วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จงอย่าตายจนกว่าท่านจะเป็นมุสลิม

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 14 ยะมะดิลอาเคร 1431 (วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553)
จงอย่าตายจนกว่าท่านจะเป็นมุสลิม

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلا تَمُوتُنَّ إِلا وَأَنْتُمْ مُسْلِمُونَ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
สัปดาห์ที่ผ่านพ้นมานี้ มีการรณรงค์กันเกี่ยวกับการอยู่ในร่องรอยของศาสนา โดยมีแนวทางที่ว่า “ลด ละ เลิก อบายมุข เพื่อศาสนา” นั่นคือ วิถีชีวิตแนวพุทธศาสนา ที่เน้นย้ำว่าทุกๆ คน จะต้องห่างไกลจากอบายมุข แม้ว่าหลายๆ คน จะทำตนให้อยู่ในร่องรอยของศาสนาเป็นประจำแต่ละวันได้นั้น อาจต้องรณรงค์กันเฉพาะในวันพระใหญ่ หรือวันสำคัญทางศาสนา นั่นคือแนวทางของเขา ที่จะให้ศาสนิกชนทั้งหลายของเขาได้ใกล้ชิดกับธรรมะ แม้จะนานๆ ครั้ง แต่ย่อมได้กลิ่นไอของศาสนาของพวกเขา แต่ถ้าหันมามองชนมุสลิมแห่งเราแล้ว ขอให้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายจงยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ให้มาก ปฏิบัติตนให้อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงแห่งอัลอิสลาม ประพฤติปฏิบัติตนในหนทางแห่งแนวทางของท่านศาสดา และอัลกุรอ่าน โองการแห่งพระองค์ นั่นคือ แนวทางอันเที่ยงตรงที่พระองค์ทรงกำหนดเอาไว้แล้ว
ท่านทั้งหลาย
การที่เราจะได้กลิ่นไอและแนวทางแห่งอัลอิสลามนั้น เราต้องพิจารณาตนเองเสียก่อนว่า หลักศรัทธาและแนวปฏิบัติของอิสลาม คืออะไร การที่เราจะได้ใกล้ชิดกับพระองค์นั้น มีแนวทางอย่างไร ขอให้มีแนวทางอย่างไร ขอให้พิจารณาโองการจากซูเราะห์อาลิอิมรอน Al-Qur'an, 003.102 (Aal-E-Imran [The Family of Imran]) ความว่า
003.102 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلا تَمُوتُنَّ إِلا وَأَنْتُمْ مُسْلِمُونَ
003.102 O ye who believe! Fear Allah as He should be feared, and die not except in a state of Islam.
[3.102] โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงยำเกรงอัลลอฮ์อย่างแท้จริงเถิด และพวกเจ้าจงอย่าตาย เป็นอันขาดนอกจากในฐานะที่พวกเจ้าเป็นผู้นอบน้อมเท่านั้น

ดังนั้น จะเห็นว่า โองการที่ได้หยิบยกมานี้ บ่งบอกได้ถึงความเป็นห่วงของพระองค์ ที่ห่วงใยเหล่ามนุษย์ลูกหลานของอาดัมที่อยู่บนพื้นโลกนี้ หลายๆ กลุ่มชนในอดีต ออกห่างไกลจากแนวทางแห่งพระองค์ เนื่องจากแนวทางประพฤติ พฤติกรรมของการศรัทธาและแนวปฏิบัติที่ผิดเพี้ยนไปจากแนวทางที่พระองค์ทรงใช้ผ่านเหล่าศาสนทูตของพระองค์ ความผิดเพี้ยนดังกล่าว ก่อให้เกิดความเชื่อในพระองค์ เป็นการตั้งภาคีให้กับพระองค์ แม้ในปัจจุบัน มุสลิมหลายๆ คน ยังมีความเชื่อในการตั้งภาคีให้กับพระองค์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือมีประสบการณ์ความเชื่อจากชนต่างศาสนิก โดยได้ยินได้ฟัง จนเกิดแนวคิดที่แตกต่างออกไปจากแนวทางแห่งอัลอิสลาม แนวคิดเช่นนี้ ส่งผลให้เราปฏิบัติตนออกห่างไกลไปจากแนวทางอันเที่ยงตรงของพระองค์
ท่านทั้งหลาย
ในปัจจุบันเราพบว่า มีญาติพี่น้อง เพื่อนๆ ของเรา ต่างก็จากเราไป และกลับไปสู่ความเมตตาแห่งพระองค์ หากเรามาพิจารณาถึงนัยแห่งโองการของพระองค์ที่ได้หยิบยกมานี้ จะเห็นว่า วันนี้ เราได้ตักเตือนตนเองแล้วหรือยัง เพื่อเตรียมตัว เตรียมพร้อมสำหรับการกลับไปยังพระองค์ การที่อายะห์ดังกล่าวบ่งบอกว่า อย่าตาย นั้น มิใช่ว่าใครก็ตามจะห้ามกฎสภาวะแห่งพระองค์ได้ ไม่มีใครห้ามความตายได้ แต่ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่นี้ เราบอกได้หรือไม่ว่า เราเตรียมความพร้อมสำหรับความตายแล้วหรือยัง เพราะความตายที่จะมีมายังพวกเรานั้น ทุกคนต้องเผชิญด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยใด อายุเท่าใด มีฐานะอย่างไร ความแน่นอน คือความตาย ดังนั้น จะเห็นว่า ไม่มีใครตอบได้ว่า ความตายนั้น จะมาถึงเราเมื่อใด และอย่างไร พระองค์เท่านั้นที่ทราบได้ ดังนั้น เราจึงต้องมาเตรียมความพร้อมของเราก่อนที่ความตายนั้น จะมีมาถึงพวกเรา จะเห็นว่า เพื่อนต่างศาสนาของเราเขารณรงค์กันในวันสำคัญทางศาสนาตอกย้ำและกระชับพื้นที่หัวใจของพวกเขาให้อยู่ในร่องรอยของศาสนา เพื่อที่จะสร้างท่อน้ำเลี้ยงต่อต้านการกระทำที่นำไปสู่อบายมุข ปิดล้อมและขอคืนพื้นที่จิตใจของพวกเขาเหล่านั้นให้อยู่กับศาสนา ศีลธรรม ตามคำสอนของศาสนา แต่สำหรับพวกเรา เราบอกได้หรือไม่ว่า มุสลิมนั้นมีแนวทางความเชื่อและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการเข้าใกล้ชิดกับศาสนาทุกๆ วันอยู่แล้ว โดยเฉพาะการได้ใกล้ชิดกับพระองค์ด้วยการละหมาด การออกซ่ากาต การถือศีลอด ตลอดจนการไม่ตั้งภาคีให้กับพระองค์ แม้ว่าบางท่านจะมีโอกาสได้ไปประกอบพิธีหัจญ์ แต่หลายๆ คนในที่นี้ ยังไม่มีโอกาสนั้น และในรอบสัปดาห์แต่ละสัปดาห์ เราทั้งหลายต่างพร้อมเพรียงกันกระชับวงล้อมหัวใจ เพื่อคืนพื้นที่อิหม่าน ตรวจสอบความศรัทธา ในการมาร่วมกันละหมาดวันศุกร์ในวันนี้ เพื่อย้ำเตือน และเพิ่มความยำเกรงในพระองค์ พร้อมไปกับการก้าวเดินต่อไป เพื่อสร้างหนทางแห่งศรัทธาแห่งชนมุสลิม
ท่านทั้งหลาย
ไม่เคยมีการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ หรือแม้แต่ทะเบียนสัปบุรุษในแต่ละมัสยิด เพื่อตรวจสอบว่า มีจำนวนมุสลิมเท่าใด เพราะเชื่อได้ว่า คนที่มามัสยิดวันนี้ กับมุสลิมที่แท้จริงในชุมชนของมัสยิด มีตัวเลขที่แตกต่างกันมาก หลายๆ ชุมชนมุสลิม จะเห็นว่าจำนวนคนที่มามัสยิดในวันอีดทั้งสองกับวันศุกร์ หรือในการละหมาดประจำเวลาช่างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จนมีคำกล่าวที่ว่า หากต้องการที่จะสร้างมัสยิดเพื่อรองรับจำนวนคนที่มาละหมาดแล้ว ต้องพิจารณาถึงสัดส่วนจำนวนคนที่มาละหมาดอีดทั้งสอง เพราะในวันนั้น มุสลิมจำนวนมากจะมามัสยิดกัน แต่ก็คงมีบ้างที่ไม่มาในวันนั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับการที่จะนับคนที่มาละหมาดประจำเวลาแต่ละวันที่มัสยิด หลายๆ ท่านอาจบอกว่า เป็นเพราะหลายๆ คนติดธุระไม่สะดวกที่จะมากัน แต่อย่างไรก็ตาม มุสลิมทุกคน มีหน้าที่ที่จะตักเตือนกัน มาอัพกัน และร่วมเสริมสร้างแนวทางแห่งอัลอิสลาม แม้ว่าหลักการของเราไม่มีการสารภาพบาป แต่หากเรามีความพร้อมที่จะเตาบัรตนเอง พระองค์เท่านั้นพร้อมที่จะให้อภัยโทษแก่ทุกๆ คน ดังนั้นจะเห็นว่า หลักการของอิสลาม รองรับแนวทางการสร้างความเป็นมุสลิมอยู่เสมอ จากโองการที่ยกมา จะเห็นว่า พระองค์พร้อมรับพวกเราทั้งหลายอยู่ทุกขณะจนกว่าเราจะถึงอายั้ลของพระองค์ ดังนั้น ขอให้เรามีความพร้อมที่กลับไปยังพระองค์ หลายๆ ท่าน อาจบอกว่าวันนี้เรายังไม่พร้อม ก็ขอให้ตระเตรียมความพร้อมไว้เสียแต่วันนี้ แม้ว่าวันนี้ยังไม่สาย แต่หากเราปล่อยปละละเลยไป มันจะทำให้ไม่ทันการ บางคนมองว่า การที่เราตายอามั้ลของเราจะสิ้นสุดลง จะมีเรื่องใดๆ อีกบ้างที่เราจะเตรียมไว้เมื่อเราตายไป ขอให้พิจารณา หะดีษต่อไปนี้
إذا مات ابن آدم انقطع عنه عمله إلا من ثلاث: صدقة جارية أو علم ينتفع به أو ولد صالح يدعو له))[رقم
เมือลูกหลานอาดัมเสียชีวิตลง การงานของเขาก็เป็นอันยุติจากเขา เว้นแต่ สามประการ การบริจาคถาวรวัตถุ หรือ ความรู้ที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ หรือ ลูกที่ดีขอดุอาให้แก่เขา – รายงานโดยมุสลิม
จะเห็นว่า เป็นแนวทางเตรียมความพร้อมสำหรับคนที่จะกลับไปหาพระองค์ นั่นคือ การทำซ่อดาเกาะห์ญาริยะห์ ความรู้ที่เป็นประโยชน์ และลูกที่ดีที่ขอดุอาร์ให้กับเรา นั่นเป็นการเตรียมความพร้อมประการหนึ่งเพื่อรองรับอามั้ลของเราเมื่อเราตายไป
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
การเดินทางของเราไม่ว่าเราจะไปที่ใดก็ตาม เราต้องเตรียมความพร้อมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นจุดมุ่งหมายที่จะไป เส้นทางที่เราจะใช้ จะเน้นความเรียบง่ายและประหยัด ขณะที่ผู้ร่วมทางทุกคนที่ไปด้วยกัน จะต้องมีความปลอดภัยและได้รับความสุข แต่หากนำมาเปรียบเทียบกับการเดินทางจากโลกดุนยานี้ไปยังอาคิเราะห์หน้านั้น จุดมุ่งหมายที่จะไปนั้นชัดเจนแล้ว ขาดแต่เพียงในระหว่างทางนั้น บางคนอาจไปรอที่กุบุรแล้ว แต่บางคนยังคงต้องเดินทางต่อไป เพราะยังไม่ถึงที่หมาย เราจะรักษาความปลอดภัยของตัวเราเองและทุกๆ คนในครอบครัวของเรามากหรือน้อยเพียงใด เราได้แสดงออกถึงความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้นกับทุกๆ คนแล้วหรือไม่ เราให้กับทุกๆ คนที่เดินทางร่วมกันกับเรานั้นอยู่ในแนวทางที่เที่ยงตรงแล้วหรือยัง เราจะบอกกับทุกๆ ว่าเราต้องอยู่ในกลุ่มของผู้ยำเกรงและกลุ่มชนมุสลิมด้วยกันหรือไม่ เรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนแล้วหรือยัง และทุกๆ คนในครอบครัวอยู่ในร่องรอยของศาสนาหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่เราต้องหมั่นทบทวนร่วมกัน เพื่อที่เราจะก้าวไปพร้อมๆ กันและถึงจุดมุ่งหมายเดียวกันในโลกอาคิเราะห์ แม้ว่าเราจะตายไป ขอให้ตายอย่างคนที่มีอิหม่าน คนที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงรับรองอามั้ลทุกๆ อามั้ลของเรา หลายๆ คน เมื่อตายไป อามั้ลสิ้นสุด แต่สำหรับบางคน อามั้ลนั้นยังคงดำเนินต่อไปตามนัยหะดิษ ที่ได้ยกมาข้างต้น เพราะเขาเหล่านั้นเตรียมความพร้อมสำหรับตนเองและครอบครัวของพวกเขา แม้ว่า สิ่งทั้งสามอย่างนั้น หลายๆ คนอาจไม่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ทั้งหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกๆ คน และทุกๆ ครอบครัวสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ นั่นคือ ลูกที่ดีขอดุอาร์ให้ เราสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นในครอบครัวของเราแล้วหรือยัง เราให้ความสำคัญกับเด็กๆ เหล่านั้น มากน้อยเพียงใด การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกที่ดีในอัลอิสลามนั้น มิใช่จะกระทำกันในบางโอกาสที่สำคัญ แต่หลักปฏิบัติของอิสลามนั้น เราสามารถกระทำกันไดทุกวันและทุกโอกาส สำคัญว่าเราจะเริ่มต้นเมื่อใด ขอให้กระผมและท่านทั้งหลายในที่นี้ จงเตรียมพร้อมเสียเดี๋ยวนี้อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า มิฉะนั้นแล้ว เราจะมาเสียดายโอกาสที่ผ่านพ้นไปว่า เราได้ตายไปโดยไม่ได้ร่วมเงาแห่งอิสลามเลย เพราะเราคิดได้เมื่อสายไปเสียแล้ว
إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จงตระหนักถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 7 ยะมะดิลอาเคร 1431 (วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553)
จงตระหนักถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
فِي قُلُوبِهِمْ مَرَضٌ فَزَادَهُمُ اللَّهُ مَرَضًا وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ بِمَا كَانُوا يَكْذِبُونَ
وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ لا تُفْسِدُوا فِي الأرْضِ قَالُوا إِنَّمَا نَحْنُ مُصْلِحُونَ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลายจงอยู่ในแนวทางของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) แบบฉบับของท่านศาสดา และจงยึดมั่นยำเกรงต่อพระองค์ให้มากที่สุด เพราะสุดท้ายที่ปลายทางนั้น เราต้องได้พบกับบทเรียนต่างๆ ที่เข้ามาสู่ชีวิตของเราและเราก็จะได้ใช้บทเรียนนั้น ไปทำการวิเคราะห์ ตรวจสอบการกระทำ ผลแห่งการกระทำ ตลอดจนการตอบแทนจากผลแห่งการกระทำนั้น จะกระทบกับภาคส่วนใดบ้าง ใครได้รับผลกระทบที่รุนแรง ใครได้รับผลกระทบน้อย หรือมากเพียงใด นั่นเป็นสิ่งสะท้อนได้ว่า ในวันนี้เราปฏิบัติตนไว้อย่างไร และเราสร้างสิ่งใดไว้เป็นบทเรียนในวันนี้ เพื่อที่วันข้างหน้าบทเรียนดังกล่าวจะย้อนกลับมาย้ำเตือนเราทั้งหลายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความสูญเสียอย่างไรบ้าง ใครได้รับผลกระทบ และสิ่งต่างๆ เหล่านั้น เป็นภาคผลแห่งการกระทำใดๆ ดังนั้น ในวันนี้ ขอให้เราทั้งหลาย จงตรวจสอบการกระทำทั้งหมดของเรา เพื่อที่เราจะได้เตาบัรต่อพระองค์ หรือขอมะอัพต่อเพื่อนๆ ทั้งหลายของเราที่เราได้ไปล่วงเกินต่อเขาเหล่านั้น เราต้องชดเชยความเสียหายต่างๆเหล่านั้น เพื่อที่เราจะได้ไม่ไปเกินเลยใครๆ เขาอีก อันเป็นภาคผลของการสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเขาเหล่นั้น
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ความเชื่อถือ ความรัก ความลุ่มหลง ทัศนคติ การยอมรับ และอุดมการณ์ ต่างๆ เหล่านี้ หากมีการป้อนข้อมูลสนับสนุนต่างๆ จนโน้มนำแนวคิดของกลุ่มชน จะทำให้ชนเหล่านั้น มีความเชื่อ มีความรัก มีความลุ่มหลง เกิดทัศนคติ จนกลายเป็นอุดมการณ์ ทั้งนี้ ข้อมูลต่างๆ ที่ป้อนสู่กลุ่มชนเหล่านั้น จะชี้นำให้เกิดความคิดในแนวทางเดียวกัน แม้ว่าข้อมูลต่างๆ ทั้งหลายจะถูกบิดเบือน หรือเป็นข้อมูลที่ไม่นำมาทั้งหมดหากแต่นำมาไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ เพื่อที่จะสื่อสารให้กับชนเหล่านั้น ยอมรับในเจตนารมณ์ของคนที่สื่อสารข้อมูลเหล่านั้น อาจกล่าวได้ว่า หากคนที่ได้รับข้อมูลไม่มีการประมวลผลข้อมูล (Process) ข้อมูลเหล่านั้น ตามประสบการณ์ที่มีอยู่ย่อมถูกโน้มนำจากสื่อที่ผู้ให้ข้อมูลต้องการให้เป็น หรือจัดกลุ่มเป็นพวกเดียวกัน โดยมีวัตถุประสงค์ตามที่กลุ่มของตนต้องการให้เป็น
ท่านทั้งหลาย
ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาในรอบสัปดาห์ นั้น เป็นแง่มุมที่ทำให้เราฉุกคิดได้ว่า การต่อสู้ และกระบวนการต่อสู้ จะเป็นผลให้สองฝ่ายที่ต่อสู้กันอยู่นั้นมีฝ่ายที่ได้รับชัยชนะและมีฝ่ายที่เพลี่ยงพร้ำ แต่ท่านทราบหรือไม่ บนซากปรักหักพังและการตายของฝ่ายที่เพลี่ยงพร้ำนั้น กลับปรากฏถึงหายนะของประเทศชาติ ความเสียหายที่เกิดขึ้น หาได้ทดแทนความสูญเสียที่แต่ละฝ่ายสูญเสียไป ตลอดจนภาคอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ประเมินค่าแล้ว หลายแสนล้านบาท นั่นเพราะเหตุใด เป็นเพราะเราไม่คิดที่จะปรองดองกัน เราไม่รักกัน เราถูกปั่นกระแสให้เกิดความชิงชังกัน เราไม่ยอมงอแต่เรายอมหักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่เจรจากัน มีแต่คำกล่าวที่บอกว่า เกินเลยขั้นตอนที่จะเจรจากันเสียแล้ว แต่ละฝ่ายกลัวเสียหน้า ในที่สุดเกิดแพ้ชนะกัน สุดท้าย ฝ่ายอื่นๆ เกิดความเสียหาย เหตุการณ์ที่บานปลายไปนั้น เป็นผลให้ ต้องหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญา ถามว่า ใครต้องชดใช้ความเสียหาย ก็ในเมื่อบุคคลที่คาดว่าอยู่เบื้องหลังต่างก็ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบในเบื้องต้นเสียแล้ว เมื่อต้องไล่เบี้ยกับกลุ่มแกนนำที่ยอมมอบตัวไปก่อนหน้านี้ ก็จะพบว่า เขาเพียงนำม็อบบนเวทีปราศรัย มิใช่แสวงหาความรุนแรง และความรุนแรงที่เกิดขึ้น มาจากทางฝ่ายรัฐบาลที่ใช้กำลังทหารขณะที่ผู้เรียกร้องในกลุ่มม็อบมีหลากหลาย ไม่สามารถไปบงการได้ว่าเป็นฝีมือใคร แล้วอย่างนี้จะให้รับผิดชอบทั้งหมดได้อย่างๆไร เหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้น เป็นเพราะผลกระทบของการใช้กำลังทหารของฝ่ายรัฐบาล แล้วอย่างนี้ จะให้ใครรับผิดชอบ หรือจะเป็นบริษัทประกันวินาศภัย ที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันตามสภาพความร้ายแรงและความเสียหายที่เกิดขึ้น
ท่านทั้งหลาย
ในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจถือเป็นบทเรียนทุกๆ ครั้ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มีต้นเหตุมาจากการเมือง มีนักการทหารท่านหนึ่งเคยพูดไว้เป็นหลักการที่ทำไม่ได้ว่า “เหตุการเมือง ต้องแก้ที่การเมือง” เมื่อเป็นการเรียกร้องกันทางการเมือง สมควรที่จะแก้ไขด้วยวิธีการทางการเมือง แต่การตัดสินใจต่างๆ ของนักการเมืองต้องการเพียงผลแพ้ชนะที่มองเห็นปลายอุโมงค์แห่งความคิด ซ่อนไว้ด้วยภูเขาน้ำแข็งก้อนมหึมา หลายๆ ปัญหาถูกโยงเข้าหากัน ไม่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน แนวคิดที่จะสร้างความปรองดองนั้น แท้ที่จริงมีเงื่อนไขที่บ่งบอกว่าต้องการให้ฝ่ายของตนมีเงื่อนไขชนะอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ยอมลงรอยกัน ใช้ชื่อว่าจะสร้างความปรองดอง แต่สิ่งที่ซ่อนไว้ข้างหลังคือ ความรุนแรง หัวหน้าบอกอยากปรองดอง แต่ท่านโฆษกทั้งหลาย ต่างมีคำพูดเหน็บแนมต่างๆ ตามมา รวมถึงการใช้สองมาตรฐานที่เด่นชัดในทุกๆ เรื่อง แล้วอย่างนี้ ใครเขาจะปรองดองด้วย นั่นคือ ต้อนเหตุของความหายนะที่มากกว่ามิกสัญญี
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
การโกหก คือความเลวร้ายที่สุด เป็นความหลอกลวงที่มุ่งที่จะซ่อนเร้นจุดมุ่งหมายภายในไว้ และในที่สุดผลแห่งความโกหกย่อมนำมาซึ่งความรุนแรงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น จากโองการซูเราะห์อัลบ้ากอเราะห์ Al-Qur'an, 002.010-011 (Al-Baqara [The Cow]) ความว่า
002.010 فِي قُلُوبِهِمْ مَرَضٌ فَزَادَهُمُ اللَّهُ مَرَضًا وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ بِمَا كَانُوا يَكْذِبُونَ
002.010 In their hearts is a disease; and Allah has increased their disease: And grievous is the penalty they (incur), because they are false (to themselves).
[2.10] ในหัวใจของพวกเขานั้นมีโรค ดังนั้นอัลลอฮ์ จึงได้เพิ่มโรคนั้นให้มากขึ้น และการลงโทษอันเจ็บปวด จะมีไว้สำหรับพวกเขา สำหรับการที่พวกเขาโกหก

002.011 وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ لا تُفْسِدُوا فِي الأرْضِ قَالُوا إِنَّمَا نَحْنُ مُصْلِحُونَ
002.011 When it is said to them: "Make not mischief on the earth," they say: "Why, we only Want to make peace!"
[2.11] เมื่อใดก็ตามที่ได้มีการบอกกับพวกเขาว่า จงอย่าสร้างความเสียหายขึ้นในแผ่นดิน พวกเขาจะตอบว่าแท้จริงแล้ว เราเป็นผู้ฟื้นฟูต่างหาก
ดังนั้น ขอให้เราทั้งหลาย จงไตร่ตรองสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะสื่อสารที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน เป็นสื่อที่บ่งบอกได้ว่า มีจุดมุ่งหลายแฝงเร้นซ่อนอยู่ โดยมีวัตถุประสงค์เคลือบแคลงมากมาย สื่อสารต่างๆ จะถูกแปลความไปต่างๆนาๆ ตามแต่ว่าผู้บริโภคสื่อเหล่านั้นมีวิจารณญาณเช่นไร จะหลงทางไปกับสื่อเหล่านั้นด้วยหรือไม่ บางครั้งเราอาจมีอารมณ์ร่วมไปกับสื่อทั้งอารมณ์สนับสนุนและอารมณ์ต่อต้าน ทั้งนี้ ย่อมเป็นสิ่งประจักษ์ได้ว่า เราจะหลงใหลไปกับสิ่งเร้าเหล่านั้น ในที่สุด เมื่อใดที่เราขาดวิจารณญาณ ขาดประสบการณ์ ขาดสติในที่สุดเราต้องจมปลักไปกับสิ่งกระตุ้นเหล่านั้น เป็นสิ่งกระตุ้นที่มีจุดมุ่งหลายปลายทางที่ก้นเหว มิใช่ปลายอุโมงค์ที่เราตั้งใจไว้ เป็นก้นเหวทางความคิดที่เกิดความเสียหายมากมายบานปลาย ที่เราคาดไม่ถึง เพราะนั่นคือการทดสอบจากพระองค์ เป็นการทดสอบที่ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่สูญเสียไปโดยที่เราคาดไม่ถึง บางครั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นมิได้เกิดจากการที่แต่ละฝ่ายได้รับชัยชนะหรือเพลี่ยงพร้ำ แต่เกิดจากการขาดสติยับยั้งชั่งคิด ซึ่งสิ่งนี้เป้นความเสียหายที่เราคาดไม่ถึง ไม่รู้ตัว และไม่อยากให้เกิดขึ้น เมื่อมาคิดได้ทีหลัง หลายๆ คนจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “รู้อย่างนี้ไม่ทำอย่านั้นก็ดี” แต่เมื่อมาคิดในวันนี้ บอกได้เพียงคำเดียวว่า “สายเกินไป” เป็นบทเรียนไปแล้ว และบทเรียนี้จะเป็น วัฐจักรแห่งช่วงเวลาที่จะย้อนกลับมาอีก หากเราไม่มีสติ ไม่มีกาฉุกคิด แต่มุ่งคิดเพียงเพื่อที่จะมุ่งเพื่อให้เกิดการแพ้ชนะกัน แล้ว เราจะได้อะไรจากชัยชนะที่เกิดขึ้น ดังนั้น ขอให้เราทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์ จงใช้สติอย่างมีวิจารณญาณ จงเป็นผู้พื้นฟู จงรักเพื่อนบ้านของเรา รักคนในครอบครอบครัวของเรา ด้วยความสมานฉันท์ ปรองดองกัน มิใช่เป็นคำพูดที่สละสลวย สวยงาม แต่ต้องมีคุณค่าทางจิตใจ ที่ไม่มีสิ่งเคลือบแฝง หรือมีเงื่อนไขแฝงเร้นซ่อนอยู่ภายในความสวยงามเหล่านั้น ขอพระองค์ทรงคุ้มครองพวกเราให้อยู่ในแนวทางที่พระองค์ทรงใช้และเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ซึ่งจะเป็นผลให้เราฟันฝ่าความสูญเสียทั้งหลายที่จะเกิดขึ้น นั่นคือแสงสว่างปลายอุโมงค์ ที่พวกเราต้องการ

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (http://www.beconvinced.com/

จงตระหนักถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 7 ยะมะดิลอาเคร 1431 (วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553)
จงตระหนักถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
فِي قُلُوبِهِمْ مَرَضٌ فَزَادَهُمُ اللَّهُ مَرَضًا وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ بِمَا كَانُوا يَكْذِبُونَ
وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ لا تُفْسِدُوا فِي الأرْضِ قَالُوا إِنَّمَا نَحْنُ مُصْلِحُونَ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลายจงอยู่ในแนวทางของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) แบบฉบับของท่านศาสดา และจงยึดมั่นยำเกรงต่อพระองค์ให้มากที่สุด เพราะสุดท้ายที่ปลายทางนั้น เราต้องได้พบกับบทเรียนต่างๆ ที่เข้ามาสู่ชีวิตของเราและเราก็จะได้ใช้บทเรียนนั้น ไปทำการวิเคราะห์ ตรวจสอบการกระทำ ผลแห่งการกระทำ ตลอดจนการตอบแทนจากผลแห่งการกระทำนั้น จะกระทบกับภาคส่วนใดบ้าง ใครได้รับผลกระทบที่รุนแรง ใครได้รับผลกระทบน้อย หรือมากเพียงใด นั่นเป็นสิ่งสะท้อนได้ว่า ในวันนี้เราปฏิบัติตนไว้อย่างไร และเราสร้างสิ่งใดไว้เป็นบทเรียนในวันนี้ เพื่อที่วันข้างหน้าบทเรียนดังกล่าวจะย้อนกลับมาย้ำเตือนเราทั้งหลายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความสูญเสียอย่างไรบ้าง ใครได้รับผลกระทบ และสิ่งต่างๆ เหล่านั้น เป็นภาคผลแห่งการกระทำใดๆ ดังนั้น ในวันนี้ ขอให้เราทั้งหลาย จงตรวจสอบการกระทำทั้งหมดของเรา เพื่อที่เราจะได้เตาบัรต่อพระองค์ หรือขอมะอัพต่อเพื่อนๆ ทั้งหลายของเราที่เราได้ไปล่วงเกินต่อเขาเหล่านั้น เราต้องชดเชยความเสียหายต่างๆเหล่านั้น เพื่อที่เราจะได้ไม่ไปเกินเลยใครๆ เขาอีก อันเป็นภาคผลของการสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเขาเหล่นั้น
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ความเชื่อถือ ความรัก ความลุ่มหลง ทัศนคติ การยอมรับ และอุดมการณ์ ต่างๆ เหล่านี้ หากมีการป้อนข้อมูลสนับสนุนต่างๆ จนโน้มนำแนวคิดของกลุ่มชน จะทำให้ชนเหล่านั้น มีความเชื่อ มีความรัก มีความลุ่มหลง เกิดทัศนคติ จนกลายเป็นอุดมการณ์ ทั้งนี้ ข้อมูลต่างๆ ที่ป้อนสู่กลุ่มชนเหล่านั้น จะชี้นำให้เกิดความคิดในแนวทางเดียวกัน แม้ว่าข้อมูลต่างๆ ทั้งหลายจะถูกบิดเบือน หรือเป็นข้อมูลที่ไม่นำมาทั้งหมดหากแต่นำมาไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ เพื่อที่จะสื่อสารให้กับชนเหล่านั้น ยอมรับในเจตนารมณ์ของคนที่สื่อสารข้อมูลเหล่านั้น อาจกล่าวได้ว่า หากคนที่ได้รับข้อมูลไม่มีการประมวลผลข้อมูล (Process) ข้อมูลเหล่านั้น ตามประสบการณ์ที่มีอยู่ย่อมถูกโน้มนำจากสื่อที่ผู้ให้ข้อมูลต้องการให้เป็น หรือจัดกลุ่มเป็นพวกเดียวกัน โดยมีวัตถุประสงค์ตามที่กลุ่มของตนต้องการให้เป็น
ท่านทั้งหลาย
ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาในรอบสัปดาห์ นั้น เป็นแง่มุมที่ทำให้เราฉุกคิดได้ว่า การต่อสู้ และกระบวนการต่อสู้ จะเป็นผลให้สองฝ่ายที่ต่อสู้กันอยู่นั้นมีฝ่ายที่ได้รับชัยชนะและมีฝ่ายที่เพลี่ยงพร้ำ แต่ท่านทราบหรือไม่ บนซากปรักหักพังและการตายของฝ่ายที่เพลี่ยงพร้ำนั้น กลับปรากฏถึงหายนะของประเทศชาติ ความเสียหายที่เกิดขึ้น หาได้ทดแทนความสูญเสียที่แต่ละฝ่ายสูญเสียไป ตลอดจนภาคอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ประเมินค่าแล้ว หลายแสนล้านบาท นั่นเพราะเหตุใด เป็นเพราะเราไม่คิดที่จะปรองดองกัน เราไม่รักกัน เราถูกปั่นกระแสให้เกิดความชิงชังกัน เราไม่ยอมงอแต่เรายอมหักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่เจรจากัน มีแต่คำกล่าวที่บอกว่า เกินเลยขั้นตอนที่จะเจรจากันเสียแล้ว แต่ละฝ่ายกลัวเสียหน้า ในที่สุดเกิดแพ้ชนะกัน สุดท้าย ฝ่ายอื่นๆ เกิดความเสียหาย เหตุการณ์ที่บานปลายไปนั้น เป็นผลให้ ต้องหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญา ถามว่า ใครต้องชดใช้ความเสียหาย ก็ในเมื่อบุคคลที่คาดว่าอยู่เบื้องหลังต่างก็ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบในเบื้องต้นเสียแล้ว เมื่อต้องไล่เบี้ยกับกลุ่มแกนนำที่ยอมมอบตัวไปก่อนหน้านี้ ก็จะพบว่า เขาเพียงนำม็อบบนเวทีปราศรัย มิใช่แสวงหาความรุนแรง และความรุนแรงที่เกิดขึ้น มาจากทางฝ่ายรัฐบาลที่ใช้กำลังทหารขณะที่ผู้เรียกร้องในกลุ่มม็อบมีหลากหลาย ไม่สามารถไปบงการได้ว่าเป็นฝีมือใคร แล้วอย่างนี้จะให้รับผิดชอบทั้งหมดได้อย่างๆไร เหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้น เป็นเพราะผลกระทบของการใช้กำลังทหารของฝ่ายรัฐบาล แล้วอย่างนี้ จะให้ใครรับผิดชอบ หรือจะเป็นบริษัทประกันวินาศภัย ที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันตามสภาพความร้ายแรงและความเสียหายที่เกิดขึ้น
ท่านทั้งหลาย
ในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจถือเป็นบทเรียนทุกๆ ครั้ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มีต้นเหตุมาจากการเมือง มีนักการทหารท่านหนึ่งเคยพูดไว้เป็นหลักการที่ทำไม่ได้ว่า “เหตุการเมือง ต้องแก้ที่การเมือง” เมื่อเป็นการเรียกร้องกันทางการเมือง สมควรที่จะแก้ไขด้วยวิธีการทางการเมือง แต่การตัดสินใจต่างๆ ของนักการเมืองต้องการเพียงผลแพ้ชนะที่มองเห็นปลายอุโมงค์แห่งความคิด ซ่อนไว้ด้วยภูเขาน้ำแข็งก้อนมหึมา หลายๆ ปัญหาถูกโยงเข้าหากัน ไม่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน แนวคิดที่จะสร้างความปรองดองนั้น แท้ที่จริงมีเงื่อนไขที่บ่งบอกว่าต้องการให้ฝ่ายของตนมีเงื่อนไขชนะอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ยอมลงรอยกัน ใช้ชื่อว่าจะสร้างความปรองดอง แต่สิ่งที่ซ่อนไว้ข้างหลังคือ ความรุนแรง หัวหน้าบอกอยากปรองดอง แต่ท่านโฆษกทั้งหลาย ต่างมีคำพูดเหน็บแนมต่างๆ ตามมา รวมถึงการใช้สองมาตรฐานที่เด่นชัดในทุกๆ เรื่อง แล้วอย่างนี้ ใครเขาจะปรองดองด้วย นั่นคือ ต้อนเหตุของความหายนะที่มากกว่ามิกสัญญี
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
การโกหก คือความเลวร้ายที่สุด เป็นความหลอกลวงที่มุ่งที่จะซ่อนเร้นจุดมุ่งหมายภายในไว้ และในที่สุดผลแห่งความโกหกย่อมนำมาซึ่งความรุนแรงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น จากโองการซูเราะห์อัลบ้ากอเราะห์ Al-Qur'an, 002.010-011 (Al-Baqara [The Cow]) ความว่า
002.010 فِي قُلُوبِهِمْ مَرَضٌ فَزَادَهُمُ اللَّهُ مَرَضًا وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ بِمَا كَانُوا يَكْذِبُونَ
002.010 In their hearts is a disease; and Allah has increased their disease: And grievous is the penalty they (incur), because they are false (to themselves).
[2.10] ในหัวใจของพวกเขานั้นมีโรค ดังนั้นอัลลอฮ์ จึงได้เพิ่มโรคนั้นให้มากขึ้น และการลงโทษอันเจ็บปวด จะมีไว้สำหรับพวกเขา สำหรับการที่พวกเขาโกหก

002.011 وَإِذَا قِيلَ لَهُمْ لا تُفْسِدُوا فِي الأرْضِ قَالُوا إِنَّمَا نَحْنُ مُصْلِحُونَ
002.011 When it is said to them: "Make not mischief on the earth," they say: "Why, we only Want to make peace!"
[2.11] เมื่อใดก็ตามที่ได้มีการบอกกับพวกเขาว่า จงอย่าสร้างความเสียหายขึ้นในแผ่นดิน พวกเขาจะตอบว่าแท้จริงแล้ว เราเป็นผู้ฟื้นฟูต่างหาก
ดังนั้น ขอให้เราทั้งหลาย จงไตร่ตรองสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะสื่อสารที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน เป็นสื่อที่บ่งบอกได้ว่า มีจุดมุ่งหลายแฝงเร้นซ่อนอยู่ โดยมีวัตถุประสงค์เคลือบแคลงมากมาย สื่อสารต่างๆ จะถูกแปลความไปต่างๆนาๆ ตามแต่ว่าผู้บริโภคสื่อเหล่านั้นมีวิจารณญาณเช่นไร จะหลงทางไปกับสื่อเหล่านั้นด้วยหรือไม่ บางครั้งเราอาจมีอารมณ์ร่วมไปกับสื่อทั้งอารมณ์สนับสนุนและอารมณ์ต่อต้าน ทั้งนี้ ย่อมเป็นสิ่งประจักษ์ได้ว่า เราจะหลงใหลไปกับสิ่งเร้าเหล่านั้น ในที่สุด เมื่อใดที่เราขาดวิจารณญาณ ขาดประสบการณ์ ขาดสติในที่สุดเราต้องจมปลักไปกับสิ่งกระตุ้นเหล่านั้น เป็นสิ่งกระตุ้นที่มีจุดมุ่งหลายปลายทางที่ก้นเหว มิใช่ปลายอุโมงค์ที่เราตั้งใจไว้ เป็นก้นเหวทางความคิดที่เกิดความเสียหายมากมายบานปลาย ที่เราคาดไม่ถึง เพราะนั่นคือการทดสอบจากพระองค์ เป็นการทดสอบที่ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่สูญเสียไปโดยที่เราคาดไม่ถึง บางครั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นมิได้เกิดจากการที่แต่ละฝ่ายได้รับชัยชนะหรือเพลี่ยงพร้ำ แต่เกิดจากการขาดสติยับยั้งชั่งคิด ซึ่งสิ่งนี้เป้นความเสียหายที่เราคาดไม่ถึง ไม่รู้ตัว และไม่อยากให้เกิดขึ้น เมื่อมาคิดได้ทีหลัง หลายๆ คนจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “รู้อย่างนี้ไม่ทำอย่านั้นก็ดี” แต่เมื่อมาคิดในวันนี้ บอกได้เพียงคำเดียวว่า “สายเกินไป” เป็นบทเรียนไปแล้ว และบทเรียนี้จะเป็น วัฐจักรแห่งช่วงเวลาที่จะย้อนกลับมาอีก หากเราไม่มีสติ ไม่มีกาฉุกคิด แต่มุ่งคิดเพียงเพื่อที่จะมุ่งเพื่อให้เกิดการแพ้ชนะกัน แล้ว เราจะได้อะไรจากชัยชนะที่เกิดขึ้น ดังนั้น ขอให้เราทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์ จงใช้สติอย่างมีวิจารณญาณ จงเป็นผู้พื้นฟู จงรักเพื่อนบ้านของเรา รักคนในครอบครอบครัวของเรา ด้วยความสมานฉันท์ ปรองดองกัน มิใช่เป็นคำพูดที่สละสลวย สวยงาม แต่ต้องมีคุณค่าทางจิตใจ ที่ไม่มีสิ่งเคลือบแฝง หรือมีเงื่อนไขแฝงเร้นซ่อนอยู่ภายในความสวยงามเหล่านั้น ขอพระองค์ทรงคุ้มครองพวกเราให้อยู่ในแนวทางที่พระองค์ทรงใช้และเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ซึ่งจะเป็นผลให้เราฟันฝ่าความสูญเสียทั้งหลายที่จะเกิดขึ้น นั่นคือแสงสว่างปลายอุโมงค์ ที่พวกเราต้องการ

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

มอบหมายแด่อัลลอฮ์ (ซ.บ.)

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 30 ยะมะดิลเอาวัล 1431 (วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553)
มอบหมายแด่อัลลอฮ์ (ซ.บ.)

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

تُولِجُ اللَّيْلَ فِي النَّهَارِ وَتُولِجُ النَّهَارَ فِي اللَّيْلِ وَتُخْرِجُ الْحَيَّ مِنَ الْمَيِّتِ وَتُخْرِجُ الْمَيِّتَ مِنَ الْحَيِّ وَتَرْزُقُ مَنْ تَشَاءُ بِغَيْرِ حِسَابٍ
إِنَّ اللَّهَ رَبِّي وَرَبُّكُمْ فَاعْبُدُوهُ هَذَا صِرَاطٌ مُسْتَقِيمٌ
لَنْ تَنَالُوا الْبِرَّ حَتَّى تُنْفِقُوا مِمَّا تُحِبُّونَ وَمَا تُنْفِقُوا مِنْ شَيْءٍ فَإِنَّ اللَّهَ بِهِ عَلِيمٌ
إِنْ تَمْسَسْكُمْ حَسَنَةٌ تَسُؤْهُمْ وَإِنْ تُصِبْكُمْ سَيِّئَةٌ يَفْرَحُوا بِهَا وَإِنْ تَصْبِرُوا وَتَتَّقُوا لا يَضُرُّكُمْ كَيْدُهُمْ شَيْئًا إِنَّ اللَّهَ بِمَا يَعْمَلُونَ مُحِيطٌ
وَلِلَّهِ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الأرْضِ يَغْفِرُ لِمَنْ يَشَاءُ وَيُعَذِّبُ مَنْ يَشَاءُ وَاللَّهُ غَفُورٌ رَحِيمٌ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
จงยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เถิด ไม่มีใคร หรือสิ่งใดที่มีความสามารถทัดเทียมหรือเทียบเท่ากับพระองค์ ที่จะให้ความพึงพอใจให้กับกระผมและท่านทั้งหลาย อย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากมองในแง่มุมของความต้องการของมนุษย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทรัพยากรทั้งหลายมีความจำกัดทั้งจำนวน และพื้นที่สำหรับการแสวงหาของมนุษย์ หากจะยกตัวอย่างอันหนึ่ง เช่น เราได้รับซ่อดาเกาะห์เป็นเงินที่มีมูลค่า 100 บาท เพื่อที่จะได้แสวงหาความพึงพอใจที่ไร้ขอบเขตของเรากับเงินที่ได้รับมา แต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน แต่ข้อจำกัดคือ มีมูลค่าของเงินเพียง 100 บาท นั่นคือ แต่ละคนก็จะเลือกหาในทรัพย์สินที่ตนเองต้องการในมูลค่าที่ไม่เกินมูลค่าของเงิน บางคนอาจใช้ความสามารถในการเพิ่มมูลค่าของเงินของตนเองโดยการทำการค้าขาย คือ ซื้อของมาขายแสวงหากำไรจากมูลค่าของเงินที่ได้รับมา จนกระทั่งมูลค่าของเงินหรือทรัพย์สินที่มีอยู่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ตามการหมุนเวียนของเงินในท้องตลาด จาก 100 บาท เพิ่มมูลค่าเป็น 1,000 – 10,000 บาท นั่นเป็นเพราะความคิดเห็นของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน ด้วยความสามารถที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน และนั่นคือ พระประสงค์ของพระองค์ ที่ให้กับผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ เพื่อที่แต่ละคนจะได้เห็นถึงการมอบหมายภารกิจและความสำเร็จ ความล้มเหลวของแต่ละคนในสังคม ทั้งนี้ เพื่อที่ทุกๆ คนในสังคมจะได้เกิดความยำเกรงและทำอิบาดัรต่อพระองค์ เพื่อพระองค์ เพราะนั่นคือหนทางที่เที่ยงตรง ดังโองการ จากอัลกุรอ่านซูเราะห์ อาลิอิมรอน Al-Qur'an, 003.051 (Aal-E-Imran [The Family of Imran]) ความว่า
003.051 إِنَّ اللَّهَ رَبِّي وَرَبُّكُمْ فَاعْبُدُوهُ هَذَا صِرَاطٌ مُسْتَقِيمٌ
003.051 "'It is Allah Who is my Lord and your Lord; then worship Him. This is a Way that is straight.'"
[3.51] แท้จริงอัลลอฮ์นั้นคือ พระเจ้าของฉัน และพระเจ้าของพวกท่านดังนั้น จงอิบาดะฮต่อพระองค์เถิด นี้แหละคือทางอันเที่ยงตรง

ท่านทั้งหลาย
จงมอบหมายต่อพระองค์เถิด เพราะการมอบหมายต่อพระองค์ คือการมอบหมายความไว้วางใจ ความรัก ความปรารถนาดีต่อพระองค์ เพราะ มนุษย์ เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่เป็นสิ่งถูกสร้างจากพระองค์ หวังในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ หาใช่แสวงหาจากพระองค์ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ การมอบหมายต่อพระองค์ หาใช่เป็นการที่ไม่รับผิดชอบในภารกิจของเรา ตรงกันข้าม การมอบหมายต่อพระองค์ นั้น เราต้องรับผิดชอบในการกระทำทั้งหลายของเราที่มีต่อภารกิจที่เรามอบหมายต่อพระองค์ อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความไว้วางใจ ไม่ประมาท และแสวงหาซึ่งความโปรดปราณจากพระองค์ หาใช่รอคอยว่าสิ่งนั้น ๆ เป็นปรากฏการณ์ที่พระองค์ทรงกำหนดไว้แล้ว แล้วเราไม่ต้องปกป้อง หรือป้องกันหรือให้ความปลอดภัยต่อถารกิจนั้นๆ เลย แต่การเคารพเชื่อฟังในกำหนดสภาวการณ์ของพระองค์ในเรื่องใดๆ นั้น เราจงมอบหมายต่อพระองค์ ซึ่งการมอบหมายภารกิจสำคัญที่มุ่งตรงต่อพระองค์ไว้นั้น เราต้องรับผิดชอบในภารกิจนั้น อย่างเต็มความสามารถ ยกตัวอย่างเช่น การที่เรามีทรัพย์สินหนึ่ง ไว้ แต่เราไม่เก็บรักษาไว้อย่างดีแล้ว ที่สุดมันหายไป แม้ว่าการหายไปนั้น เป็นกำหนดสภาวะจากพระองค์ แต่นั่นมิใช่การมอบหมายแด่พระองค์ เพราะหากเรามอบหมายแด่พระองค์แล้ว โดยการเก็บรักษาไว้อย่างดีมีความรับผิดชอบ แม้มันได้หายไป แต่นั่นคือกำหนดจากพระองค์ และสิ่งนั้น จะเป็นบทเรียนสอนให้เรารู้ได้ว่า เมื่อเราได้แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งนั้นด้วยการมอบหมายต่อพระองค์ เราก็จะไม่ฟูมฟายเสียใจในความบกพร่องตอภารกิจนั้น ด้วยพระองค์เลย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
อากาศที่ร้อนอบอ้าวมาหลายวันในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นข้อกำหนด เป็นสิ่งเตือนใจให้เราทั้งหลายได้เห็นถึงการทดสอบจากพระองค์ เป็นการทดสอบถึงวันแห่งการรอคอยกำลังคืบคลานมาในไม่ช้านี้ เราเราจะจดสถิติของความร้อนในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา เราจะพบว่าแนวโน้มของมันจะมีเพิ่มขึ้นในแต่ละปีต่อจากนี้ บางคนเรียกว่า “ปรากฏการณ์ เอนีโญ่” ซึ่งมีสมมุติฐานถึงชั้นบรรยากาศของโลกที่ถูกทำลายจากการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำกัดของมนุษย์บนพื้นโลกแห่งนี้ การเผาผลาญวัสดุต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลาสติก และสารบางชนิดจากการอัดอากาศเป็นสเปย์ เมื่อใช้งานแล้ว การทำลายสิ่งเหล่านี้ในรูปแบบของขยะ ไม่ถูกต้องตามกรรมวิธีที่กำหนด ที่สุดแล้วอากาศเสียที่เกิดขึ้น มีผลกระทบต่อสภาพชั้นบรรยากาศ และส่งผลให้แสงแดดที่บางส่วนจะสะท้อนคุณภาพความร้อนของแสงแดดออกไปกลับเป็นการดูดซึมซับผ่านชั้นบรรยากาศได้มากขึ้น จึงทำให้แสงแดดมีความเข้มสูงกว่าปกติส่องผ่านชั้นบรรยากาศลงมา จึงทำให้เกิดความร้อนที่พื้นพผิวโลกได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสมมุติฐานที่นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันใช้อธิบายถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว หากพิจารณาจากโองการจากซูเราะห์อาลิอิมรอน Al-Qur'an, 003.027 (Aal-E-Imran [The Family of Imran]) ความว่า

003.027 تُولِجُ اللَّيْلَ فِي النَّهَارِ وَتُولِجُ النَّهَارَ فِي اللَّيْلِ وَتُخْرِجُ الْحَيَّ مِنَ الْمَيِّتِ وَتُخْرِجُ الْمَيِّتَ مِنَ الْحَيِّ وَتَرْزُقُ مَنْ تَشَاءُ بِغَيْرِ حِسَابٍ
003.027 "Thou causest the night to gain on the day, and thou causest the day to gain on the night; Thou bringest the Living out of the dead, and Thou bringest the dead out of the Living; and Thou givest sustenance to whom Thou pleasest, without measure."
[3.27] พระองค์ทรงให้กลางคืนเข้าไปในกลางวัน และทรงให้กลางวันเข้าไปในกลางคืนและทรงให้สิ่งมีชีวิต ออกจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต และทรงให้สิ่งที่ไม่มีชีวิตออกจากสิ่งที่มีชีวิต และทรงให้ปัจจัยยังชีพแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์โดยปราศจากการคำนวณ

ดังนั้น ไม่ว่าผู้ใดหรือหน่วยงานใดจะแถลงถึงปรากฏการณ์ใดๆ บนพื้นโลกนี้ จะสะท้อนให้เห็นผลจากความเสียหายที่มนุษย์สร้างขึ้น หากเราพิจารณาถึงการให้ปัจจัยยังชีพจากพระองค์แล้ว จะเห็นได้ว่า ทุกๆ สิ่งนั้นพระองค์ทรงเมตตาต่อมวลมนุษย์แทบทั้งสิ้น การหมุนของโลกรอบตัวเองและรอบดวงอาทิตย์ เป็นการกำหนดจากพระองค์ที่พระองค์ทรงให้สรรพสิ่งทั้งหลายได้รับรู้ในเรื่องของเวลา ฤดูกาล ซึ่งนำมาซึ่งปัจจัยยังชีพสำหรับมนุษย์ เรื่องเวลา คือกำหนดที่แสดงถึงการทำงาน การปฏิบัติภารกิจในแต่ละวัน การนัดหมายเพื่อทำธุรกรรมในเรื่องต่างๆ กำหนดเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของโครงการหรือสถานภาพในการทำงาน ในเรื่องของฤดูกาล ทำให้เราได้เห็นถึงการประกอบกิจกรรมที่เหมาะสมกับพื้นที่ สิ่งแวดล้อม การเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งจะเป้นการกำหนดระยะเวลาในกาเริ่มต้น หรือปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาสมตามสภาพ เวลา แสงแดด ที่จะนำไปสู่ผลสำเร็จแห่งกิจกรรมต่างๆที่มนุษย์กำลังดำเนินอยู่ในแต่ละเรื่อง แต่ละสภาพและแต่ละบทบาทของตน ดังนั้น การเริ่มต้นที่ดีมิใช่เป็นสิ่งที่เราจะมอบหมายเรื่องใดๆกับสิ่งอื่นๆ ซึ่งเป็นชิริก เป็นความไม่รู้ในเรื่องของการมอบหมายต่อพระองค์ เป็นการกระทำของกลุ่มชนอื่นๆ มิใช่การกระทำของมุสลิมผู้ศรัทธาต่อพระองค์ ดังนั้น เมื่อจะเริ่มกิจกรรมใดๆ ก็ตาม มุสลิมจะต้องมอบหมายภารกิจต่อพระองค์ เป็นการมอบหมายที่มุ่งเน้นถึงแนวทาง ที่พระองค์ทรงรักและทรงเมตตา แตกต่างจากแนวทางแห่งกลุ่มชนอื่นๆ ที่มุ่งเน้นแสวงหาความโปรดปราณจากการตั้งภาคีอื่นเสมือนหรือเท่าเทียมต่อพระองค์ ซึ่งเป็นแนวทางที่มิใช่แนวทางแห่งพระองค์ ดังโองการจากซูเราะห์อาลิอิมรอน Al-Qur'an, 003.129 (Aal-E-Imran [The Family of Imran]) ความว่า
003.129 وَلِلَّهِ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الأرْضِ يَغْفِرُ لِمَنْ يَشَاءُ وَيُعَذِّبُ مَنْ يَشَاءُ وَاللَّهُ غَفُورٌ رَحِيمٌ
003.129 To Allah belongeth all that is in the heavens and on earth. He forgiveth whom He pleaseth and punisheth whom He pleaseth; but Allah is Oft-Forgiving, Most Merciful.
[3.129] และสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้นพระองค์จะทรงอภัยโทษให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจะทรงลงโทษแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮ์นั้นคือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
เมื่อเรามอบหมายภารกิจใดๆ ต่อพระองค์แล้ว หากเรามองถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา เราจะพบว่า ในสังคมหนึ่งๆ มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะความสามารถของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน จะเห็นว่าในทุกๆ สังคม จะมีการเรียกร้องในเรื่องต่างๆ มากมาย เป็นการเรียกร้องเพื่อความชอบธรรมของกลุ่มชนนั้น ๆ บางครั้งการเรียกร้องก็เป็นเรื่องที่คนมส่วนใหญ่ของสังคมเมินเฉยต่อกลุ่มชนที่อ่อนด้อยกว่า ไม่แยแสอนาทรร้อนใจของพวกเขาเหล่านั้น หากเรามองที่จุดมุ่งหมายและเจตนารมณ์แห่งอัลอิสลามแล้ว จะพบว่า จุดมุ่งมั่นที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ในข้อปฏิบัติที่สำคัญของอัลอิสลาม คือ ความสันติสุข และสังคมที่จะพึงมีความสันติสุขได้นั้น ประการแรกคือ เราต้องมีความสมานฉันท์กัน เราต้องมองทุกๆ คนในสังคมนั้น เรามีคุณค่าแห่งความเป็นคนที่เท่าเทียมกัน ไม่มีใครที่จะยิ่งใหญ่กว่าคนอื่นๆ ในประการต่อมา คนที่แข็งแรงกว่า ต้องไม่เบียดเบียนคนที่อ่อนด้อยกว่า ตรงกันข้าม ต้องโน้มตัวตนลงมาเพื่อแบ่งปันให้กับคนที่อ่อนด้อกว่าตน หาใช่มุ่งเอาเปรียบพวกเขาเหล่านั้น ประการต่อมา ทุกๆคนในสังคม ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นั่นคือ เราต้องร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคม ร่วมกัน เสมือนหนึ่งเราอยู่บ้านเรือนเดียวกัน เราต้องช่วยกันดูแลบ้านของเราให้อยู่ในสภาพที่ดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนในบ้านและเพื่อนบ้านทั้งหลาย นั่นเหล่ะ คือการสร้างสรรค์สังคมอิสลามที่ยั่งยืน ขอให้พิจารณา โองการจากซูเราะห์อาลิอิมรอน Al-Qur'an, 003.092 (Aal-E-Imran [The Family of Imran]) ความว่า
003.092 لَنْ تَنَالُوا الْبِرَّ حَتَّى تُنْفِقُوا مِمَّا تُحِبُّونَ وَمَا تُنْفِقُوا مِنْ شَيْءٍ فَإِنَّ اللَّهَ بِهِ عَلِيمٌ
003.092 By no means shall ye attain righteousness unless ye give (freely) of that which ye love; and whatever ye give, of a truth Allah knoweth it well.
[3.92] พวกเจ้าจะไม่ได้คุณธรรมเลยจนกว่าพวกเจ้าจะบริจาคจากสิ่งที่พวกเจ้าชอบและสิ่งใดที่พวกเจ้าบริจาคไปแท้จริงอัลลอฮ์ทรงรู้ในสิ่งนั้นดี
ขอให้กระผมและท่านทั้งหลาย จงยึดมั่นในความรัก ความเข้าใจ และความปรารถนาดีต่อกัน เพื่อให้สังคมของเราดำเนินไปตามแนวทางแห่งอัลอิสลาม แม้เราจะต้องแข่งขันในบางเรื่องกับเพื่อนมุสลิมของเรา แต่ขอให้เราจงต่อสู้เพื่ออิสลาม นำพาแบบฉบับของท่านศาสดาและหลักการตามโองการของพระองค์ เพื่อจรรโลงสังคมของเราให้เป็นสังคมที่ทุกๆ ฝ่ายต่างให้ความชื่นชม และมุสลิมทุกๆ คน มุ่งหมายอิบาดัรเพื่อพระองค์
ท่านทั้งหลาย
จงขอบคุณต่อพระองค์ ที่ทำให้เราได้เห็นบทเรียนจากประชาชาติทั้งหลายที่มีมาก่อนหน้าพวกเรา รวมถึงบทเรียนที่เราประสบด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม การแสดงออกถึงความดีใจและความเสียใจในสิ่งที่พระองค์ทรงเมตตานั้น ถือได้ว่า ไม่ให้เราแสดงออกจนเกินเลยขอบเขตของพระองค์ แสดงความดีใจและเสียใจในวาระที่เราได้รับหรือไม่ได้รับสิ่งใด เพื่อเป็นข้อเตือนใจให้เราทั้งหลาย ได้มองเห็นถึงสิ่งต่างๆ ที่พระองค์จะทดสอบในเรื่องต่างๆของพวกเรา เพราะหากเราไม่มุ่งมั่นในเรื่องใดๆ ต่อพระองค์แล้ว แน่นอนเราจะพบกับความเสียใจและความไม่พึงประสงค์ ในวันแห่งการตอบแทนทั้งๆ เรามองข้ามสิ่งนั้นอย่างไม่เจตนาหรือละเลยไปในวันนี้ จากโองการจากซูเราะห์อาลิอิมรอน Al-Qur'an, 003.120 (Aal-E-Imran [The Family of Imran]) ความว่า
003.120 إِنْ تَمْسَسْكُمْ حَسَنَةٌ تَسُؤْهُمْ وَإِنْ تُصِبْكُمْ سَيِّئَةٌ يَفْرَحُوا بِهَا وَإِنْ تَصْبِرُوا وَتَتَّقُوا لا يَضُرُّكُمْ كَيْدُهُمْ شَيْئًا إِنَّ اللَّهَ بِمَا يَعْمَلُونَ مُحِيطٌ
003.120 If aught that is good befalls you, it grieves them; but if some misfortune overtakes you, they rejoice at it. But if ye are constant and do right, not the least harm will their cunning do to you; for Allah Compasseth round about all that they do.
[3.120] หากมีความดีใดๆ ประสบแก่พวกเจ้า ก็ทำให้พวกเขาเศร้าใจและถ้าหากความชั่วใด ๆ ประสบแก่พวกเจ้าพวกเขาก็ดีใจเนื่องด้วยความชั่วนั้นและถ้าพวกเจ้าอดทน และยำเกรงแล้วไซร้ อุบายของพวกเขาก็ย่อมไม่เป็นอันตรายแก่พวกเจ้าแต่อย่างใดแท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงล้อม ซึ่งสิ่งที่พวกเขากระทำกัน

ดังนั้น ขอให้เราทั้งหลาย จงอยู่ในความเมตตาจากพระองค์ ขอให้เราทั้งหลาย จงร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อช่วยกันแบกหามความสำเร็จที่มีต่อพระองค์ เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และได้รับในความดีจากพระองค์ และจงมอบหมายในความสำเร็จที่จะได้มาต่อพระองค์ และเราทั้งหลายจงยำเกรงต่อพระองค์


إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แตกแยกกันแล้วได้อะไรตอบแทน

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 23 ยะมะดิลเอาวัล 1431 (วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553)
แตกแยกกันแล้วได้อะไรตอบแทน

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلا تَمُوتُنَّ إِلا وَأَنْتُمْ مُسْلِمُونَ
وَاعْتَصِمُوا بِحَبْلِ اللَّهِ جَمِيعًا وَلا تَفَرَّقُوا وَاذْكُرُوا نِعْمَةَ اللَّهِ عَلَيْكُمْ إِذْ كُنْتُمْ أَعْدَاءً فَأَلَّفَ بَيْنَ قُلُوبِكُمْ فَأَصْبَحْتُمْ بِنِعْمَتِهِ إِخْوَانًا وَكُنْتُمْ عَلَى شَفَا حُفْرَةٍ مِنَ النَّارِ فَأَنْقَذَكُمْ مِنْهَا كَذَلِكَ يُبَيِّنُ اللَّهُ لَكُمْ آيَاتِهِ لَعَلَّكُمْ تَهْتَدُونَ
وَلْتَكُنْ مِنْكُمْ أُمَّةٌ يَدْعُونَ إِلَى الْخَيْرِ وَيَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنْكَرِ وَأُولَئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُونَ
وَلا تَكُونُوا كَالَّذِينَ تَفَرَّقُوا وَاخْتَلَفُوا مِنْ بَعْدِ مَا جَاءَهُمُ الْبَيِّنَاتُ وَأُولَئِكَ لَهُمْ عَذَابٌ عَظِيمٌ


ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย
ขอให้กระผมและท่านทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) จงมุ่งมั่นใส่ใจในกิจกรรมที่พระองค์ทรงใช้และทรงห้าม และจงยึดมั่นต่อแนวทางอันเที่ยงตรง และเป็นแนวทางที่พระองค์ทรงรัก หาใช่แนวทางที่พระองค์ทรงโกรธกริ้วของพวกที่หลงผิดทั้งหลาย เพื่อผู้ศรัทธาจะได้ใกล้ชิดกับพระองค์ และดำรงตนมิให้ออกนอกไปจากแนวทางอันได้รับความโปรดปราณจากพระองค์
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่หลายๆฝ่าย ต่างมีมุมมองที่สะท้อนถึงจุดหมายปลายทางของเหตุการณ์ต่างๆ ที่กระทบต่อกลุ่มชนต่างๆ ที่รอคอยคำตอบที่ต้องการ เป็นคำตอบที่เหมาะสม เป็นคำตอบที่มุ่งหวังที่จะให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ดุลยพินิจในการแสวงหาคำตอบจากกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นทางออกร่วมกันของทางสังคม ที่ลดความแตกแยกทางความคิด ความเข้าใจที่ต่างกัน ความสับสนแปลกแยก ที่สามารถแสวงหาจุดร่วมสงวนจุดต่าง เพื่อให้กระบวนการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง สามารถดำเนินการไปได้อย่างต่อเนื่อง ลดผลกระทบใดๆ ที่ส่งผลให้กระบวนการต่างๆ ที่หยุดชะงักงัน เพราะความไม่เข้าใจ ความเกลียดชัง และความไม่ลงรอยกัน ในที่สุดไม่สามารถสมานฉันท์ร่วมกันได้ ความเกลียดชังที่เกิดขึ้นเป็นบ่อเกิดให้เกิดความชะงักงันต่อภาพรวมของประเทศ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
กระบวนการต่างๆ ของประเทศ ต้องดำเนินต่อไปในหนทางที่แสวงหาความปรองดองร่วมกันมีแนวทางในการฟันฝ่าวิกฤติ (Road Map) ที่บ่งบอกถึงแนวทางที่จะนำความผาสุกกลับคืนมาให้กับสังคม ลดความขัดแย้ง ลดการแสวงหาผลประโยชน์ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม และการสื่อสารที่ทำให้เกิดภูมิปัญญา ทั้งหมดนี้ เป็นแนวทางที่แต่ละฝ่ายต่างมุ่งหวังร่วมกันที่จะให้กระบวนการต่างๆ นำพาซึ่งความสันติสุขกลับคืนมาให้กับสังคม และทุกๆ ฝ่ายมีหน้าที่ที่สำคัญที่จะให้ความร่วมมือกันเพื่อเป็นทางออกร่วมกันที่จะทำให้เกิดความปรองดองของทุกๆ ภาคส่วนในสังคม
ในขณะเดียวกัน การแข่งขันกันเพื่อที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ หรือการเลือกตั้ง การคัดสรรคนสำคัญ กลับเป็นตัวบั่นทอนให้เกิดความแตกแยกกันในทางความคิด ดังจะเห็นได้จากการเลือกตั้งในแต่ละครั้ง การหาเสียงเลือกตั้ง การใส่ร้ายโจมตี คู่ต่อสู้ หรือรวมถึงการซื้อเสียง ทั้งหลายนี้ มันจะนำมาซึ่งวิกฤติทางสังคม ดังที่เราได้เห็นความแตกแยกทางความคิดในทางสังคมของประเทศ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา วิกฤติที่เกิดขึ้น มิใช่เพียงการต่อสู้ของนักการเมืองแต่ละฝ่าย แต่เป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นในระดับรากหญ้า เราจะเห็นความสนใจในปัญหาที่เกิดขึ้นในระดับ สังคม ชุมชน และที่ร้ายกว่านั้น คือในระดับครอบครัว การถือหางฝ่ายหนึ่ง ที่เป็นคู่กรณีกันในทางสังคม ทำให้เกิดความผิดใจกัน สามีภรรยาหย่าร้างกัน ชุมชนเกิดความแตกแยก ไม่พบปะเสวนากันเหมือนในอดีต ความเกลียดชังกัน ทำให้เราต้องแยกสุเหร่า เราต้องละหมาดกันคนละมัสยิด รวมไปถึงการที่มุสลิมไม่รักกัน เพราะถือหางสีเสื้อกันคนละสี นั่นเพราะเราไม่เสวงหาอิสลามที่บริสุทธิ์ เราลืมหลักการที่พระองค์ทรงกำหนด และแนวทางที่พระองค์ทรงรัก เรามีอารมณ์ร่วมกันกับแต่ละกลุ่มหรือฝ่ายที่เกิดความขัดแย้งกันในปัจจุบัน
ขอยกโองการจากอัลกุรอ่านซูเราะห์ อาลิอิมรอน Al-Qur'an, 003.102-105 (Aal-E-Imran [The Family of Imran]) ความว่า
003.102 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلا تَمُوتُنَّ إِلا وَأَنْتُمْ مُسْلِمُونَ
003.102 O ye who believe! Fear Allah as He should be feared, and die not except in a state of Islam.
[3.102] โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงยำเกรงอัลลอฮ์อย่างแท้จริงเถิด และพวกเจ้าจงอย่าตาย เป็นอันขาดนอกจาก
ในฐานะที่พวกเจ้าเป็นผู้นอบน้อมเท่านั้น
003.103 وَاعْتَصِمُوا بِحَبْلِ اللَّهِ جَمِيعًا وَلا تَفَرَّقُوا وَاذْكُرُوا نِعْمَةَ اللَّهِ عَلَيْكُمْ إِذْ كُنْتُمْ أَعْدَاءً فَأَلَّفَ بَيْنَ قُلُوبِكُمْ فَأَصْبَحْتُمْ بِنِعْمَتِهِ إِخْوَانًا وَكُنْتُمْ عَلَى شَفَا حُفْرَةٍ مِنَ النَّارِ فَأَنْقَذَكُمْ مِنْهَا كَذَلِكَ يُبَيِّنُ اللَّهُ لَكُمْ آيَاتِهِ لَعَلَّكُمْ تَهْتَدُونَ
003.103 And hold fast, all together, by the rope which Allah (stretches out for you), and be not divided among yourselves; and remember with gratitude Allah's favour on you; for ye were enemies and He joined your hearts in love, so that by His Grace, ye became brethren; and ye were on the brink of the pit of Fire, and He saved you from it. Thus doth Allah make His Signs clear to you: That ye may be guided.
[3.103] และพวกเจ้าจงยึดสายเชือกของอัลลอฮ์โดยพร้อมกันทั้งหมดและจงอย่าแตกแยกกัน และจำรำลึกถึง
ความเมตตาของอัลลอฮ์ที่มีแต่พวกเจ้าขณะที่พวกเจ้าเป็นศัตรูกัน แล้วพระองค์ได้ทรงให้สนิทสนมกันระหว่าง
หัวใจของพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าก็กลายเป็นพี่น้องกันด้วย ความเมตตาของพระองค์ และพวกเจ้าเคยปรากฏอยู่บนปากหลุมแห่งไฟนรก แล้วพระองค์ก็ทรงช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากปากหลุมแห่งนรกนั้น ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงแจกแจงแก่พวกเจ้าซึ่งบรรดาโองการของพระองค์เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับแนวทางอันถูกต้อง
003.104 وَلْتَكُنْ مِنْكُمْ أُمَّةٌ يَدْعُونَ إِلَى الْخَيْرِ وَيَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنْكَرِ وَأُولَئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُونَ
003.104 Let there arise out of you a band of people inviting to all that is good, enjoining what is right, and forbidding what is wrong: They are the ones to attain felicity.
[3.104] และจงให้มีขึ้นจากพวกเจ้า ซึ่งคณะหนึ่งที่จะเชิญชวนไปสู่ความดีและใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้กระทำสิ่งที่มิชอบและชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ได้รับความสำเร็จ
003.105 وَلا تَكُونُوا كَالَّذِينَ تَفَرَّقُوا وَاخْتَلَفُوا مِنْ بَعْدِ مَا جَاءَهُمُ الْبَيِّنَاتُ وَأُولَئِكَ لَهُمْ عَذَابٌ عَظِيمٌ
003.105 Be not like those who are divided amongst themselves and fall into disputations after receiving Clear Signs: For them is a dreadful penalty,-
[3.105] และพวกเจ้าจงอย่าเป็นเช่นบรรดาผู้ที่แตกแยกกัน และขัดแย้งกันหลังจากที่บรรดาหลักฐานอันชัดแจ้ง
ได้มายังพวกเขาแล้วและชนเหล่านี้แหละสำหรับพวกเขา คือการลงโทษอันใหญ่หลวง

จากทั้ง 4 โองการที่ได้หยิบยกมา ชี้ให้เห็นว่า มุสลิมทั้งหลาย ทั้งนี้รวมถึงประชาชาติทั้งหลายด้วยว่า เราทั้งหลายนั้น อย่าเป็นส่วนหนึ่งของความแตกแยก เป็นปีกหนึ่งแห่งความขัดแย้งต่างๆ เหล่านั้น เพราะนั่น คือกระบวนการที่นำไปสู่ความอ่อนแอ เป็นความอ่อนแอทางสังคม ที่มีแนวโน้มว่า สังคมโดยรวมจะถูกทำให้กลายสภาพไป ถูกบั่นทอน ทำให้ศักยภาพของการแข่งขันลดลง ความอ่อนแอปวกเปียกเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นว่า สภาพทางสังคมของเรากำลังถดถอยและบั่นทอนให้เราตกต่ำในที่สุด บทเรียนที่สำคัญของสังคมไทย คือการเสียกรุงศรีอยุธยาทั้งสองครั้ง เป็นเหตุการณ์ที่เราได้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ ข้าราชการทะเลาะกัน ประชาชนไม่รักกัน ไม่มีความสามัคคี ไม่มีการสมานฉันท์ และเราไม่ปรองดองกัน ความรักใคร่กลมเกลียวกันไม่เกิดขึ้น คนทั้งสังคมถูกแบ่งแยกกันด้วยผลประโยชน์เฉพาะหน้า ไม่มองที่ภาพรวม แต่มองเพียงประโยชน์ที่กลุ่มและฝ่าย ต้องการ และอยากได้ในแต่ละสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่มองเห็นในปัจจุบัน เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ จะเป็นบทเรียนสอนใจสังคมไทยไปตลอดเวลา เราได้เรียนรู้ในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ แต่เราไม่ได้จดจำถึงผลกระทบ ความเลวร้าย และความร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น มันส่งผลกระทบไปไกลเกินว่าที่เราจะคาดคิด เราลืมไปว่า เราต้องการเพียงประโยชน์ตามที่เราต้องการแต่เราลืมมองภาพรวมและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากเราต้องการเพียงประโยชน์ที่เราจะได้รับเพียงเท่านั้น

การเลือกตั้งในแต่ละระดับ จำเป็นที่เราจะต้องตั้งคำถามกับตัวเราเองว่า เรากำลังมอบหมายการทำหน้าที่ให้กับเขาผู้นั้น ไปใช้สิทธิ ใช้เสียง ทำงานแทนเรา เพื่อประโยชน์ของสังคมในภาพรวมทั้งหมด แต่การเลือกตั้งผู้นำในทางศาสนาอิสลาม จะลึกซึ้งกว่าการเลือกผู้แทน เสียอีก เสียงที่ใช้ในการตัดสินอันมาจากกลุ่มชนที่สนับสนุนนั้น ใช้ไม่ได้กับการที่เราจะมีคนดีที่สุดเพียงคนเดียวที่จะทำหน้าที่จุฬาราชมนตรี กลุ่มหรือคณะบุคคลที่ได้รับประโยชน์จากการทำหน้าที่เป็นกรรมการ อาจสูญเสียอิหม่าน สูญเสียอะมานะห์ หากกลุ่มเหล่านั้น ไม่ยึดมั่นสายเชือกของพระองค์ เขาเหล่านั้น อาจทำให้สังคมมุสลิมดำเนินไปในแนวทางที่พระองค์ทรงรัก และทรงปรารถนาดี และในทางตรงกันข้าม เสียงต่างๆ เหล่านั้น อาจสร้างความอ่อนแอและความถดถอยของสังคมมุสลิมก็เป็นได้ หากเสียงเหล่านั้นไม่คำนึงถึงประโยชน์ และคำตอบที่พวกเขาเหล่านั้นจะกลับไปยังพระองค์ บทเรียนต่างๆ ที่ผ่านมามีมากมายที่เราจะได้เรียนรู้ได้ศึกษา และนำมาปรับใช้ให้ได้อย่างเหมาะสม บทเรียนนั้น มีทั้งบทเรียนที่มีความสำเร็จและเป็นบทเรียนที่มีแต่ความล้มเหลว หากเราต้องมาร่วมกันพิจารณาได้ว่า เราจะสร้างบทเรียนครั้งใหม่ให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้ศึกษาอย่างไร เพราะการตัดสินใจ มอบหมายความไว้วางใจในตัวบุคคลที่เสนอตัวมาในครั้งนี้ เป็นบทเรียนแห่งความสำเร็จ และเป็นบทเรียนของความล้มเหลว ขอให้เรายึดมั่นในแนวทางของท่านศาสดาและแนวทางที่พระองค์ทรงรักและทรงไว้วางใจ เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้กลับไปยังพระองค์ ได้อย่างภาคภูมิใจ และสังคมในภาพรวมได้ประโยชน์อย่างถ้วนหน้า และมีความสุขในภราดรภาพแห่งอัลอิสลาม
ขอฝากฮาดีซ ของท่านศาสดาไว้ในตอนท้าย เพื่อที่กระผมและท่านทั้งหลายในที่นี้ จะได้ตระหนักถึงการทำหน้าที่มุสลิมที่ดี สมาชิกของประเทศนี้ ที่รักและอยากให้สังคมของเรามีความสุขอยู่กันด้วยความปรองดองต่อไป

“การศรัทธาของคนๆหนึ่งจะยังไม่สมบูรณ์จนกว่าเขาจะรักพี่น้อง(มุสลิม)ของเขา เช่นเดียวกับที่เขารักตัวของเขาเอง” (บันทึกโดย บุคอรี-มุสลิม)

“เท้าทั้งสองขอลูกหลานอาดัมจะยังไม่ก้าวเดินไปไหนในวันกิยามะฮฺ จนกว่าจะถูกถามเกี่ยวกับอายุของเขาหมดไปในทางใด จากความรู้ของเขาปฎิบัติตัวอย่างไร จากทรัพย์สมบัติของเขาได้มาและใช้จ่ายไปในทิศทางใด และจากร่างกายของเขาทรุดโทรมลงไปในทางใด” (บันทึกโดย ติรมีซีย์ )

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com