัว หลายๆ ชุมชน ต่างมีความหวังและมีความภาคภูมิใจ ที่จะเริ่มดำเนินชีวิตในร่องรอยของศาสนา การถือศีลอดทำให้แต่ละคนหันมามองถึงความสุขของคนอื่นๆ มากกว่าความสุขของตนเอง การหยิบยื่นให้แก่กัน เป็นการให้อย่างมีความสุข เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ภาพที่เรามองเห็น การเริ่มต้นดำเนินชีวิตตามร่องรอยของศาสนา ที่เราเห็นเป็นเรื่องที่ดี เช่น ผู้ใหญ่ เด็ก คนชรา ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ต่างมุ่งมั่นยินดีปรีดา เดินทางร่วมกันเพื่อไปยังมัสยิด ลดละเลิกการดูโทรทัศน์ในช่วงหัวค่ำ เพื่อเตรียมตัวไปละหมาดร่วมกันที่มัสยิด ซึ่งในเดือนอื่นๆ มัสยิดจะมีแต่ความเงียบเหงา แม้ว่า ในแต่ละวันมีข้อบังคับว่ามุสลิมต้องดำรงการละหมาดวันละ 5 เวลา ท่ามกลางการมุ่งมั่นแสวงหาและทุ่มเทให้กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจจนมองข้ามความสำคัญและในที่สุดก็ห่างเหินไปจากมัสยิด พวกเราเพลิดเพลินกับภารกิจต่างๆ เราแข่งขันกันเพื่อให้ได้รับความสุขตามอัตรภาพ จนมองข้ามความสำคัญของมัสยิด ปล่อยให้กิจกรรมของมัสยิด เป็นเพียงบทบาทของเด็กๆ ที่เรียนอัลกุรอ่านและฟัรดูอีน เด็กที่โตมาหน่อยก็เริ่มออกห่างและหายไปจากมัสยิด เนื่องจากต้องไปเรียนต่อที่อื่น บางคนก็จะมีเวลากลับมายังมัสยิดเพื่อมาร่วมละหมาดกันในช่วงค่ำ แต่หลายๆ คนเมื่อเรียนจบฟัรดูอีน ต่างก็กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับมัสยิด แม้ว่าจะกลับมาเยือนมัสยิดอีกครั้งในทุกวันศุกร์ หรือในวันอีด แต่นั่นก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งแห่งบทบาทของมุสลิมเท่านั้น บางคนกลับมามัสยิดอีกครั้ง ในสภาพที่ถูกแบกหามมา เพื่อรอการละหมาดญะนาซะห์แล้วให้คนแบกหามกลับไปยังกุโบร์ เพื่อรอให้ญาติมาเยี่ยมอีกครั้งเมื่อพวกเขารำลึกถึง บทบาทของมัสยิดมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมุสลิมเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เกิด จนกระทั่งตาย มุสลิมตามชนบท จะใช้มัสยิดเป็นภาพลักษณ์แห่งการเรียนรู้และปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนา บางกรณีอาจมองเพียงว่ามัสยิดจะถูกใช้งานก็ต่อเมื่อมีคนมาร่วมละหมาด แต่ในเมืองมัสยิดเป็นสถานที่ที่จะแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของคนในชุมชนนั้น คนที่ร่วมกันบริจาคเพื่อสร้างมัสยิดเหล่านั้น แต่หากเราพิจารณาถึงจุดมุ่งหมายแห่งการสร้างมัสยิดแล้ว โองการจากอัลกุรอ่านซูเราะห์อัตเตาบะห์ Al-Qur'an, 009.018 (At-Tawba [Repentance, Dispensation]) ความว่า
009.018 إِنَّمَا يَعْمُرُ مَسَاجِدَ اللَّهِ مَنْ آمَنَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الآخِرِ وَأَقَامَ الصَّلاةَ وَآتَى الزَّكَاةَ وَلَمْ يَخْشَ إِلا اللَّهَ فَعَسَى أُولَئِكَ أَنْ يَكُونُوا مِنَ الْمُهْتَدِينَ
009.018 The mosques of Allah shall be visited and maintained by such as believe in Allah and the Last Day, establish regular prayers, and practise regular charity, and fear none (at all) except Allah. It is they who are expected to be on true guidance.
18. “แท้จริงที่จะบูรณะบรรดามัศยิดของอัลลอฮ์นั้นคือผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และวันปรโลก และได้ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาต และเขามิได้ยำเกรงนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น ดังนั้นจึงหวังได้ว่า ชนเหล่านี้แหละจะเป็นผู้อยู่ในหมู่ผู้รับคำแนะนำ
ท่านทั้งหลาย
เราจึงควรปลดปล่อยมัสยิดให้พ้นจากพันธนาการแห่งความเข้าใจผิดเหล่านั้น เพราะการสร้างมัสยิดนั้น มีความหมายที่กว้างกว่าการปฏิบัติศาสนกิจ เพราะมัสยิด คือบ้านของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เป็นจุดรวมใจของมุสลิม ดังนั้น การสร้างมัสยิดก็เพื่อเป็นสถานที่ที่มุสลิมทุกคนต้องเข้ามายังมัสยิดสถานแห่งนั้น เพื่อแสวงหาความเมตตากรุณาจากพระองค์ และความยำเกรงต่อพระองค์ และการแสวงหาความรู้นั้น เป็นเครื่องมือหนึ่งที่นำไปสู่จุดมุ่งหมายเหล่านั้นของการสร้างมัสยิด ดังนั้นมัสยิดหาใช่เพียงมุสลิมในชุมชนนั้นเป็นเจ้าของหรือบทบาทแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของไม่ แต่มัสยิดเป็นสถานที่ของทุกๆ คน เป็นแหล่งแห่งความรู้การค้นคว้า และสรรพวิทยาการต่างๆ ที่เราทั้งหลายต่างมุ่งแสวงหา มัสยิดหาใช่ที่ใช้สำหรับการละหมาดเพียงอย่างเดียว แต่มัสยิดเป็นศูนย์รวมที่จะสั่งสอนตักเตือนกันและกันให้มีความยำเกรงต่อพระองค์ อาจกล่าวได้ว่า มัสยิดเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เพราะอาวุธทางปัญญาของมนุษย์ คือความรู้ และมัสยิดเป็นสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน ย่อมมีบทบาทสำคัญที่จะขัดเกลาเยาวชน ผู้ใหญ่ และทุกๆ คนในชุมชน ให้เกิดปัญญา ตามแนวทางของอัลกุรอ่านและแบบฉบับของท่านศาสดา ดังนั้น บทบาทของผู้นำในชุมชนมัสยิด จึงควรมองถึงความก้าวหน้าที่ยั่งยืนของชุมชนด้วยการทำให้มัสยิดสนองตอบการเรียนรู้ของชุมชนและเป็นศูนย์กลางความรู้ของทุกคน การเดินทางมามัสยิด แม้ว่าหนทางการคมนาคมนั้นมีความสะดวก แต่ก็ต้องสิ่งที่ติดขัดนั้นคือตัวบุคคล ยังไม่ยอมปลดปล่อยพันธนาการจากการล่อลวงของชัยตอนมารร้าย ยอมที่จะถูกทำให้กลมกลืนกับคนต่างศาสนา เพราะต้องการใช้ชีวิตร่วมกับชนเหล่านั้นในทำนองเดียวกัน ปกปิดความเป็นมุสลิมของตน กลัวว่าจะถูกมองว่าล้าหลังหากยังต้องกลับไปยังมัสยิด ซึ่งเขาเหล่านั้นเพลิดเพลินไปกับกระแสเหล่านั้นจนลืมมองไปว่าในที่สุดแล้วเขาอาจต้องถูกแบกหามมายังมัสยิดหลังจากเขาถึงอายั้ลของพระองค์แล้ว ขอให้พิจารณาโองการจากอัลกุรอ่านซูเราะห์อัตเตาบะห์ Al-Qur'an, 009.033 (At-Tawba [Repentance, Dispensation]) ความว่า
009.033 هُوَ الَّذِي أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدَى وَدِينِ الْحَقِّ لِيُظْهِرَهُ عَلَى الدِّينِ كُلِّهِ وَلَوْ كَرِهَ الْمُشْرِكُونَ
009.033 It is He Who hath sent His Messenger with guidance and the Religion of Truth, to proclaim it over all religion, even though the Pagans may detest (it).
33. “พระองค์นั้นคือผู้ที่ได้ส่งร่อซูลของพระองค์มาพร้อมด้วยคำแนะนำ และศาสนาแห่งสัจจะ เพื่อที่จะทรงให้ศาสนาแห่งสัจจะนั้นประจักษ์ (คือประจักษ์ความเป็นจริง และความเหมาะสมเหนือทุกศาสนา) เหนือศาสนาทุกศาสนา และแม้ว่าบรรดามุชริกจะชิงชังก็ตาม”
ท่านทั้งหลาย
ขอให้พวกเราทั้งหลาย จงร่วมมือกันนำพาชุมชนของเราให้เป็นชุมชนมุสลิมที่สมบูรณ์ เป็นชุมชนที่ร่วมมือร่วมแรงกัน เพื่อให้เกิดภาคผลแห่งจุดมุ่งหมายแห่งอัลอิสลาม ทำอย่างไรที่จะทำให้มัสยิดเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ของชุมชน ซึ่งบทบาทนี้มิใช่เพียงแต่เป็นบทบาทของผู้นำในมัสยิด กรรมการมัสยิด หรือโต๊ะเซี้ยะของมัสยิด หากแต่ถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนในชุมชนแห่งนั้น ตักเตือนกันและกันให้อยู่ในแนวทางตามครรลองคลองธรรม นั่นคือ ตักเตือนกันตามขั้นตอนตามแบบฉบับของท่านศาสดา โดยมีความสมานฉันท์ ความรักสามัคคี ความปรองดอง และ ความประนีประนอมระหว่างกัน การก้าวข้ามความขัดแย้งระหว่างกันมิใช่เป็นการก้าวข้ามด้วยกำลัง หรือคำพูดที่รุนแรง แต่ต้องใช้แนวทางและความร่วมมือร่วมใจกันของทุกๆ ฝ่ายในชุมชน เพื่อที่จะนำพาชุมชนให้มีจุดมุ่งหมายร่วมกันเหมือนดั่งที่เราดำเนินชีวิตในช่วงเดือนร่อมาดอล เรามีจิตใจที่ดีงามระหว่างกัน ละหมาดร่วมกัน แบ่งบันในสิ่งที่มีคุณค่าระหว่างกัน ดังนั้น จึงอยากเห็นบรรยากาศของชุมชนของเราในช่วงเวลาอื่นๆ เฉกเช่นเดียวกับช่วงเวลาของการดำเนินชีวิตในเดือนร่อมาดอล เพื่อย้ำเตือนข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของการดำเนินชีวิตตามแบบฉบับของอิสลาม ดังโองการจากอัลกุรอ่านซูเราะห์อัตเตาบะห์ Al-Qur'an, 009.071 (At-Tawba [Repentance, Dispensation]) ความว่า
009.071 وَالْمُؤْمِنُونَ وَالْمُؤْمِنَاتُ بَعْضُهُمْ أَوْلِيَاءُ بَعْضٍ يَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنْكَرِ وَيُقِيمُونَ الصَّلاةَ وَيُؤْتُونَ الزَّكَاةَ وَيُطِيعُونَ اللَّهَ وَرَسُولَهُ أُولَئِكَ سَيَرْحَمُهُمُ اللَّهُ إِنَّ اللَّهَ عَزِيزٌ حَكِيمٌ
009.071 The Believers, men and women, are protectors one of another: they enjoin what is just, and forbid what is evil: they observe regular prayers, practise regular charity, and obey Allah and His Messenger. On them will Allah pour His mercy: for Allah is Exalted in power, Wise.
71. “และบรรดามุมิน(คือผู้ที่ศรัทธาต่อนะบีที่อัลลอฮ์ทรงส่งมา)ชาย และบรรดามุมินหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างเป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วน(คือต่างเป็นผู้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน) ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่ไม่ชอบ และพวกเขาจะดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและจ่ายซะกาต และภักดีต่ออัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์ชนเหล่านี้แหละ อัลลอฮ์จะทรงเอ็นดูเมตตาแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ”
ดังนั้น สิ่งที่พบในเดือนร่อมาดอล เป็นสิ่งที่ทุกๆ ฝ่ายอยากให้เกิดขึ้นในเดือนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยที่มัสยิดเป็นศูนย์รวมและเป็นสถานที่ที่ทุกคนจะไปร่วมกัน เพื่อประกอบศาสนกิจ ซึ่งรวมถึงการนำไปสู่การแสวงหาความรู้และแหล่งรวมความรู้ มัสยิดจึงมิใช่สถานที่ที่มีเพียงเฉพาะการดำเนินกิจกรรมทางศาสนาเท่านั้น ซึ่งจะเห็นว่าในหลายๆ ชุมชน แสดงออกด้วยความโอ่อ่าของมัสยิดสถาน แต่ปรากฏว่าการใช้งานมัสยิดไม่คุ้มค่าเท่ากับมูลค่าแห่งมัสยิดนั้นๆ เลย เพราะในชุมชนนั้นใช้งานมัสยิดแต่เพียงบางโอกาสเท่านั้น หาใช่ใช้งานอย่างเป็นประจำ และบุคลากรหรือผู้นำมัสยิดก็ไม่แสดงศักยภาพแห่งการเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันเข้ามาใช้มัสยิดเพื่อแสวงหาความรู้หรือกิจกรรมทางศาสนา บางชุมชน อาจเป็นแหล่งที่จะขับไล่บางคนให้ออกไปจากมัสยิดแม้แต่การละหมาดญะนาซะห์ก็ไม่ให้นำมายังมัสยิด ซึ่งขัดกับหลักการแห่งบทบัญญัติของศาสนา ดังนั้น ในวันนี้ และเดือนแห่งความสำคัญที่จะเวียนมาถึงอีกครั้งนี้ จึงขอให้แต่ละคน และทุกๆ จงแบ่งปันปัจจัยแห่งการเรียนรู้และเพิ่มพูนปัจจัยเหล่านั้น ด้วยการกลับมามัสยิดและหันหน้าเข้ามายังมัสยิดเพื่อร่วมกันศึกษาหาความรู้เพื่อเป็นวัคซีนป้องกันความชั่วร้าย และหากทุกๆ คนได้รับวัคซีนเหล่านี้ด้วยกันแล้ว แน่นอนชุมชนของเราจะได้เป็นชุมชนที่ปราศจากความชั่วร้ายเหล่านั้น ขอให้ทุกๆ คนจงร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อชุมชนของเรา
إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
http://www.alquran-thai.com/

อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

มุสลิมกับการบริโภคอาหาร

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 11 ชะห์บาน 1431 (วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553)
มุสลิมกับการบริโภคอาหาร

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُلُوا مِنْ طَيِّبَاتِ مَا رَزَقْنَاكُمْ وَاشْكُرُوا لِلَّهِ إِنْ كُنْتُمْ إِيَّاهُ تَعْبُدُونَ
إِنَّمَا حَرَّمَ عَلَيْكُمُ الْمَيْتَةَ وَالدَّمَ وَلَحْمَ الْخِنْزِيرِ وَمَا أُهِلَّ بِهِ لِغَيْرِ اللَّهِ فَمَنِ اضْطُرَّ غَيْرَ بَاغٍ وَلا عَادٍ فَلا إِثْمَ عَلَيْهِ إِنَّ اللَّهَ غَفُورٌ رَحِيمٌ
إِنَّ الَّذِينَ يَكْتُمُونَ مَا أَنْزَلَ اللَّهُ مِنَ الْكِتَابِ وَيَشْتَرُونَ بِهِ ثَمَنًا قَلِيلا أُولَئِكَ مَا يَأْكُلُونَ فِي بُطُونِهِمْ إِلا النَّارَ وَلا يُكَلِّمُهُمُ اللَّهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَلا يُزَكِّيهِمْ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาหนึ่งของการดำเนินชีวิตของเราที่ประสบกับเรื่องราวต่างๆ นาๆ มากมายทั้งเรื่องที่เป็นความทุกข์และความสุข ดังนั้น ขอให้เราทั้งหลายจงขอบคุณต่อเนี้ยะมัตจากพระองค์ และจงเพิ่มพูนความยำเกรงต่อพระองค์ให้มากยิ่งขึ้น เพราะเรื่องราวต่างๆ นั้น เป็นความเมตตาจากพระองค์ เป็นการทดสอบจากพระองค์ เพราะโดยแน่แท้แล้ว มนุษย์นั้นเป็นเพียงผู้ถูกสร้างจากพระองค์ หาได้มีใครรอดพ้นไปจากการทดสอบจากพระองค์และด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ นั่นคือ การแสวงหาความโปรดปราณจากพระองค์
ท่านทั้งหลาย
การดำเนินชีวิตของเราในปัจจุบันนั้น เราต้องพบปะกับคนจำนวนมากมาย หลากหลาย มีทั้งผู้ที่มีแนวคิดเดียวกัน หรือต่างแนวคิด เราต้องเสวนากับเขาเหล่านั้น เพื่อให้การติดต่อสื่อสารระหว่างกันดำเนินไปจนบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการติดต่อสื่อสารในเรื่องต่างๆ นั้น ในบางครั้ง การเจรจาประสบผลสำเร็จและเช่นกันบางครั้งก็ไม่ประสบผลสำเร็จ นั่นคือ ความแตกต่างระหว่างกัน เป็นความแตกต่างที่บ่งบอกถึงรอยแยก ความไม่เข้าใจและในบางสิ่งที่ไม่ลงรอยกัน แต่การที่เราจะสมานฉันท์บนความแตกต่างนั้น ก็ด้วยการสร้างความเข้าใจกัน เคารพกันในสิ่งที่แตกต่าง แล้วปรับจูนในเรื่องที่จะติดต่อกัน เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ เพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีระหว่างกัน แม้เรานั้นจะมีความแตกต่างกันในบางเรื่องแต่บนความต่างกันนั้น เรายึดมั่นและให้ความเคารพกันและกันไม่นำสิ่งนั้นมาสร้างความขุ่นข้องหมองใจระหว่างกัน
ท่านทั้งหลาย
ในเรื่องของการอุปโภคและบริโภคของเรานั้น มุสลิมมีหลักเณฑ์ของการบริโภคตามนัยแห่งโองการจากอัลกุรอ่านซูเราะห์อัลบ้ากอเราะห์ (Al-Qur'an, (Al-Baqara [The Cow]) ) อายะห์ที่ 172-173 ความว่า
002.172 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُلُوا مِنْ طَيِّبَاتِ مَا رَزَقْنَاكُمْ وَاشْكُرُوا لِلَّهِ إِنْ كُنْتُمْ إِيَّاهُ تَعْبُدُونَ
002.172 O ye who believe! Eat of the good things that We have provided for you, and be grateful to Allah, if it is Him ye worship.
172. บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงบริโภคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า จากสิ่งดี ๆ ทั้งหลาย และจงขอบคุณอัลลอฮ์เถิด(ให้ปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์ และสำนึกในบุญคุณของพระองค์) หากเฉพาะพระองค์เท่านั้น ที่พวกเจ้าจักเป็นผู้เคารพสักการะ
002.173 إِنَّمَا حَرَّمَ عَلَيْكُمُ الْمَيْتَةَ وَالدَّمَ وَلَحْمَ الْخِنْزِيرِ وَمَا أُهِلَّ بِهِ لِغَيْرِ اللَّهِ فَمَنِ اضْطُرَّ غَيْرَ بَاغٍ وَلا عَادٍ فَلا إِثْمَ عَلَيْهِ إِنَّ اللَّهَ غَفُورٌ رَحِيمٌ
002.173 He hath only forbidden you dead meat, and blood, and the flesh of swine, and that on which any other name hath been invoked besides that of Allah. But if one is forced by necessity, without wilful disobedience, nor transgressing due limits,- then is he guiltless. For Allah is Oft-forgiving Most Merciful.
173. ที่จริงที่พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้านั้นเพียงแต่สัตว์ที่ตายเอง และเลือด(เลือดที่ไหลออกขณะเชือด ส่วนเลือดที่อยู่ในเนื้อนั้นไม่เป็นที่ต้องห้าม) และเนื้อสุกร(หมายถึงทุกส่วนในตัวของมันด้วย) และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มันเพื่ออื่นจากอัลลอฮ์(คือเปล่งเสียงกล่าวนามสิ่งที่เขาเชือดเพื่อสิ่งนั้น อื่นจากอัลลอฮ์) แล้วผู้ใดได้รับความคับขัน(อยู่ในภาวะคับขัน ไม่สามารถจะหาอาหารอื่นเพื่อประทังชีวิตได้ นอกจากเนื้อสุกร) โดยมิใช่ผู้เสาะแสวงหา(มิใช่สร้างสถานการณ์ให้คับขันเพื่อต้องการบริโภค) และมิใช่เป็นผู้ละเมิดขอบเขตแล้วไซร้(เมื่อบริโภคแล้วก็บริโภคพอประทังชีวิต มิใช่ถือโอกาสสวาปามจนเกินความจำเป็น) ก็ไม่มีบาปใด ๆ แก่เขา แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเมตตาเสมอ
การบริโภคอาหารเป็นปัจจัยหนึ่งแห่งความอยู่รอดของมนุษย์ ไม่ว่ามนุษย์นั้น จะเกิดมาจากบรรพชนใด ทุกๆ ชนชาติ ล้วนแล้วพึงแสวงหาซึ่งความอยู่รอดด้วยกันทั้งสิ้น การอุปโภคและบริโภคจึงเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่มนุษย์ต่างจัดหาหรือแสวงหาเพื่อที่จะสนองความต้องการของกลุ่มชนนั้นๆ เพื่อการดำรงชีพได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น ความต้องการด้านนี้ จึงอยู่บนพื้นฐานของการสร้างเสริมสุขภาพด้วย เพราะการอุปโภคและบริโภคนั้น คือการนำสารหรือวัตถุใดๆ เข้าสู่ร่างกาย เพื่อตอบสนองสิ่งเร้าใดๆ ของร่างกาย ซึ่งสิ่งเหล่านั้น จะเป็นประโยชน์ หรือบังเกิดโทษต่อร่างกายได้นั้น ย่อมเกิดจากการเรียนรู้ ประสบการณ์ และวัฒนธรรมของชนชาติต่างๆ นั้น แต่สำหรับประชาชาติมุสลิมแล้ว ข้อกำหนดจากอัลกุรอ่าน เป็นแนวทางสำคัญที่จะตอบโจทย์ของการอุปโภคบริโภคได้ดีกว่าแนวคิดอื่นๆ เพราะเป็นการสร้างความมั่นใจให้เห็นว่า อาหารที่เราจะบริโภคเข้าสู่ร่างกายได้นั้น คือ สิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่สะอาด และปลอดภัยไร้สิ่งปนเปื้อนที่ปะปนมาเข้าสู่ร่างกาย และเน้นถึงสาระสำคัญที่สุดต่อการดำรงชีพด้วยสุขภาพที่ดี ซึ่งแตกต่างจากประชาชาติอื่นๆ ที่ไม่ได้มีข้อกำหนดเช่นนี้ และไม่ระบุอย่างเด่นชัดเช่เดียวกับประชาชาติมุสลิม นั่นคือ สามารถบริโภคสิ่งใดๆ ก็ได้ ที่เห็นว่า สะอาดปราศจากโรค
ท่านทั้งหลาย
ข้อกำหนดซึ่งเป็นหลักชารีอัตของมุสลิม มิได้ห้ามเพียงอย่างเดียว แต่ข้อกำหนดดังกล่าวได้เปิดช่องทางหรือในยามคับขันไว้ เป็นทางออกเสมอ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนที่จะใช้กัน แต่ทั้งนี้แล้ว ต้องพิจารณาถึงการเคารพต่อกฎเกณฑ์ของพระองค์ และคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นสำคัญ โดยทั่วไปในปัจจุบันผู้ผลิตด้านการอุปโภคและบริโภคจะมองเห็นตลาดขนาดใหญ่ในประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามจำนวนมาก ต่าง มุ่งมั่นที่จะส่งสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศเหล่านั้น โดยมีการสร้างหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานของสินค้าออกมาเช่น เครื่องหมายฮาล้าล เป็นต้น เพื่อที่สินค้าของตนจะได้รับการตอบรับจากตลาด เป็นสร้างจุดขายและทำให้สินค้าเหล่านั้นได้รับควมนิยมในกลุ่มของผู้นับถือศาสนาอิสลาม เช่น ไก่สด ไก่แปรรูป หรือสินค้าต่างๆ เป็นต้น อย่างไรก็ดี การที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ได้รับเครื่องหมายดังกล่าว แล้ว แต่ในการปรุง หรือการทำมูลค่าเพิ่มจากสินค้าเหล่านี้ หาใช่เป็นหลักเกณฑ์ในเชิงตรรกะไม่ ในบางเรื่องอาจเกิดความเข้าใจผิดและการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ ในบางกรณี เช่น ไก่สดที่ได้เครื่องหมาย แต่การปรุงรสเพื่อทำไก่ย่าง หรือมูลค่าเพิ่มอื่นๆ บางกรณีมีการนำเลือด หรือการล้างภาชนะที่ไม่สอดคล้องกับหลักการทำความสะอาดตามแบบฉบับอิสลาม รวมถึงการนำน้ำซุปปรุงรสที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหารที่อนุญาตให้มุสลิมบริโภคเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนนี้ไม่ได้มีการขอเครื่องหมายฮาล้าล บางครั้งมุสลิมหลายๆท่าน ไม่คำนึงถึงจุดนี้ บริโภคโดยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อีกทั้งสำหรับผู้เดินทางที่ต้องเดินทางออกไปห่างไกลจากที่พำนัก นั่นคือเขาเหล่านั้นเกิดความจำเป็นในการบริโภค หากแต่ว่า เป็นความรอบคอบของพวกเขาเหล่านั้น ที่จะพิจารณาในเรื่องของการบริโภคและความจำเป็นของการบริโภคนั้น เพื่อประทังชีวิตหาใช่ความสุขจากการบริโภคที่นอกเหนือไปจากหลักเกณฑ์ของศาสนบัญญัติ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
การตักเตือนกันและกัน เป็นส่วนหนึ่งของผู้ศรัทธา เป็นความหมายหนึ่งแห่งความสำเร็จของประชาชาติมุสลิม เป็นสิ่งซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นมุสลิมในประชาชาติมุสลิมทั้งมวล ดังนั้น ในเมื่อการอุปโภคและบริโภคของเราทั้งหลายนั้นมีขอบเขต มีหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างเด่นชัด จำเป็นที่เราต้องแสดงออกให้คนอื่นๆ ได้เห็นถึงความแตกต่างเหล่านี้ เพื่อให้เขาเหล่านั้น จะได้ประจักษ์ และเคารพในความแตกต่างของเรา เพื่อที่เราจะได้อยู่ร่วมกันกับเขาเหล่านั้น อย่างบริสุทธิ์ใจต่อกัน เข้าใจกัน เคารพซึ่งกันและกัน สุดท้ายขอฝากแง่คิดจากโองการจากอัลกุรอ่านซูเราะห์อัลบ้ากอเราะห์ (Al-Qur'an, (Al-Baqara [The Cow]) ) อายะห์ที่ 174 ความว่า
002.174 إِنَّ الَّذِينَ يَكْتُمُونَ مَا أَنْزَلَ اللَّهُ مِنَ الْكِتَابِ وَيَشْتَرُونَ بِهِ ثَمَنًا قَلِيلا أُولَئِكَ مَا يَأْكُلُونَ فِي بُطُونِهِمْ إِلا النَّارَ وَلا يُكَلِّمُهُمُ اللَّهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَلا يُزَكِّيهِمْ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ
002.174 Those who conceal Allah's revelations in the Book, and purchase for them a miserable profit,- they swallow into themselves naught but Fire; Allah will not address them on the Day of Resurrection. Nor purify them: Grievous will be their penalty.
174. แท้จริงบรรดาผู้ที่ปิดบังสิ่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์(หมายถึงลักษณะของท่านนะบีมุฮัมมัด และสิ่งอื่น ๆ) ที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาและนำสิ่งนั้นไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย(เพื่อผลประโยชน์อันเล็กน้อยที่พวกเขาได้รับจากประชาชาติของพวกเขาในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้นำ แต่ถ้าพวกเขาเปิดเผยลักษณะของท่านนะบีแล้ว แน่นอนประชาชาติของพวกเขาก็จะต้องศรัทธาต่อท่าน ทำให้พวกเขาต้องหมดโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์ต่อไปอีก การกระทำของพวกเขานี้จึงประหนึ่งว่าพวกเขานำเอาลักษณะของท่านนะบีไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์อันนับได้ว่าเป็นสิ่งที่มีราคาอันเล็กน้อย) ชนเหล่านั้นมิได้กินอะไรเข้าไปในท้องของพวกเขานอกจากไฟเท่านั้น และในวันกิยามะฮ์ อัลลอฮ์จะไม่ทรงพูดแก่พวกเขา และจะไม่ทรงทำให้พวกเขาบริสุทธิ์(คือจะไม่ทรงทำให้พวกเขาบริสุทธิ์จากความสกปรกแห่งการปฏิบัติการของพวกเขา นั่นก็หมายความว่าพระองค์จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขาอย่างเด็ดขาด) และพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บแสบ

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
http://www.alquran-thai.com/ShowSurah.asp?SurahNo=17


อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ชะห์บาน เดือนแห่งการเตรียมความพร้อม

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 4 ชะห์บาน 1431 (วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553)
ชะห์บาน เดือนแห่งการเตรียมความพร้อม

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُتِبَ عَلَيْكُمُ الصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
หลายเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นมาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เป็นความเมตตาจากพระองค์ที่ได้ให้ชีวิตของเรา ก้าวมาพบกับเหตุการณ์เหล่านั้น เราได้แง่คิดต่างๆ มากมายจากเหตุการณ์เหล่านั้น ดังนั้น ขอให้กระผมและท่านทั้งหลาย จงตระหนักถึงความสำคัญ ความบริสุทธิ์ใจและความยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) และจงเตรียมความพร้อมไว้สำหรับการทดสอบจากพระองค์ เตรียมความพร้อมเพื่อที่เราจะก้าวไปพบกับความสุข ความทุกข์ จากเรื่องราวที่พระองค์ทรงให้กับเรา ไม่ว่าเรื่องราวเหล่านั้น จะเป็นอย่างไร ขอให้เรายอมรับสภาพและเตรียมความพร้อมไว้สำหรับเรื่องต่างๆ นั้น เพื่อที่เราจะได้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ชิดพระองค์ และดำรงตนร่องรอยและแนวทางอันเที่ยงตรง พร้อมกับการขอบคุณในความปรารถนาและความรักจากพระองค์
ท่านทั้งหลาย
เดือนชะห์บาน ได้เวียนมาบรรจบในอีกวาระหนึ่ง ความสำคัญของเดือนชะห์บาน คือ การเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับเดือนที่สำคัญและยิ่งใหญ่ในรอบปี ของประชาชาติมุสลิม ดังนั้น ในเดือนนี้เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับการที่จะใช้ชีวิตในเดือนร่อมาดอล พร้อมไปกับการตรวจสอบอามั้ลของเราว่า เราบกพร่องในเรื่องใดบ้าง ในรอบ 11 เดือนที่ผ่านมา เราขาดตกบกพร่องในเรื่องใดบ้าง ทั้งการละหมาด ซะกาต และการถือศีลอด เราเตือนตนเอง คนรอบข้าง ครอบครัวของเรา ไว้แล้วหรือยัง เราออกห่างไกลจากเรื่องราวที่ไร้สาระแล้วหรือยัง ที่ผ่านมาเกือบ 1เดือน ชีวิตของเราหลงใหลไปกับเรื่องราวที่ไร้สาระไปกี่มากน้อย เราเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะดึงตนเองให้กลับเข้ามาสู่หนทางอันเที่ยงตรงได้แล้วหรือยัง ชีวิตของเรานั้นยังหลงระเริงไปกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่อิสลามหรือไม่ ทิศทาง (direction) ของเราในช่วงเวลาที่สำคัญของแต่ละวัน รวม 5 เวลา นั้น เราเคารพภักดีต่อพระองค์หรือเราทุ่มเทเวลาให้กับอาชีพการงานและหน้าที่ในทางดุนยา หรือมีเวลาว่างเพียงพอเพื่อหาความสุขกับอรรถรสทางโสตประสาทกับเสียงดนตรีที่สร้างสุนทรีย์ทางอารมณ์มากเกินกว่าที่จะปลีกเวลาเพื่อการอิบาดัรต่อพระองค์แล้วหรือไม่

ท่านทั้งหลาย
ของให้เราทั้งหลายจงตระหนัก และหยุดคิดบ้างหรือไม่ว่าชีวิตของเรานั้น ได้ผ่านการทดสอบจากเรื่องราวต่างๆ ของพระองค์ ทั้งการทดสอบเล็กและการทดสอบใหญ่ ทั้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นและสัมผัสด้วยตนเองรวมไปถึงเรื่องราวที่สัมผัสจากประสบการณ์ของผู้อื่น นั่นเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราพึงสังวรและนำมาปรับปรุงการทำหน้าที่ของเรา โดยแน่แท้แล้ว ชีวิตของคนเรานั้น เราต้องให้เวลาของการพัก การหยุด ชั่วขณะ เพื่อทบทวนภารกิจที่สิ้นสุดลง เพื่อเตรียมพร้อมในการเดินทางที่สำคัญและยิ่งใหญ่ เป็นการเดินทางอันยาวนานสำหรับบางคนแต่สำหรับผู้ศรัทธาแล้ว เป็นเวลาที่ไม่เนิ่นนานนัก หากเรามีความพร้อม ดังนั้น ชีวิตในเดือนชะห์บาน จึงเป็นชีวิตช่วงที่มีความสำคัญ ก่อนที่การพัก หรือหยุดในเดือนร่อมาดอล เพื่อเตรียมตนเองให้มีความพร้อมสำหรับบทบาทมุสลิมที่ดี และเพิ่มอิหม่านให้มากขึ้นตามอายุขัยที่เหลือน้อยสำหรับผู้ศรัทธา ขอให้พิจารณาโองการแห่งอัลกุรอ่าน Al-Qur'an, 002.183 (Al-Baqara [The Cow]) ความว่า
002.183 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا كُتِبَ عَلَيْكُمُ الصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
002.183 O ye who believe! Fasting is prescribed to you as it was prescribed to those before you, that ye may (learn) self-restraint,-
183. บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอดนั้นได้ถูกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้ก่อนหน้าพวกเจ้ามาแล้วเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง
ดังนั้น ขอให้เราทั้งหลาย จงพิจารณาตนเองให้เหมาะสม ถึงความบกพร่องของเราในรอบปีที่ผ่านมา เราตรวจสอบสิ่งเหล่านั้น เราชดเชยความบกพร่องดังกล่าวให้หมดสิ้นไปในเดือนนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเดือนร่อมาดอลที่จะมาพบกับเราอีกครั้งในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ การงานใดที่เราต้องกระทำขอให้กระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและความยำเกรงต่อพระองค์ กระทำกิจการใดๆ ภายใต้พระนามของพระองค์ และดำเนินชีวิตอยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงจากพระองค์ เพราะนับจากนี้ไปไม่มีใครบอกเราได้ว่า เราจะกลับไปหาพระองค์ เมื่อใด หากเรามีความพร้อมแล้ว เรามีความยำเกรงต่อพระองค์ เราจะไม่เสียใจเลย เมื่อเราต้องกลับไปสู่ความเมตตาของพระองค์ เพราะนั่นคือความมุ่งมั่นปรารถนาอันแท้จริงของมวลเหล่าผู้ศรัทธา ผู้มีความรัก ความปรารถนาดีในความเมตตา กรุณาปราณี และผู้ทรงยิ่งใหญ่ แห่งสากลจักรวาล


إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
http://www.alquran-thai.com/ShowSurah.asp?SurahNo=17


อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

มุสลิมกับการละหมาด

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 27 ร่อยับ 1431 (วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553)
มุสลิมกับการละหมาด

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
فَإِذَا قَضَيْتُمُ الصَّلاةَ فَاذْكُرُوا اللَّهَ قِيَامًا وَقُعُودًا وَعَلَى جُنُوبِكُمْ فَإِذَا اطْمَأْنَنْتُمْ فَأَقِيمُوا الصَّلاةَ إِنَّ الصَّلاةَ كَانَتْ عَلَى الْمُؤْمِنِينَ كِتَابًا مَوْقُوتًا
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอขอบคุณพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ที่ได้ให้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายได้กลับมาพบกันอีกครั้งในวันนี้ ขอเตือนสติตนเองและท่านทั้งหลาย จงห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงรังเกียจ จงขอบคุณต่อพระองค์และหมั่นปฏิบัติตนให้อยู่ในร่องรอยและแนวทางอันเที่ยงตรง
ท่านทั้งหลาย
วันศุกร์นี้เป็นอีกวันหนึ่งที่เราพึงรำลึกถึงอิบาดัรอันสำคัญที่สุดของมุสลิม นั่นคือการละหมาด หากจะเปรียบเทียบถึงความจำเป็นและความสำคัญกับกิจวัตรประจำวันแล้ว ขอให้เราเปรียบเทียบกับการเอาตัวรอดจากความหิวกระหายนั่นคือการกินอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการประทังชีวิตในยามที่เราต้องนำสารอาหารต่างๆ ลำเลียงตามท่อน้ำเลี้ยงในร่างกายไปสู่อวัยวะต่างๆ ของเราเพื่อที่เราจะได้ดำรงชีพของเราได้อย่างเหมาะสมตามอัตภาพ แต่ในภาวะที่เราต้องดิ้นรนต่อสู้กับกิจกรรมในการดำเนินชีวิตของเรานั้น เราต้องขอบคุณต่อเนะมัตของพระองค์ ที่ทำให้เราได้รับความสะดวกสบายนานาประการที่เราได้รับจากการสร้างปัจจัยและความอำนวยความสะดวกที่พระองค์ทรงมอบไว้ให้เรา ดังนั้น ยามใดที่เรากระหายหิว อยากที่จะกินหรือดื่ม เมื่อนั้นเราได้กลิ่นไอแห่งอาหารรสชาติอันโอชะต่างๆนาๆ ตามความพึงพอใจที่เราจะได้รับ เราได้กินจนอิ่มหมีพลีมัน นั่นคือ เราได้พบกับความสุขที่เราพอใจ แต่สำหรับการแสดงความขอบคุณ ต่อพระเจ้าผู้สร้างแห่งเรานั้น เราพึงแสดงความขอบคุณต่อพระองค์ ด้วยอิบาดัรที่พระองค์ทรงยอมรับ นั่นคือการานมัสการาต่อพระองค์ตามกำหนดเวลา และแนวทางที่ท่านศาสดาได้ทรงรับวะยูห์จากพระองค์ในค่ำคืนแห่งเกียรติยศ นั่นคือ ค่ำเมียะรอจ ที่ท่านศาสดาทรงขึ้นฟากฟ้าในยามที่คนทั้งหลายหลับใหล เพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่ ณ เวลานั้น เป็นความเนิ่นนานที่ท่านได้เข้าพบต่อหน้าพระพักต์แห่งพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อรับสิ่งที่สำคัญในค่ำคืนนั้น
ท่านทั้งหลาย
แนวทางแห่งท่านศาสดา หาใช่ความยุ่งยากซับซ้อน ไม่ แต่ เราสามารถปรับและใช้เวลาดังกล่าวนั้น ได้อย่างเหมาสม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ และนั่น คือความท้าทายที่สำคัญในความเป็นมุสลิม ที่มีความแตกต่างจากเหล่าศาสนิกอื่นๆ ขอยกโองการ Al-Qur'an, 004.103 (An-Nisa [Women]) ความว่า
004.103 فَإِذَا قَضَيْتُمُ الصَّلاةَ فَاذْكُرُوا اللَّهَ قِيَامًا وَقُعُودًا وَعَلَى جُنُوبِكُمْ فَإِذَا اطْمَأْنَنْتُمْ فَأَقِيمُوا الصَّلاةَ إِنَّ الصَّلاةَ كَانَتْ عَلَى الْمُؤْمِنِينَ كِتَابًا مَوْقُوتًا
004.103 When ye pass (Congregational) prayers, celebrate Allah's praises, standing, sitting down, or lying down on your sides; but when ye are free from danger, set up Regular Prayers: For such prayers are enjoined on believers at stated times.
103. ครั้นเมื่อพวกเจ้าเสร็จจากการละหมาดแล้ว (คือละหมาดสองรักอัต ในขณะที่ทำการสู้รบกับฝ่ายศัตรู ละหมาดดังกล่าวนี้เรียกว่า “ซ่อลาตุลเคาฟ์”) ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืนและนั่งและในสภาพนอนเอกเขนกของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ก็จงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด (ทำละหมาดให้ครบถ้วนสมบูรณ์เช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติตามปกติ) แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นบัญญัติที่ถูกกำหนดเวลา (ถูกกำหนดไว้ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง 5 เวลาดังที่ทราบกันแล้ว) ไว้แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ดังนั้น ขอให้เราจงเตรียมตนเองให้มีความพร้อมกับการทำอิบาดัรที่สำคัญนี้ ไปพร้อมๆ กับการประกอบอาชีพและดำเนินกิจกรรมประจำวันของเราด้วยสติ ความมีวินัย เพื่อสร้างความจำเริญในแนวทางที่พระองค์ทรงรัก และมอบหมายแด่พระองค์

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
http://www.alquran-thai.com/ShowSurah.asp?SurahNo=17


อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com