วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก (2)

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 12 ร่อบีอุ้ลเอาวัล 1431 (วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก (2)

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ



มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย
กระผมขอซูกูรในเนี้ยะมัตจากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ที่ทรงรักและเมตตาให้เราได้มาพบกันอีกครั้งในวันศุกร์นี้ ขอให้พวกเราจงยำเกรงต่อพระองค์และจงระลึกอยู่เสมอว่า วันหนึ่งข้างหน้าอีกไม่นานเกินรอนั้น เราจะต้องกลับไปยังพระองค์ แต่ในวันนี้ เราได้ใช้ทรัพยากรจากพระองค์ เราได้รับประโยชน์ต่างๆ มากมาย เราแสวงหาซึ่งความสุข ตามอารมณ์ ตามความพอใจขอเรา แล้วเราได้คิดบ้างหรือไม่ว่า สิ่งต่างๆที่เราได้รับมากมายเหล่านั้น เราจะตอบแทนในสิ่งนั้นๆ อย่างไร เพราะ ณ พระองค์ นั้น พระองค์ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากมัคลู้คของพระองค์นอกเสียจากความยำเกรงต่อพระองค์ รู้จักพระองค์ และกระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ซึ่งในที่สุดวันแห่งการตัดสิน เราจะได้ประจักษ์กับสิ่งที่เราได้ประพฤติปฏิบัติในวันนี้ เพราะมุสลิมทั้งหลาย เรามิได้สาระวนกับสิ่งที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน หากแต่เราต้องหมั่นทบทวนอดีต ประพฤติให้ถูกทางในปัจจุบัน เพื่อมุ่งผลแห่งอนาคต เมื่อเราต้องกลับไปยังพระองค์ แน่นอนว่า ผลของการกระทำของเราในปัจจุบัน จะเป็นตำตอบที่ดีที่สุดสำหรับเราในวันนั้น
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ทรัพย์สิน และลูกหลานของเรา คือสิ่งที่พระองค์ทรงใช้เป็นสิ่งทดสอบถึงการทำอิบาดัรของพวกเราภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องของความอดทน ความอดกลั้น ความเข้มแข็งในอิหม่าน ความศรัทธาในพระองค์ แบบทดสอบต่างๆ จากพระองค์ เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการทดสอบสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ จะเป็นเรื่องใหญ่ หรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ล้วนแล้ว เป็นตัววัดที่สำคัญทั้งสิ้น เรื่องต่างๆ ที่พระองค์ทรงทดสอบนั้น เพื่อหวังว่าคนที่ถูกทดสอบจะมีความเข้มแข็งต่อสภาวะที่กำลังประสบอยู่นั้น ในขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ที่มองดูการทดสอบจากพระองค์อยู่ ก็อยู่ในสภาพที่ต้องถูกทดสอบด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในเมื่อพระองค์ทรงต้องการอิหม่านศรัทธาจากมวลมนุษย์ทั้งหลายอยู่นั้น เราจึงต้องพร้อมที่จะถูกทดสอบด้วย ไม่ว่าเรื่องที่เราถูกทดสอบนั้น จะเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องที่ยิ่งใหญ่และมีความรุนแรงเพียงไร ผลจากสิ่งต่างๆ เหล่านั้น จึงอยู่ที่สิ่งที่เราได้สัมผัสนั้น เราแสดงออกอย่างไร ดังนั้น ขอให้เราทุกคนต้องมีความพร้อมอยู่เสมอสำหรับการทดสอบจากพระองค์ในทุกเรื่อง ทุกเวลา ทุกสภาวะ ดังเช่น ท่านศาสดามูฮำมัด (ซ.ล.) ได้ถูกทดสอบในสิ่งที่ยิ่งใหญ่จากพระองค์ นั่นคือ การเป็นเด็กกำพร้า ที่ต้องขาดทั้งพ่อและแม่ และได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากลุง ซึ่งเป็นพ่อค้า และมีลูกมากมาย สิ่งที่ท่านได้รับในวัยเด็ก คือ สภาพของเด็กที่ขาดที่พึ่งพิง ไม่มีใครเอาอกเอาใจเหมือนเยาวชนในปัจจุบัน ที่มีพ่อแม่คอยใจใส่อยู่เสมอ คอยตักเตือนในเรื่องต่างๆ ทั้งการเรียน และปัจจัยต่างๆ ชีวิตของท่านในวัยเด็ก ท่านถูกทดสอบจากพระองค์ในเรื่องนี้ แต่ท่านก็อดทนและพร้อมกับการทดสอบโดยไม่ย่อท้อหรือท้อแท้กับชีวิตและความเป็นอยู่ในช่วงนั้น ลุง ซึ่งเป็นผู้ปกครองของท่านมักจะให้ความรักและความปรารถนาดีแก่ท่านในเรื่องต่างๆ คอยปกป้อง หากมูฮำมัดในช่วงเยาว์วัยจะพานพบ แต่สิ่งนั้น คงเทียบไม่ได้กับการที่เด็กคนหนึ่งจะพึงได้รับจากพ่อและแม่ การใช้ชีวิตของท่านในช่วงนี้ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ท่านมีความอดทนต่อทุกภาวะที่บีบครั้นจิตใจ การตัดสินใจในเรื่องที่มีความสำคัญ และในการประกาศศาสนาของท่านภายใต้สภาวะที่ถูกต่อต้านจากชนที่ตั้งตนเป็นศัตรูของท่าน
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ชีวิตของเด็กหรือเยาวชนที่ต้องกลายมาเป็นเด็กกำพร้านั้น เป็นสภาวะทางจิตใจและจิตใต้สำนึกของพวกเขาที่ต้องขาดซึ่งผู้ที่จะเป็นแบบอย่างให้กับเขา ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ก็ดี อาจกล่าวได้ว่า ชีวิตครอบครัวหนึ่งที่มีพร้อมทั้งพ่อและแม่ นั้น ลูกๆ ที่ผ่านการอบรมเลี้ยงดูจากท่านทั้งสอง จะมีชีวิตที่สดใส ได้รับความรักความเอาใจใส่ อยากเรียกร้องสิ่งใดจากพ่อและแม่ ก็จะได้ตามใจปรารถนา แต่สำหรับเด็กๆ ที่ขาดความอบอุ่นในครอบครัว การที่จะแสวงหา หรือได้มาด้วยสิ่งที่มุ่งหวัง ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ซึ่งสังคมหรือสภาพแวดล้อมทางสังคมรอบตัวพวกเขาเหล่านั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญ ในเรื่องสิ่งแลกเปลี่ยนที่เขาได้มาในสิ่งนั้นๆ การแสวงหาความสุขของพวกเขา เหล่านั้น เขาจึงต้องใช้การแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยสำคัญ ดังนั้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ จึงเป็นตัววัดผลของการกระทำของพวกเขา และเป็นสิ่งที่จะติดตัวของเขาไปตลอด เพื่อเป็นประจักษ์พยานในการกระทำต่างๆ ของพวกเขา ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การขัดเกลาของผู้ปกครองของเด็กกำพร้านั้น จะเป็นปัจจัยที่จะชี้นำแนวทางปฏิบัติของเด็กๆ เหล่านั้น ในยามที่พวกเขาเติบโตในภายภาคหน้า ถ้าหากเขาได้รับการปฏิบัติและได้รับการทดแทนจากการขาดซึ่งพ่อ แม่ ของพวกเขา จะทำให้การดำเนินชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น ต่อไป ซึ่งเขาจะเป็นคนดีของสังคม หรือเป็นภาระของสังคม ก็อยู่ที่ การชี้นำแนวทางเหล่านี้ ซึ่งแม้ว่าเราจะอยู่ห่างจากพวกเขา แต่ในสังคมเดียวกันแล้ว เราจะทอดทิ้งให้เขาเป็นภาระของสังคมกระนั้นหรือ จากโองการอัลกุรอ่าน ที่ได้ยกมาในช่วงแรก นั้น ความว่า
093.001 وَالضُّحَى
093.001 By the Glorious Morning Light,
[93.1] ขอสาบานด้วยเวลาสาย
093.002 وَاللَّيْلِ إِذَا سَجَى
093.002 And by the Night when it is still,-
[93.2] และด้วยเวลากลางคืนเมื่อมันมืดและสงัดเงียบ
093.003 مَا وَدَّعَكَ رَبُّكَ وَمَا قَلَى
093.003 Thy Guardian-Lord hath not forsaken thee, nor is He displeased.
[93.3] พระเจ้าของเจ้ามิได้ทรงทอดทิ้งเจ้า และมิได้ทรงโกรธเคืองเจ้า
093.004 وَلَلآخِرَةُ خَيْرٌ لَكَ مِنَ الأولَى
093.004 And verily the Hereafter will be better for thee than the present.
[93.4] และแน่นอนเบื้องปลายเป็นการดียิ่งแก่เจ้ากว่าเบื้องต้น
093.005 وَلَسَوْفَ يُعْطِيكَ رَبُّكَ فَتَرْضَى
093.005 And soon will thy Guardian-Lord give thee (that wherewith) thou shalt be well-pleased.
[93.5] และความแน่นอนพระเจ้าของเจ้าจะให้แก่เจ้าจนกว่าจะพอใจ
093.006 أَلَمْ يَجِدْكَ يَتِيمًا فَآوَى
093.006 Did He not find thee an orphan and give thee shelter (and care)?
[93.6] พระองค์มิได้ทรงพบเจ้าเป็นกำพร้าแล้วทรงให้ที่พึ่งดอกหรือ?
093.007 وَوَجَدَكَ ضَالا فَهَدَى
093.007 And He found thee wandering, and He gave thee guidance.
[93.7] และทรงพบเจ้าระเหเร่ร่อน แล้วก็ทรงชี้แนะทาง (แก่เจ้า) ดอกหรือ ?
093.008 وَوَجَدَكَ عَائِلا فَأَغْنَى
093.008 And He found thee in need, and made thee independent.
[93.8] และทรงพบเจ้าเป็นผู้ขัดสน แล้วให้มั่งคั่ง (แก่) เจ้าดอกหรือ ?
093.009 فَأَمَّا الْيَتِيمَ فَلا تَقْهَرْ
093.009 Therefore, treat not the orphan with harshness,
[93.9] ดังนั้นส่วนเด็กกำพร้าเจ้าอย่าข่มขี่
093.010 وَأَمَّا السَّائِلَ فَلا تَنْهَرْ
093.010 Nor repulse the petitioner (unheard);
[93.10] และส่วนผู้เอ่ยขอนั้น เจ้าอย่าตวาดขับไล่
093.011 وَأَمَّا بِنِعْمَةِ رَبِّكَ فَحَدِّثْ
093.011 But the bounty of the Lord - rehearses and proclaim!
[93.11] และส่วนความโปรดปรานแห่งพระเจ้าของเจ้านั้น เจ้าจงแสดงออก

ชีวิตในช่วงเยาว์วัยของท่านศาสดา เป็นช่วงที่ท่านเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ในความอุปการะของลุง การขัดเกลาของลุงในเรื่องต่างๆ เป็นสิ่งหนึ่งที่ย้ำเตือนให้ท่านได้ใช้ชีวิต เฉกเช่นเด็กทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ท่านได้รับและเป็นสิ่งที่เราได้กล่าวถึงท่านในวันนี้ คือ ความเป็นมหาบุรุษของท่าน ก็ด้วยการขัดเกลาเหล่านี้ ท่านเป็นผู้นำ มิใช่ภาระของสังคม และการที่ท่านได้ประสบในช่วงเยาว์วัยของท่านนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ให้โองการแก่ท่านในอายะห์ที่ได้ยกมา จะเห็นว่า สภาพของเด็กกำพร้า เป็นสิ่งหนึ่งที่พระองค์ทดสอบ ทั้งตัวเด็กๆ เหล่านั้น และบุคคลอื่นๆในสังคม ที่จะคอยดูแล เอาใจใส่ต่อพวกเขา เสมือนหนึ่งว่า เด็กๆ เหล่านั้น คือ ตัวแทนที่ทำให้เราได้แง่คิดว่า การกระทำต่อพวกเขาเหล่านั้น เป็นสิ่งทดสอบต่อพวกเราว่า เรารักท่านศาสดามากน้อยเพียงใด ท่านศาสดามีวจนะกับผู้ใกล้ชิดตอนหนึ่งเกี่ยวกับการช่วยเหลือเด็กกำพร้าว่า จะอยู่ใกล้ชิดกับท่านในวันกิยามัต คือใกล้กันเสมือนนิ้วมือของคน นั้นคือ การกระทำต่อเด็กๆ เหล่านั้น เป็นการแสดงออกที่มองเห็นได้ว่า พวกเขาเหล่านั้น ได้รับความโปรดปราณจากพระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคม ต้องมองถึงความสำคัญในเรื่องนี้
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
มหาบุรุษแห่งโลก มิใช่เป็นคนที่มีความเพียบพร้อมทุกๆ อย่าง มิใช่คนที่มีทรัพย์สินมากมายมหาศาล จะเห็นได้ว่า คนที่ร่ำรวยที่สุด หากพระองค์จะเอาคืน เพียงชั่วพริบตา ทรัพย์สินมากมายมหาศาลเหล่านั้น ก็จะอันตธานหายไปเป็นของผู้อื่น หรือตกเป็นของแผ่นดิน หากแต่ การเป็นมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ก็ด้วยกระบวนการขัดเกลาในช่วงเยาว์วัย พวกเขาเหล่านั้นได้รับสิ่งใดเป็นตัวอย่าง กระบวนการต่างๆเหล่านั้นได้สร้างให้พวกเขาได้เห็นถึงความเข้มแข็ง ความอดทน และจริยธรรมที่ดีแก่พวกเขามากน้อยเพียงใด วันนี้พวกเขาถูกทดสอบในเรื่องหนึ่ง และเราทั้งหลายก็ถูกทดสอบในเรื่องเดียวกันนี้ เช่นกัน เพียงแต่ว่า พวกเขาประสบกับเรื่องนั้นโดยตรง แต่เราเป็นเพียงผู้ที่คอยดูอยู่ห่างๆ แต่ถ้าเราเพิกเฉยต่อพวกเขา แน่นอนในวันหน้า เมื่อพวกเขาเป็นภาระของสังคม เราย่อมได้รับผลกระทบในทางอ้อม หรือโดยตรง แต่ถ้าเราไม่เพิกเฉยต่อพวกเขา ให้โอกาสกับพวกเขา สนับสนุนในเรื่องที่ดีกับพวกเขา แน่นอนว่า เมื่อเขาเติบใหญ่แล้ว เขาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นคนดีของสังคม แล้ว เราซึ่งคอยดูแลพวกเขา แน่นอนความภูมิใจที่ได้รับ การแสดงความปรารถนาดีต่อพวกเขา นั่นคือชัยชนะของสังคม ไม่มีใครทราบได้ว่า เด็กๆ เหล่านั้น อาจได้เป็นมหาบุรุษในสังคมก็เป็นได้

إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก (1)

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 5 ร่อบีอุ้ลเอาวัล 1431 (วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก (1)

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา กระผมและท่านทั้งหลายต่างมุ่งมั่นในภารกิจการงาน ทรัพย์สิน และลูกหลาน เพื่อสร้างความสุขให้กับครอบครัว หนทางแห่งความสำเร็จในภารกิจที่เราทั้งหลายต่างกระทำนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราคิดและตั้งใจในสิ่งนั้นๆ ด้วยความหวังของพวกเรา แต่เราอาจมองข้ามไปว่า ความสำเร็จที่เราได้รับนั้น มีจุดมุ่งหมายปลายทางนั้น ที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เพราะว่าพระองค์ทรงรักพวกเรา ทรงเมตตาและกรุณาให้กับเรา สิ่งที่พระองค์ทรงฮิดายะห์ให้กับเรานั้น นั่นคือความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เป็นความยิ่งใหญ่ที่สรรพสิ่งทั้งหลาย ต่างต้องยำเกรงต่อพระองค์ หาใช่อื่นใดที่ให้กับเราได้ นอกจากพระองค์เท่านั้น ในบางครั้งเราอาจคิดไปต่างๆ นาๆ ว่า ทำไม ชาวกาเฟรทั้งหลายเขาต่างร่ำรวย หรือมีทรัพย์สินต่างๆ มากมาย ขนาดนั้น แต่สำหรับเรา เรายึดมั่นในแนวทางของพระองค์ แต่เรากลับได้รับในริสกี น้อยกว่าเขา หากท่านทั้งหลายในที่นี้คิดอย่างนั้น ขอได้โปรดเตาบัตแล้วย้อนคิดเสียใหม่ว่า ในความเมตตาของพระองค์นั้น พระองค์ได้สั่งสอนพวกเราไว้ด้วยกุศโลบายที่แยบคายว่า การที่พระองค์ให้กับเขาทั้งหลายมากมายในวันนี้นั้น แท้จริงพระองค์ให้ความเมตตาต่อพวกเขาเหล่านั้น เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช่สติปัญญาของพวกเขาเหล่านั้น ได้ย้อนถามตนเองได้ว่า เขาเหล่านั้น ได้ใช้ริสกีที่พระองค์ให้แล้ว เขาต้องปฏิบัติตนเช่นไร ดังนั้น วันนี้พระองค์ทรงให้กับเรามากมายในริสกีที่เราได้รับ เราจึงต้องย้อนกลับว่า เราได้ให้กับพระองค์อย่างไรบ้าง แท้จริงแล้ว พระองค์ต้องการสิ่งใดจากเรา และเราต้องให้สิ่งใดแก่พระองค์ ขอให้พวกเราทั้งหลายในที่นี้ จงสำนึกและยำเกรงต่อพระองค์ให้มากที่สุด ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเรานั้น เราได้รับในสิ่งต่างๆ มากมาย เช่นกัน ในบางกรณีเราต่างก็เสียหายในหลายๆ สิ่งด้วยเช่นกัน วันนี้ เรายังมีชีวิตที่ต้องดิ้นรนขวนขวายในสรรพสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุข ในชีวิตของเราครอบครัวของเรา วันนี้ เราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์แล้วหรือยัง


ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ในระบบประชาธิปไตย ประชาชนทั้งหลาย ต่างมุ่งหมายที่จะแสวงหาผู้นำที่พวกเขาเห็นว่า จะสร้างความผาสุกให้กับพวกเขา สร้างชาติ บ้านเมืองให้มีความเจริญเติบโต ความยิ่งใหญ่ เป็นที่เกรงขามให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือกันกับเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะรวมกลุ่มกันเพื่อการแข่งขันอย่างเสรีกับประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย การเลือกตั้งในทางการเมือง เราต่างก็มีมุมมองที่แตกต่างกันทางความคิด แต่ในทางอิสลามแล้ว การเลือกตั้งมิใช่หนทางที่ดีที่สุดในการเลือกผู้นำ ผู้นำทางศาสนาอิสลามต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเป็นคนที่มีความยุติธรรม รอบรู้ในเรื่องนิติบัญญัติ อัลกุรอ่าน อัลฮาดีซ และหลักชาริอะห์ ดังนั้น การแสวงหาผู้นำตามแนวทางของอิสลาม ที่ถูกต้องแล้ว ผู้อาวุโส บรรดาผู้ที่มีความรู้ ต้องเห็นสอดคล้องกันว่าผู้ที่เหมาะสมที่สุดในกลุ่มของพวกเรา มีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ผู้นำของพวกเรา แต่การที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) จะทรงเลือกศาสนทูตของพระองค์นั้น บุคคลที่เหมาะสมที่พระองค์ทรงเลือกนั้น พระองค์ทรงให้ความไว้วางใจในการเป็นศาสนทูตของพระองค์ เป็นบุคคลที่มีความเพียบพร้อมในการทำหน้าที่นี้สำหรับพระองค์ เป็นบุคคลที่ไม่มีความสงสัยใดๆ ที่จะนำการสื่อสารในหนทางที่ถูกต้องจากพระองค์มาสู่ประชาชาติของพระองค์ เพราะการสื่อสารจากพระองค์นั้น เป็นสื่อทางเดียวที่มีความถูกต้องในตัวของมัน ไม่มีการเสริมแต่ง ปรับปรุง เพื่อให้การสื่อสารจากพระองค์นั้น เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมหนึ่ง ๆ แต่ การสื่อสารจากพระองค์นั้น คนที่ทำหน้าที่สื่อ จะต้องเป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีจริตกริยาที่จะไปดัดแปลงสารจากพระองค์ ซึ่งจะเห็นว่า ครั้งแรกที่พระองค์ประทานคัมภีร์อัลกุรอ่านให้กับท่านศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.) พระองค์ทรงมีโองการ ความว่า
096.001 اقْرَأْ بِاسْمِ رَبِّكَ الَّذِي خَلَقَ
096.001 Proclaim! (or read!) in the name of thy Lord and Cherisher, Who created-
[96.1] จงอ่าน ด้วยพระนามแห่งพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงบังเกิด
แต่ท่านก็ตอบญิบรีลไปว่า เราอ่านไม่เป็น แต่ญิบรีลก็พยายามให้ท่านอ่านด้วยพระนามของพระเจ้า และได้มีโองการต่อไปว่า
096.002 خَلَقَ الإنْسَانَ مِنْ عَلَقٍ
096.002 Created man, out of a (mere) clot of congealed blood:
96.2] ทรงบังเกิดมนุษย์จากก้อนเลือด
096.003 اقْرَأْ وَرَبُّكَ الأكْرَمُ
096.003 Proclaim! And thy Lord is Most Bountiful,-
[96.3] จงอ่านเถิด และพระเจ้าของเจ้านั้นผู้ทรงใจบุญยิ่ง
096.004 الَّذِي عَلَّمَ بِالْقَلَمِ
096.004 He Who taught (the use of) the pen,-
[96.4] ผู้ทรงสอนการใช้ปากกา

096.005 عَلَّمَ الإنْسَانَ مَا لَمْ يَعْلَمْ
096.005 Taught man that which he knew not.
[96.5] ผู้ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้
กระนั้นก็ตาม เราได้ศึกษาประวัติของท่านศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล) แล้ว คงได้ประจักษ์ว่า ตลอดชีวิตของท่านนั้น ท่านไม่ได้เรียน ท่านอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ดังนั้น การที่ญิบรีลมาบอกให้ท่านอ่านและเขียนในเรื่องใดๆ แล้ว แน่นอนว่า สิ่งที่ผ่านจากท่านไปยังคนอื่นๆ นั้น จะถูกถ่ายทอดไปโดยไม่มีความเอนเอียงของข้อมูลอันเนื่องมาจากการมีทัศนคติของท่านเลย จุดนี้ คือ ความเที่ยงตรงของโองการจากอัลกุรอ่าน ที่ผ่านท่านศาสดา (ซ.ล.) มายังประชาชาติของท่าน นอกจากนี้ ประสบการณ์ในการเป็นพ่อค้าของท่าน ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความซื่อสัตย์ของท่าน การที่ท่านได้รับสมัญญาว่า “อัลอามีน” เป็นที่ประจักษ์กับคนทั้งหลายได้ถึงความซื่อสัตย์ในการทำหน้าที่ของท่าน และการที่ท่านได้ตัดสินในภารกิจการบูรณะอัลกะบะห์ อย่างประนีประนอมกับเผ่าชนกุเรซ เหล่านั้น เป็นที่มั่นใจในความเป็นคนตัดสินที่ดีแก่ปวงชนในสมัยนั้น บทบาทของท่านศาสดา ในลักษณะเช่นนี้ ย่อมเป้นแนวทางที่คนทั้งหลายจะให้ความมั่นใจในความ เที่ยงธรรมของท่าน ในการทำหน้าที่ที่จะได้รับมอบหมายกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อมวลชน และประชาชาติทั้งหลาย ในบทบาทของผู้สื่อสาร ผู้นำทาง และผู้ที่ทุกคำพูดและการกระทำของเขา จะถูกกระทำตาม ในอนาคตต่อไป
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
การที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงเลือกเฟ้นบุคคลที่จะมาทำหน้าที่สำคัญนี้ ด้วยมุ่งหวังที่จะให้บุคคลนี้ทำหน้าที่ชี้แนะให้กับประชาชาติทั้งหลาย แล้ว ทั้งคำพูด การกระทำของบุคคลท่านนี้ ย่อมเป็นแนวทางในการแสวงหาซึ่งความโปรดปราณจากพระองค์ ทุกๆ คำพูดและการกระทำ เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า ความคิดของเขานั้นเป็นอย่างไร ในแต่ละโองการที่พระองค์ทรงสื่อสารกับประชาชาติของพระองค์โดยผ่านบุคคลท่านนี้ จะไม่ถูกเสริมเติมแต่งใส่สีใส่เนื้อหาอะไรต่างๆ เข้าไป ซึ่งจะเห็นว่า คุณค่าในอัลกุรอ่านทุกๆ โองการ ล้วนมีความทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ ทั้งๆ ที่การประทานอัลกรอ่านนั้น ผ่านมากว่า 1400 ปีแล้ว
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย
ทุกๆ ปี ในเดือนร่อบีอุ้ลเอาวัล มุสลิมทั่วโลก ทราบดีว่า มีวันสำคัญวันหนึ่งที่ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของท่าน หลายๆ ทราบดีว่า แม้แต่วันที่ท่านฮิจเราะห์จากมักกะห์ไปม่าดีนะห์ ก็ตรงกับเดือนนี้ และเช่นกัน ท่านถึงแก่อายั้ลของอัลลอฮ์(ซ.บ.) ก็อยู่ในเดือนนี้ หลายๆ ส่วนมีการเฉลิมฉลองกัน แต่บางส่วนก็มองว่า การเฉลิมฉลองดังกล่าวนั้น เป็นบิดอะห์ ที่สอดคล้องกับการกระทำของเหล่าคริสเตียนและยะฮูดี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กล่าวถึงในคุตบะห์ นี้ เป็นการรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของท่าน ตลอดชีวิตของท่านนั้น ล้วนมีหลายๆ สิ่งที่จะหยิบยกมากล่าวถึง เพื่อแสดงให้ท่านทั้งหลายได้เห็น และประจักษ์ในความยิ่งใหญ่เหล่านั้น ของท่าน ในทุกๆ เวลาของการละหมาดในแต่ละวัน มวลประชาชาติมุสลิมทั้งโลก ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญท่านศาสดาในตะฮียัตครั้งสุดท้ายก่อนให้สลาม นั่นเป็นสิ่งที่เรามองเห็นในภาพรวมร่วมกันแล้วว่า มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกท่านนี้ มีแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เราต้องแสดงออกให้เห็นว่า ในชีวิตของเรานั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ทิ้งแนวทางตามวจนะและการกระทำของท่าน จากโองการในซูเราะห์ มุฮำมัด ความว่า

047.033 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ وَلا تُبْطِلُوا أَعْمَالَكُمْ
047.033 O ye who believe! Obey Allah, and obey the messenger, and make not vain your deeds!
[47.33] โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามร่อซู้ลคนนี้เถิดและอย่าทำ
ให้การงานของพวกเจ้าไร้ประโยชน์

047.034 إِنَّ الَّذِينَ كَفَرُوا وَصَدُّوا عَنْ سَبِيلِ اللَّهِ ثُمَّ مَاتُوا وَهُمْ كُفَّارٌ فَلَنْ يَغْفِرَ اللَّهُ لَهُمْ
047.034 Those who reject Allah, and hinder (men) from the Path of Allah, then die rejecting Allah,- Allah will not forgive them.
[47.34] แท้จริง บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและปิดกั้นให้ห่างจากทางของอัลลอฮ์แล้วพวกเขาตายลงทั้ง ๆ ที่พวกเขา
เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่ อัลลอฮ์จะไม่ทรงอภัยโทษให้พวกเขาเลย

047.035 فَلا تَهِنُوا وَتَدْعُوا إِلَى السَّلْمِ وَأَنْتُمُ الأعْلَوْنَ وَاللَّهُ مَعَكُمْ وَلَنْ يَتِرَكُمْ أَعْمَالَكُمْ
047.035 Be not weary and faint-hearted, crying for peace, when ye should be uppermost: for Allah is with you, and will never put you in loss for your (good) deeds.
[47.35] ดังนั้น พวกเจ้าอย่าท้อแท้และเรียกร้องไปสู่การสงบศึก เพราะพวกเจ้าเป็นผู้อยู่เหนือสุด และอัลลอฮ์ทรง
อยู่ร่วมกับพระเจ้าและพระองค์จะไม่ทรงลิดรอนผลตอบแทนแห่งการงานของพวกเจ้า

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลก ได้จากเราไปแล้ว แต่สิ่งที่ท่านทิ้งไว้เป็นมรดกที่มีคุณค่าที่ไม่มีวันย่อยสลายไปตามสภาพร่างกายของคนนั่นก็คือ ซุนนะห์ ซึ่งเป็นแนวทางของท่าน วันนี้ เรารักษาซุนนะห์ของท่านไว้อย่างไร เราปิดกั้นเส้นบางๆ ระหว่างขาวและดำ มืดกับสว่าง ดีกับชั่วไว้อย่างไรบ้าง สิ่งเหล่านี้ แม้ใกล้ชิดกันเท่าไร ก็มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่แนวทางตามซุนนะห์ของท่านศาสดา เป็นแนวทางที่เข้มแข็ง ไม่โอนอ่อนผ่านตามความต้องการที่ซ่อนเร้นในใจของคน เป็นแนวทางที่บ่งบอกให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสองสิ่งออกมาให้เห็นได้อย่างแจ่มชัด เป็นแนวปฏิเสธความไม่ถูกต้องที่ละมุนละม่อมแต่เข้มแข็งที่สุด วันนี้ จิตใจของเราอาจไม่เข้มแข็งกับสิ่งต่างๆ ที่ฝังลึกในจิตใจของเรา แต่มั่นเป็นสิ่งที่อ่อนแอที่สุด หากเปรียบเทียบกับความเข้มแข็งแห่งอีหม่าน ตามซุนนะห์ของท่านศาสดา ดังนั้น การที่เราได้ศึกษาส่วนหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ของท่านศาสดาแล้ว เราก็จะได้พบกับความจริงในบริบทหนึ่งแห่งแนวทางในชีวิตและผลงานของท่าน ขอให้เราจงมีอิหม่านที่เข้มแข็ง


إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (www.beconvinced.com

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อยากให้ความรักกับคนทั้งโลก

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 28 ซอฟัร 1431 (วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
อยากให้ความรักกับคนทั้งโลก

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
เป็นอีกสัปดาห์หนึ่งที่เราท่านทั้งหลาย ได้ผ่านพ้นประสบการณ์แห่งชีวิต และการถูกทดสอบจากพระองค์ ขอให้กระผมและท่านทั้งหลายจงยำเกรงต่อพระองค์ และตั้งตนอยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงแห่งพระองค์ ชิวิตของเราทุกคน จะต้องกลับไปยังพระองค์ สิ่งที่เราต้องนำพาไปในวันแห่งการตัดสิน หาใช่ทรัพย์สิน หรือจำนวนลูกหลาน และสรรพสิ่งต่างๆ ที่เราได้แสวงหาเอาไว้ไม่ เราทุกคนต้องกลับไปยังพระองค์ด้วยชีวิตและอาม้านที่ดีด้วยจิตที่มุ่งตรงต่อพระองค์ มิใช่อาม้านที่เราอวดอ้างต่อเพื่อมนุษย์ให้เกิดการเยินยอหรือดีใจในสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น ในทุกๆ อิริยาบถของเรา จงแสดงออกถึงความมุ่งมั่นปรารถนาดีต่อพระองค์ ยำเกรงต่อพระองค์ เพราะนั่นคือชัยชนะของพวกเรา

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
เทศกาลวันวาเลนไทน์ เป็นความเชื่อและแนวปฏิบัติของเหล่าชาวคริสเตียน เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดความเชื่อที่มีการตั้งภาคีต้อพระองค์ ดังนั้น ในสถานะของความเป็นมุสลิมและเป็นบ่าวที่ดีต่อพระองค์แล้ว เราต้องหลีกห่าง ออกห่างไกลจากแนวคิดดังกล่าวเหล่านั้น เพราะจะทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาเหล่านั้น และสุดท้ายเราก็จะเป็นกลุ่มหนึ่งจากพวกเขา เป็นกลุ่มที่อยู่ร่วมกันกับพวกเขาในวันแห่งการตอบแทน

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
แท้จริงแล้ว ความรักที่เป็นสากล และมั่นคงยั่งยืนที่สุด นั่นคือ ความรักที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) มีให้กับบ่าวของพระองค์ เป็นความรักหาสิ่งใดมาทดแทนไม่ได้ ความรักของพระองค์ต่อปวงบ่าวของพระองค์นั้น ไม่มีสิ่งใดจะทดแทนได้ เป็นความรักที่มีแต่การให้ ให้ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่าง แต่สิ่งที่พระองค์ต้องการจากบ่าวของพระองค์ คือการแสดงออกถึงความยำเกรงต่อพระองค์ ขอคุณต่อพระองค์ ตออัตต่อพระองค์ ด้วยการอิบาดัรต่อพระองค์ และการแสดงออกนั้น ต้องมาจากรากฐานแห่งการศรัทธาที่แน่วแน่ต่อพระองค์ ดังนั้น หากเราถูกถามว่า ใครคือคนที่เรารักมากที่สุด ถ้ามองคนที่ใกล้ตัว อาจเป็นพ่อ แม่ ลูก ภรรยา สามี หรือ พี่น้อง ญาติ ของเรา แต่เหนือยิ่งกว่านั้น เราต้องรักในพระองค์ เพราะพระองค์ นั้น รักมนุษย์ทุกคน โดยสิ่งที่จะมาแลกเปลี่ยนด้วยความรักต่อพระองค์นั้น หาใช่สิ่งอื่นใดไม่ นั่นคือการตักว่ายำเกรงต่อพระองค์ วันนี้ราแสดงออกถึงความรักของเราที่มีต่อพระองค์แล้วหรือยัง


إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (http://www.beconvinced.com/

วันสุข หรือวันศุกร์ ?

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 21 ซอฟัร 1431 (วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
วันสุข หรือ วันศุกร์ ?

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
เราท่านทั้งหลายท่านมุ่งแสวงหาความโปรดปราณจากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ด้วยกันทั้งสิ้น ขอให้กระผมและท่านทั้งหลายจงยำเกรงต่อพระองค์ให้มากที่สุด เพราะสำหรับพระองค์นั้น คือสิ่งปรารถนาที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนมุ่งมั่นใฝ่หา แต่อีกหลายๆ คนกลับคิดไปอีกด้านหนึ่งแล้วเขาเหล่านั้นจะมีที่ไปอย่างไร ขอให้พวกเราจงยึดมั่นแนวทางอันเที่ยงตรงของพระองค์ แนวทางที่พระองค์ทรงรัก ทรงให้อภัย ทรงโปรดปราณและทรงชี้แนะในสิ่งที่ดีงาม
ท่านทั้งหลาย
ความสุขของมนุษย์ คืออะไร หลายๆ ท่านต่างมุ่งหน้าเพื่อแสวงหาความสุข ซึ่งความสุขของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ความสุขของคนยากจน คือเวลาที่เขาได้ทรัพย์สิน หรืออาหารอันโอชะ ความสุขของคนร่ำรวย คือเวลาที่พวกเขาได้รับทรัพย์สินงอกเงยขึ้นตามความปรารถนาของพวกเขา ความสุขของประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ก็คือเวลาที่เขาจะได้บริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์อันเกิดจากหยาดเหงื่อแรงงานของพวกเขา ความสุขของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับว่าเวลาใดที่เขาจะแสวงหาซึ่งความสุข ซึ่งความสุขของคนทำงานโดยทั่วไปคือวันสุดท้ายของการทำงานในรอบสัปดาห์ จะเห็นว่าเวลาแห่งความสุขของแต่ละคน เป็นเวลาที่เขาเหล่านั้นจะแสดงออกถึงกิริยาอาการที่บ่งบอกถึงการยกเอาความทุกข์จากการเหนื่อยหล้าจากการทำงานออกไป ให้เหลือเพียงความสุขที่เข้ามาแทน หลายๆ คนต่างพากันเฉลิมฉลองกันในวันแห่งความสุขนั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า เขาเหล่านั้นแสดงออกให้เห็นถึงการเฉลิมฉลองในวันแห่งความสุขนั้น โดยมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจอยากพักผ่อนปรับอิริยาบถของเขา บางคนพักผ่อนโดยการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ บางคนอาจชอบความสนุกสนานสำราญกับการกินดื่มกับเพื่อนฝูงมากมาย ดังนั้น ความสุขที่ทุกคนต่างแสวงหานั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สำหรับบรรดามุสลิมทั้งหลายแล้ว วันแห่งความสุขในรอบสัปดาห์ของเรา คือ วันศุกร์ ซึ่งจะเริ่มเข้าเวลาของวันศุกร์ คือ เวลามัฆริบของย่ำค่ำของวันพฤหัสบดี จนกระทั่งหมดเวลาอัสริในวันศุกร์ กิจวัตรของมุสลิมในวันศูกร์ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบรรดาประชาชนทั้งหลาย เพราะการแสวงหาซึ่งความสุขของพี่น้องมุสลิม นั่นคือการมุ่งแสวงหาความโปรดปราณจากพระองค์ เป็นความโปรดปราณที่มุ่งหน้าสู่พระองค์ ทั้งการทำอิบาดัรทั้งซิเกร การอ่านอัลกุรอ่าน การขอดุอาร์ต่อพระองค์ ตลอดจนการบริจาคซ่ากาตในวันศุกร์
ท่านพี่น้องทั้งหลาย
อิบาดัรที่สำคัญยิ่งในวันศุกร์ นั่นคือ การละหมาดวันศุกร์ การฟังอัลคุตบะห์ ที่อิหม่ามและคอเต็บแต่ละมัสยิดจะหยิบยกประเด็นมาทบทวน ชี้นำ ชี้แนะให้กับท่านทั้งหลายให้อยู่ในแนวทางแห่งอัลอิสลาม และยำเกรงต่อพระองค์ ไม่มีใครที่จะอยู่ยั้งยืนยงได้ตลอดหากแต่แต่ละคนนั้น ต้องกลับไปหาพระองค์ทั้งสิ้น มนุษย์อาจต้องการเวลาเพื่อที่เขาทั้งหลายจะได้แสวงหาปัจจัยยังชีพของพวกเขา และครอบครัวของเขา แต่มนุษย์ก็จำเป็นต้องแบ่งเวลาไว้สำหรับการทำอิบาดัรต่อพระองค์ด้วยเช่นกัน แม้นมนุษย์ทั้งหลายต้องการแสวงหาความสุข หาช่วงเวลาแห่งความสุข แต่ช่วเวลาที่ดีสำหรับมนุษย์นั้น คือวันศุกร์ เป็นวันหนึ่งที่พระองค์ทรงรับรองว่า มีเวลาที่ดีที่สุดที่พระองค์ทรงโปรดปราณรับดุอาร์ของเหล่าผู้ศรัทธาทั้งหลาย ดังนั้น จึงขอหยิบยกโองการอัลญุมุอะฮ์ อายะห์ที่ 062.008-011 (Al-Jumua [The Congregation, Friday]) ความว่า

062.008 قُلْ إِنَّ الْمَوْتَ الَّذِي تَفِرُّونَ مِنْهُ فَإِنَّهُ مُلاقِيكُمْ ثُمَّ تُرَدُّونَ إِلَى عَالِمِ الْغَيْبِ وَالشَّهَادَةِ فَيُنَبِّئُكُمْ بِمَا كُنْتُمْ تَعْمَلُونَ
062.008 Say: "The Death from which ye flee will truly overtake you: then will ye be sent back to the Knower of things secret and open: and He will tell you (the truth of) the things that ye did!"
[62.8] จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด แท้จริงความตายที่พวกท่านหนีจากมันไปนั้นมันจะมาพบกับพวกท่าน แล้วพวกท่านจะถูกนำกลับไปยังพระผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผย แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกท่านตามที่พวกท่าน
ได้ประกอบกรรมไว้
062.009 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا إِذَا نُودِيَ لِلصَّلاةِ مِنْ يَوْمِ الْجُمُعَةِ فَاسْعَوْا إِلَى ذِكْرِ اللَّهِ وَذَرُوا الْبَيْعَ ذَلِكُمْ خَيْرٌ لَكُمْ إِنْ كُنْتُمْ تَعْلَمُونَ
062.009 O ye who believe! When the call is proclaimed to prayer on Friday (the Day of Assembly), hasten earnestly to the Remembrance of Allah, and leave off business (and traffic): That is best for you if ye but knew!
[62.9] โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย เมื่อได้มีเสียงร้องเรียก (อะซาน) เพื่อทำละหมาดในวันศุกร์ ก็จงรีบเร่งไปสู่การรำลึกถึงอัลลอฮ์ และจงละทิ้งการค้าขายเสีย นั่นเป็นการดีสำหรับพวกเจ้าหากพวกเจ้ารู้
062.010 فَإِذَا قُضِيَتِ الصَّلاةُ فَانْتَشِرُوا فِي الأرْضِ وَابْتَغُوا مِنْ فَضْلِ اللَّهِ وَاذْكُرُوا اللَّهَ كَثِيرًا لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ
062.010 And when the Prayer is finished, then may ye disperse through the land, and seek of the Bounty of Allah: and celebrate the Praises of Allah often (and without stint): that ye may prosper.
[62.10] ต่อเมื่อการละหมาดได้สิ้นสุดลงแล้วก็จงแยกย้ายกันไปตามแผ่นดินและจงแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮ์ และจงรำลึกถึงอัลลอฮ์ให้มาก ๆ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับชัยชนะ

062.011 وَإِذَا رَأَوْا تِجَارَةً أَوْ لَهْوًا انْفَضُّوا إِلَيْهَا وَتَرَكُوكَ قَائِمًا قُلْ مَا عِنْدَ اللَّهِ خَيْرٌ مِنَ اللَّهْوِ وَمِنَ التِّجَارَةِ وَاللَّهُ خَيْرُ الرَّازِقِينَ
062.011 But when they see some bargain or some amusement, they disperse headlong to it, and leave thee standing. Say: "The (blessing) from the Presence of Allah is better than any amusement or bargain! and Allah is the Best to provide (for all needs)."
[62.11] และเมื่อพวกเขาได้เห็นการค้าและการละเล่นพวกเขาก็กรูกันไปที่นั้นและปล่อยเจ้าให้ยืนอยู่คนเดียว จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด สิ่งที่มีอยู่ ณ อัลลอฮ์นั้นดีกว่าการละเล่นและการค้าและอัลลอฮ์นั้นทรงเป็นเลิศยิ่งในหมู่ผู้
ประทานปัจจัยยังชีพ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอให้กระผมและท่านทั้งหลาย จงแสวงหาความโปรดปราณจากพระองค์ แม้ว่าเราจะไม่ใช่ผู้มีชื่อเสียง เราไม่ใช่ข้าราชการที่มีตำแหน่งใหญ่โต เราไม่ใช่นักการเมืองในรัฐสภาที่มีอิทธิพลต่อการบริหารประเทศ เราไม่ใช่นักบริหารกิจการขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์มากมายมหาศาล เราไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลที่จะบีบบังคับให้ใครกระทำตามอำนาจบาดใหญ่ เราไม่ใช่ผู้นำชุมชนที่มุ่งแสวงหาฐานทางการเมืองของนักการเมือง เราไม่ใช่คู่ขัดแย้งในสังคมที่แสวงหาพวกหรือฐานคะแนนเสียงจัดทั้ง แต่เราเป็นมุสลิม เราเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์ เราปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม เราทำตามกิริยาวัตรอันดีงามของท่านร่อซูรุ้ลลอฮ์ (ซ.ล) เรายึดมั่นคัมภีร์ของพระองค์ที่ประทานให้กับบรรดาร่อรู้ลของพระองค์ พวกเรายึดมั่นและเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องถูกสอบสวนในวันกิยามัต และเราทุกคนเชื่อในกฎสภาวะของพระองค์ แต่ทั้งนี้แล้ว เราต่างมุ่งขอดุอาร์ต่อพระองค์และยอมรับในการทดสอบจากพระองค์ เพราะนั้น คือสุดยอดปรารถนาในความสุขที่มุสลิมทั้งหลายต่างมุ่งมั่นแสวงหา ทุกคนมุ่งที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในวันสุข แต่มุสลิมทุกๆ คน ต่างแสวงหาความโปรดปราณจากพระองค์ให้ได้ซึ่งความสุข จากการแบ่งเวลาที่จะทำอิบาดัรต่อพระองค์และเวลาที่จะมุ่งมั่นทำมาหากิน โดยที่เป็นสิ่งเราต่างมุ่งแสวงหาความโปรดปราณจากพระองค์ อิริยาบทของมุสลิมไม่เพียงใช้เวลาแห่งความสุขไปโดยเปล่าประโยชน์ หากแต่ว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขของมุสลิมนั้น มีพื้นฐานมาจากความศรัทธาต่อพระองค์ และเราใช้เวลาแห่งความสุขนั้น ตามแนวทางของพระองค์





إِنَّ اللَّهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيمًا
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ

อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (http://www.beconvinced.com/

ยอมรับ รับรอง หรือยอมตามชัยตอน?

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 14 ซอฟัร 1431 (วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553)
ยอมรับ รับรอง หรือยอมตามชัยตอน ?

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย

ท่านที่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ชีวิตของเราในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ประสบการณ์ที่มากมาย หลากหลาย รอบด้าน ทั้งประสบการณ์ที่เราพบด้วยตนเองและประสบการณ์จากการเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงคุณค่า ความหมาย และปัจจัยที่เราจะมองเห็นถึงความแตกต่างของสีขาว สีดำ กลางคืน กลางวัน รวมไปถึง ความดีและความชั่ว สัญญาณต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกมา เป็นสิ่งที่จะย้ำเตือนตัวเราให้มองให้เห็นความหมายและความลี้ลับของมัน ขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เพราะในที่สุดแล้ว ทุกๆ คน ย่อมต้องกลับไปหาพระองค์ เพื่อตอบสนองพระบัญชาของพระองค์ ความประสงค์ของพระองค์ และความเมตตาของพระองค์ การเรียนรู้ของมนุษย์ จะศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ เพื่อแสวงหาเหตุผลสนับสนุนความคิด สนับสนุนสมมติฐานที่มนุษย์ได้ตั้งข้อสงสัยไว้ ซึ่งสิ่งที่มนุษย์ตั้งข้อสงสัยไว้นั้น ในบางเรื่องใช้เวลาไม่นานนัก เขาก็จะแสวงหาคำตอบได้โดยไม่ยาก แต่บางเรื่องแล้ว ตลอดชีวิตของมนุษย์ อาจใช้เวลาหลายชั่วชีวิต หรือใช้เวลาตั้งแต่พระองค์สร้างโลกขึ้นมาจนถึงวันอาคิเราะห์ ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงมีความประสงค์ที่จะสร้างมนุษย์มาเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่ตามหลักการแล้ว แน่นอนว่าพระองค์ได้ทรงแจ้งไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน ซูเราะห์อัลบ้ากอเราะห์ อายะห์ที่ 21 ความว่า
002.021 يَا أَيُّهَا النَّاسُ اعْبُدُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُمْ وَالَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
002.021 O ye people! Adore your Guardian-Lord, who created you and those who came before you, that ye may have the chance to learn righteousness;
[2.21] มนุษย์เอ๋ย จงเคารพภักดีพระผู้อภิบาลของสูเจ้า ผู้ทรงบังเกิดสูเจ้าและบรรดาก่อนหน้าสูเจ้า เพื่อสูเจ้าจะ
ได้สำรวมตน จากความชั่ว
นั่นคือจุดมุ่งหมายที่พระองค์ต้องการจากมนุษย์ แต่แน่แท้ว่า มีมนุษย์ ญิน และชัยตอน ไม่ต้องการคำตอบนี้ ต่างตั้งข้อสงสัยในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และทรงห้าม ต่างท้าทายต่อพระองค์ โดยตั้งข้อสังเกตต่อการสร้างมนุษย์ของพระองค์ จนในที่สุดแล้ว ความสงสัยนั้น ทำให้พวกเขาเหล่านั้นแสวงหาในสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ต่อหนทางที่พระองค์ทรงรักและในสิ่งที่พระองค์ให้การรับรอง ตามโองการที่พระองค์ทรงให้ไว้ในซูเราะห์อัลกะฟุ์ อายะห์ที่ 30 ความว่า
018.030 إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ إِنَّا لا نُضِيعُ أَجْرَ مَنْ أَحْسَنَ عَمَلا
018.030 As to those who believe and work righteousness, verily We shall not suffer to perish the reward of any who do a (single) righteous deed.
[18.30] แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย เราจะไม่ให้การตอบแทนของผู้กระทำความดีสูญหาย
อย่างแน่นอน
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอให้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายจงห่างไกลจากความชั่วร้ายเหล่านั้น ความมืดบอดที่บิดเบือนพวกเราให้ออกห่างไกลจากแนวทางของพระองค์ แนวทางที่ชัยตอนมารร้ายคอยให้คำยุแหย่ แม้แต่ในขณะที่เรากำลังทำอิบาดัรที่ใกล้ชิดกับพระองค์มากที่สุด ด้วยความสงสัย ความรุนงง และแสดงออกถึงความไม่แน่นอน ความผิดพลาด และความเสียหายในที่สุด หลายๆ กิริยาบทของเราถูกกระตุ้นเตือนจากมารร้าย ให้เห็นถึงสภาพและความท้อแท้ ความผิดหวัง ความล้มเหลว ที่เราต้องยอมรับ หรือรับรองความปราชัยเหล่านั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใด มนุษย์ลูกหลานของอาดัม ยังต้องถูกทดสอบจากพระองค์ด้วยเสียงกระซิบจากชัยตอน ในทุกที่ ทุกเวลา รวมไปถึงขณะที่เรากำลังใกล้ชิดกับพระองค์ เสียงกระซิบเหล่านั้น จะติดตราตรึงในหัวใจของเรา จนเราขาดกุชั้ว ขาดซึ่งจิตใจที่ตั้งมั่นมั่นคงอยู่กับอิบาดัรที่เรากำลังกระทำเพื่อพระองค์ จิตใจที่ล่องลอยเคว้งคว้างไปกับการกระตุ้นจากเสียงกระซิบของชัยตอน ทำให้เราออกห่างไกลไปจากพระองค์ อิริยาบถขณะนั้น ถูกกระทำไปโดยที่เป็นความเคยชิน กระทำไปอย่างไม่มีจิมุ่งตรงต่อพระองค์ ขณะที่เราแสดงออกถึงท่าทางของการละหมาด ปากของเราก็อ่านไป แต่ใจของเราว้าวุ่น บางครั้งหลงลืมไปว่ากำลังทำละหมาดอยู่ นั่นจะเห็นได้ว่า ละหมาดของเราที่ใจล่องลอยอยู่อย่างนั้น เราต้องคำเยินยอของชัยตอน หลงทางไปกับการล่อลวงของมัน ดังนั้น เราจึงต้องมีจิตที่มุ่งตรงต่อพระองค์ เวลาของการละหมาดเป็นเวลาที่เราได้ใกล้ชิดกับพระองค์ จงใช้เวลาขณะนั้นให้ดีที่สุด
การล่อลวงของชัยตอน ประหนึ่งว่า เป็นการขอดุอาร์ของญิบลีสที่ล่อลวงท่านนบีอาดัม และนางฮาวอ เพื่อให้ละเมิดต่อคำสั่งของพระองค์ ญิบลีสมีแนวความคิดที่มองว่าการกำเนิดของอาดัม เป็นการกำเนิดที่ต่ำต้อยด้อยค่ากว่าการกำเนิดของมัน ซี่งกำเนิดมาจากไฟ ดังนั้นการที่พระองค์จะทรงให้เหล่าบรรดามาลาอิกะห์ทำความเคารพต่ออาดัมที่เกิดมาจากดิน นั้น หาได้ไม่ ดังนั้น เมื่อมันจะถูกลงโทษจากพระองค์แล้ว มันจึงขอดุอาร์จากพระองค์ และเป็นดุอาร์ที่พระองค์ทรงยอมรับ นั่นคือ มันขอต่อพระองค์ว่า ขอประวิงเวลาที่มันจะถูกลงโทษจากพระองค์ และมันก็จะนำพาลูกหลานของอาดัมไปพร้อมๆ กับมันในวันกิยามัต เพื่อรับการลงโทษจากพระองค์ ซึ่งดุอาร์ที่ญิบลีสขอต่อพระองค์ เป็นดุอาร์ที่พระองค์ทรงยอมรับ และนั่นจึงเป็นสื่งที่พระองค์จึงทรงใช้ให้มนุษย์ลูกหลานของอาดัม จึงต้องยึดมั่นศรัทธาต่อแนวทางที่ม่านศาสดาทั้งหลาย ชี้นำ เป็นแนวทางที่เที่ยงตรงในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และทรงห้าม หาใช่แนวทางที่พระองค์ทรงกริ้วโกรธหรือแนวทางของกลุ่มของพวกที่หลงผิด เช่นเดียวกับญิบลีสและเหล่าสมุนของชัยตอน และนั่นแม้ว่าพระองค์จะทรงรับคำขอของญิบลีสในสิ่งที่มันพึงปรารถนา หากแต่ว่า คนที่ตามญิบลีสไปตามสิ่งมันกระซิบกระซาบนั้น แท้จริงแล้ว เขาเหล่านั้นไปด้วยตัวของพวกเขาเอง มิใช่สิ่งที่ญิบลีสแนะนำ นั่นเป็นสิ่งที่เราทั้งหลายต้องให้ความสำคัญ ขอยกอัลกุรอ่านโองการอัลกะฟ์ ความว่า

018.055 وَمَا مَنَعَ النَّاسَ أَنْ يُؤْمِنُوا إِذْ جَاءَهُمُ الْهُدَى وَيَسْتَغْفِرُوا رَبَّهُمْ إِلا أَنْ تَأْتِيَهُمْ سُنَّةُ الأوَّلِينَ أَوْ يَأْتِيَهُمُ الْعَذَابُ قُبُلا
018.055 And what is there to keep back men from believing, now that Guidance has come to them, nor from praying for forgiveness from their Lord, but that (they ask that) the ways of the ancients be repeated with them, or the Wrath be brought to them face to face?
[18.55] และไม่มีสิ่งใดที่จะยับยั้งมนุษย์ จากการศรัทธา เมื่อแนวทางที่ถูกต้องได้มายังพวกเขา และการขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกเขา เว้นแต่จะให้แบบอย่างแต่เก่าก่อน (การลงโทษ) มายังพวกเขาหรือจะให้การลงโทษ
มายังพวกเขาต่อหน้าต่อตา
ท่านพี่น้องผูศรัทธาทั้งหลาย
การรับรอง การยอมรับ และการรับเป็นพวกเดียวกันนั้น การที่เราจะประทับรับรองการกระทำของผู้ใดนั้น เราต้องมั่นใจในสิ่งที่เราจะกระทำตาม เช่นกัน บรรดาคำสอนของท่านศาสดาเป็นแนวทางที่พระองทรงรับรอง ขณะที่การกระทำของญิบลีสหัวหน้าชัยตอน เป็นการกระทำที่พระองค์ทรงกริ้วโกรธและจะลงโทษ ดังนั้น การที่เราจะกระทำสิ่งใดก็จงมั่นใจว่าสิ่งต่างๆที่เรากระทำไปนั้น เป็นสิ่งที่อยู่ในแนวทางที่พระองค์ทรงยอมรับ มิใช่แนวทางของกลุ่มผู้หลงผิด ขอให้ทุกๆ ท่าน จงอยู่ในแนวทางในพระเมตตาของพระองค์


إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ
อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย : ออนไลน์ โดยคุณลาภลอย วานิชอังกูร
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (http://www.beconvinced.com/

เฮติ สัญญาณเตือน วันที่รอคอย

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 7 ซอฟัร 1431 (วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553)
เฮติ สัญญาณเตือน วันที่รอคอย

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ ที่ประเมศเฮติ ผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากมายมหาศาล บ้านเรือนพังพินาศวอดวาย รวมถึงทำเนียบประธานาธิบดี แม้จะเสียหายไม่มากนักแต่ผลแห่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ คนทั้งหลายต่างต้องมาคิดร่วมกันว่า สัญญาณเตือนภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นจะสามารถช่วยป้องกันภยันตรายดังกล่าวได้มากน้อยเพียงใด และสัญญาณเตือนภัยจะสามารถปกป้องความเสียหายดังกล่าวได้หรือไม่ คุตบะห์วันนี้จึงขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระองค์ ว่า ในวันหนึ่งข้างหน้าเหตุการณ์แห่งวันกิยามัต วันที่ทุกๆ คนรอคอย กำลังคืบคลานใกล้เข้ามาแล้ว เหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น เป็นส่วนหนึ่งแห่งสัญญาณที่พระองค์ได้ให้สิ่งเหล่านั้นมาย้ำเตือนมนุษย์ เพื่อให้เห็นและได้ประจักษ์ด้วยตาตนเองว่า ความวิบัติเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น มันน้อยเสียเหลือเกินหากเราต้องเผชิญกับมันในวันกิยามัตนั้น จากอัลกุรอ่าน โองการอัลกอริอะฮ์ ความว่า
101.001 الْقَارِعَةُ
101.001 The (Day) of Noise and Clamour:
[101.1] อัลกอริอะฮ์
101.002 مَا الْقَارِعَةُ
101.002 What is the (Day) of Noise and Clamour?
[101.2] อัลกอริอะฮ์นั้นคืออะไร?
101.003 وَمَا أَدْرَاكَ مَا الْقَارِعَةُ
101.003 And what will explain to thee what the (Day) of Noise and Clamour is?
[101.3] และอะไรที่ทำให้เจ้าได้รู้ว่าอัลกอริอะฮ์ นั้นคืออะไร?
101.004 يَوْمَ يَكُونُ النَّاسُ كَالْفَرَاشِ الْمَبْثُوثِ
101.004 (It is) a Day whereon men will be like moths scattered about,
[101.4] วันที่มนุษย์จะเป็นเช่นแมลงเม่าที่กระจายว่อน

101.005 وَتَكُونُ الْجِبَالُ كَالْعِهْنِ الْمَنْفُوشِ
101.005 And the mountains will be like carded wool.
[101.5] และบรรดาภูเขาจะเป็นเช่นขนสัตว์ที่ปลิวว่อน
นั่นแสดงให้เห็นถึงสภาพความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในวันที่พระองค์ทรงให้สัญญาณไว้ แต่ไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์วันกิยามัตจะเกิดขึ้นเมื่อใด หากพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่เฮติ เราจะพบว่า ไม่สามารถเตือนภัยล่วงหน้าได้ และนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถพยากรณ์ได้เช่นกันว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นที่ใดเมื่อไหร่ แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้แต่บอกเพียงว่า จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่สามารถระบุได้อย่างเด่นชัดได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ใดบ้าง ซึ่งไม่สามารถหาความสัมพันธ์ในเชิงคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์ได้ แม้จะมีเครื่องมือที่มีความละเอียดสูงในการจำแนกสัญญาณการสั่นสะเทือนที่แม่นยำก็ตาม ดังนั้น เราจึงพึงสังวรว่า เหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งนับวันเราจะพบได้บ่อยขึ้น และความเสียหายที่รุนแรงมากขึ้นทุกๆ วัน ชี้ให้เห็นได้ว่า วันที่ทุกคนรอคอยกำลังคืบคลานมาในไม่ช้านี้ แม้ชาวตะวันตกจพยายามสมมุติเหตุการณ์สร้างแบบจำลอง (Model) ว่า จะเกิดขึ้นในปี2012 ซึ่งไม่มีใครให้คำรับรองว่า จะเป็นจริงจังแค่ไหนอย่างไร
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้ว ทั้งหลาย
จงย้ำเตือนตนเอง คนรอบข้าง จงยึดมั่นต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ผู้ทรงเมตตา ปราณีเสมอ ตรวจสอบตนเองและผู้เกี่ยวข้องของเรา ในอามั้ลที่เราทำอยู่ ความเชื่อความศรัทธาต่อพระองค์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะสามารถช่วยให้เราลดความเกรงกลัวต่อความพินาศในวันกิยามัตได้ เพราะความเชื่อหนึ่งของมุสลิมตามหลักความศรัทธาทั้ง 6 ประการ นั่นคือ การศรัทธาต่อวันอาคิเราะห์ วันกิยามัตและวันสิ้นโลก เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ พระองค์ไม่ทรงให้มุสลิมเกรงกลัว แต่ให้พึงสังวรว่า เราต้องกลับไปยังพระองค์ และการกลับไปหาพระองค์นั้น เราต้องเก็บเกี่ยวสิ่งใดไปบ้าง ขึ้นอยู่กับเรามีการเตรียมพร้อมอย่างไร สุดท้ายนี้ขอฝากโองการจากซูเราะห์อัลซัลซะละฮ์ ความว่า
099.007 فَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًا يَرَهُ
099.007 Then shall anyone who has done an atom's weight of good, see it!
[99.7] ดังนั้นผู้ใดกระทำความดีหนักเท่าละอองธุลี เขาก็จะเห็นมัน
099.008 وَمَنْ يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ شَرًّا يَرَهُ
099.008 And anyone who has done an atom's weight of evil, shall see it.
[99.8] ส่วนผู้ใดกระทำความชั่วหนักเท่าละอองธุลี เขาก็จะเห็นมัน
Al-Qur'an, 099.007-008 (Az-Zalzala [The Earthquake])
ดังนั้น ขอให้เราจงยึดมั่นและปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม นั่นจะทำให้ เราได้พบกับชัยชนะ โดยที่เราจะไม่เกรงกลัวกับสิ่งที่จะได้พบเห็น เพราะเมื่อถึงวันแห่งเหตุการณ์เลวร้ายดังเช่นที่เกิดขึ้นที่เฮติ นั่นเป็นสัญญาณที่พระองค์ทรงสื่อสารให้มวลมนุษย์ได้ประจักษ์และหมั่นทบทวนตนเอง ถึงความเชื่อความศรัทธาและแนวทางปฏิบัติของพวกเขาเหลานั่น ยังอยู่ในแนวทางที่เที่ยงตรงของพระองค์มากหรือน้อยเพียงใด


إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ
อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย : ออนไลน์ โดยคุณลาภลอย วานิชอังกูร
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (http://www.beconvinced.com/

อิบาดัรเพื่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) คือหัวใจของผู้ศรัทธา

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 29 มุฮัรรอม 1431 (วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553)
อิบาดัรเพื่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) คือหัวใจของผู้ศรัทธา

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เราต้องมาตรวจสอบภารกิจของเราเสียก่อนว่าเรามีความบกพร่องในเรื่องใดบ้าง ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางโลกการแสวงหาปัจจัยยังชีพ ครอบครัว เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่แห่งความเป็นมุสลิม กระผมของตักเตือนตนเอง ท่านทั้งหลายในที่นี้ จงยึดมั่นศรัทธาต่อพระองค์ เกรงกลัวต่อพระองค์ ประหนึ่งว่าเราจะกลับไปยังพระองค์ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นอามั้ลที่เราต่างมุ่งกระทำเพื่อพระองค์นั้น จะต้องไม่บกพร่อง หมั่นตรวจสอบอยู่อย่างสม่ำเสมอว่าความบกพร่องนั้นเกิดจากสาเหตุใด และเราจะแก้ไขเหตุนั้นๆ ได้หรือไม่ อย่างไร ใช้เวลาเท่าใดในการแก้ไขความบกพร่องนั้น และสามารถที่จะไม่ไปกระทำ หรือลดการกระทำดังกล่าวนั้นได้หรือไม่ เพราะมันจะเป็นประจักษ์พยานของเราในวันแห่งการตัดสิน ของพระองค์ ดังนั้น จงยำเกรงต่อพระองค์ ขจัดสิ่งที่จะทำให้เกิดความบกพร่องเหล่านั้นให้หมดไป หรือเหลือน้อยที่สุดให้จงได้ นั่นจะเป็นสิ่งบ่งบอกให้เราทราบได้ว่าเราจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มใดในวันที่เราต้องไปพบกับพระองค์
ท่านทั้งหลาย
ในแต่ละวันที่ผ่านพ้นไป เราเคยหวนคิดกันบ้างหรือไม่ว่าเราได้ใช้ปัจจัยต่างๆ ไปกี่มากน้อยแล้ว ในแต่ละวินาที เราต้องใช้อากาศหายใจเข้าสู่ปอด เพื่อไปฟอกเลือดให้เกิดความสะอาด เพื่อการประคองชีพให้สามารถประกอบกิจกรรมต่างๆ ได้ต่อไปโดยไม่บกพร่อง แล้วเราก็คายก๊าซเสียออกจากร่างกายเข้าสู่บรรยากาศ ก๊าซที่เราหายใจออกมา เมื่อกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ มันจะหมุนเวียนกลายสภาพเป็นสสารที่มีสถานะต่างๆ กันตามวัฏจักรและกลไกที่พระองค์ทรงกำหนด เพื่อทำให้เกิดสภาวะสมดุล เพี่อยังชีพ และอำนวยประโยชน์ให้กับมวลมนุษย์ ตามโองการในซูเราะห์อัลบ้ากอเราะห์ ความว่า
002.022 الَّذِي جَعَلَ لَكُمُ الأرْضَ فِرَاشًا وَالسَّمَاءَ بِنَاءً وَأَنْزَلَ مِنَ السَّمَاءِ مَاءً فَأَخْرَجَ بِهِ مِنَ الثَّمَرَاتِ رِزْقًا لَكُمْ فَلا تَجْعَلُوا لِلَّهِ أَنْدَادًا وَأَنْتُمْ تَعْلَمُونَ
002.022 Who has made the earth your couch, and the heavens your canopy; and sent down rain from the heavens; and brought forth therewith Fruits for your sustenance; then set not up rivals unto Allah when ye know (the truth).
[2.22] ผู้ทรงทำแผ่นดิน ให้เป็นพื้นสำหรับสูเจ้า และชั้นฟ้าเป็นหลังคาและทรงส่งน้ำมาจากฟากฟ้า และทรง
ให้ผลไม้ต่าง ๆ งอกเงยออกมา เพราะเหตุนั้น เพื่อเป็นเครื่องยังชีพสำหรับสูเจ้า ดังนั้นเมื่อสูเจ้ารู้ดีอยู่แล้ว ก็จงอย่า
ตั้งสิ่งใดเคียงคู่กับอัลลอฮ์
และอีกโองการหนึ่งในซูเราะห์อันนะห์ลฺ ความว่า
016.014 وَهُوَ الَّذِي سَخَّرَ الْبَحْرَ لِتَأْكُلُوا مِنْهُ لَحْمًا طَرِيًّا وَتَسْتَخْرِجُوا مِنْهُ حِلْيَةً تَلْبَسُونَهَا وَتَرَى الْفُلْكَ مَوَاخِرَ فِيهِ وَلِتَبْتَغُوا مِنْ فَضْلِهِ وَلَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ
016.014 It is He Who has made the sea subject, that ye may eat thereof flesh that is fresh and tender, and that ye may extract therefrom ornaments to wear; and thou seest the ships therein that plough the waves, that ye may seek (thus) of the bounty of Allah and that ye may be grateful.
[16.14] และพระองค์คือผู้ทรงทำให้ทะเลเป็นประโยชน์ เพื่อพวกเจ้าจะได้กินเนื้อนุ่มสดจากมัน และพวกเจ้าเอา
เครื่องประดับออกจากมัน สำหรับใช้ประดับราคา และเจ้าเห็นเรือแล่นฝ่าคลื่นในท้องทะเล และเพื่อพวกเจ้าจะ
ได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบคุณ

จะเห็นได้ว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นความโปรดปราณจากพระองค์ ที่ทำให้เกิดความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ความอยู่ดีมีสุขของพวกเรา ความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายเหล่านี้ ทำให้การดำรงชีพของมนุษย์มีความแตกต่างจากสัตว์อย่างสิ้นเชิง หากเปรียบกับตัวมนุษย์แต่ละคนที่ได้รับความสะดวกสบาย การที่ใครก็ตามมาอำนวยความสะดวกให้กับเราแล้ว ตามมารยาท แล้ว เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะแสดงออกให้เขาเห็นถึงความมีน้ำใจที่ดีต่อกัน การแสดงออกถึงความขอบคุณ ความปีติ ยินดี ปรีดา ต่อสิ่งที่เขาได้เอื้ออำนวยให้กับเรา นั่นคือสิ่งเราแสดงออกต่อเพื่อนมนุษย์ของเรา แต่สำหรับพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) แล้ว สิ่งที่เราได้รับจากพระองค์มีคุณค่ามหาศาลมากเกินคำบรรยาย แต่มนุษย์โดยส่วนใหญ่ ต่างมองข้าม มนุษย์มักจะคิดถึงการแสวงหาปัจจัยต่างๆ การที่ใครก็ตามที่ได้เอื้ออำนวยให้กับเรา ความสะดวกสบายที่เกิดขึ้น ทำให้มนุษย์ต่างมองถึงคุณค่าเฉพาะหน้า หรือสิ่งที่มองเห็น แต่สำหรับพระองค์แล้ว เป็นสิ่งที่เรามองข้าม จากโองการอัลบ้ากอเราะห์ อีกโองการหนึ่ง ความว่า

002.021 يَا أَيُّهَا النَّاسُ اعْبُدُوا رَبَّكُمُ الَّذِي خَلَقَكُمْ وَالَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ
002.021 O ye people! Adore your Guardian-Lord, who created you and those who came before you, that ye may have the chance to learn righteousness;
[2.21] มนุษย์เอ๋ย จงเคารพภักดีพระผู้อภิบาลของสูเจ้า ผู้ทรงบังเกิดสูเจ้าและบรรดาก่อนหน้าสูเจ้า เพื่อสูเจ้าจะ
ได้สำรวมตน จากความชั่ว
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
การแสดงออกถึงความขอบคุณต่อเพื่อนมนุษย์ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงมารยาททางสังคม เป็นทางออกสำหรับมนุษย์ที่มีต่อกัน ที่จะแสดงให้เห็นถึงคุณค่าความดีงามและความเป็นสัตว์สังคมของมวลมนุษยชาติ แต่การแสดงออกให้เห็นถึงความขอบคุณ (ซูกูร) ต่อพระองค์นั้น การแสดงออกเพียงคำพูด หรือเพียงคิดในใจ ก็เป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา แต่บทบาทหรือการกระทำที่เป็นที่ต้องการจากพระองค์ คือการแสดงออกตามที่พระองค์ทรงใช้และทรงห้าม นั่นคือการทำอิบาดัรต่อพระองค์ เป็นอิบาดัรที่ย้ำเตือนหรือแสดงออกให้เห็นถึงคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ ซึ่งแบบฉบับที่ท่านศาสดาได้ทรงวางแนวทางไว้สำหรับมวลมุสลิม นั่นคืออิบาดัรด้วยการปฏิญานตนถึงความเป็นมุสลิมที่ศรัทธาต่อพระองค์ และแนวทางของท่านศาสดา การละหมาด การออกซากาต การถือศีลอด และหัจญ์ เหล่านี้เป็นอิบาดัรที่บ่งบอกถึงการแสดงความขอบคุณต่อพระองค์ นอกจากนี้แล้ว การได้สำรวมตนไม่กระทำผิด ทำชั่ว ทั้งบาปเล็กและบาปใหญ่ เหล่านี้ล้วนเป็นแนวทางที่พระองค์ทรงวางไว้สำหรับมวลมนุษย์ทั้งหลาย ดังนั้น ขอให้เราจงระวังและวางตนให้อยู่ในกลุ่มของคนที่มีความยำเกรงต่อพระองค์ และยึดมั่นแนวทางนี้ตลอดไป
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
มารยาทที่ดี คืออิบาดัรอันหนึ่งที่เราต้องไม่มองข้าม นอกจากเราจะแสดงออกในขณะละหมาด และในการทำอิบาดัรต่อพระองค์แล้ว มารยาทที่ดีที่มีต่อเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมอาชีพ เพื่อร่วมทาง เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการทำอิบาดัร เราต้องไม่บกพร่องต่อหน้าที่สำคัญสำหรับเรา และพวกเขาเหล่านั้น ดังนั้น แม้ว่าความต้องการของมนุษย์มีมากเกินกว่าปัจจัยทั้งหลายตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว ทุกๆ คนต่างแสวงหาสิ่งเหล่านั้นเพื่อบรรลุความต้องการของตน แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องมองคนรอบข้างด้วย เพราะเขาและเราก็มีความต้องการที่ไม่แตกต่างกัน อาจมีเท่ากันหรือมากกว่าหรือน้อยกว่า แต่สำหรับทุกคนแล้ว ล้วนแต่มีความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่สิ่งที่จะทำให้คนรอบข้างมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน นั่นคือ การแสดงออกด้วยมารยาทที่ดีงามต่อกัน นั่นคือสิ่งที่เป็นความงามและสิ่งที่แสดงออกถึงมารยาทที่ดีต่อกัน ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันทำให้แต่ละคนจะมีมุมมองที่ดีต่อกัน ดังนั้น ขอให้เราทุกคนจงมองคุณค่าในสิ่งที่แสดงออกระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกันด้วย เพราะเป็นการรักษาคุณค่าความดี ต่อกันและกัน และถือเป็นอิบาดัรที่สำคัญอันหนึ่งเพื่อพระองค์
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ขอย้ำเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย ด้วยฮาดีซ ซึ่งรายงานโดยอ้าบูหุรอยเราะห์ ความว่า
I heard Allah's Apostle saying, "The heart of an old man remains young in two respects, i.e., his love for the world (its wealth, amusements and luxuries) and his incessant hope." Roport By: Abu Huraira
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ความต้องการของมนุษย์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด หากเราหยุดยั้งความต้องการที่ไม่สิ้นสุดนั้นได้ มันเป็นการแสดงออกถึงอิบาดัรที่ดีงามของมวลมนุษย์ ซึ่งแต่ละคนต่างมุ่งหวังในความร่ำรวย ทรัพย์สิน เกียรติยศ ชื่อเสียง แต่ขณะเดียวกัน ต้องไม่มองข้ามและต้องแสดงออกถึงการขอบคุณต่อพระองค์ การกระทำทั้งหลายของมนุษย์ ต้องแสดงออกถึงความของคุณ ความยำเกรง และความยึดมั่นศรัทธา ด้วยการแสดงออกทั้งทางด้าน คำพูด การกระทำ และจิตใจ ดังนั้น เมื่อเราได้ในสิ่งที่เราต้องการ ความเพียงพอ ความรู้ตน และการแสดงออกถึงมารยาทที่ดี นั่นคือจุดมุ่งหมายและความต้องการที่จำเป็นสำหรับตัวเราเองแล้ว การแสดงออกถึงความขอบคุณ การกระทำอิบาดัรต่อพระองค์ เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงโปรดปราณเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ขอให้เราจงย้ำเตือนตนเองอยู่อย่างเสมอว่าเรานั้นบกพร่องในเรื่องต่างๆ เหลานี้หรือไม่ เพราะนั่นคือ คุณค่าแห่งความเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์

إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ
رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُونَ
وَسَلامٌ عَلَى الْمُرْسَلِينَ
وَالْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ
อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย : ออนไลน์ โดยคุณลาภลอย วานิชอังกูร
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (http://www.beconvinced.com/

คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 22 มุฮัรรอม 1431 (วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553 )

คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม

الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
ความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทและหน้าที่ของผู้ใหญ่ ที่มีต่อเด็กๆ และเยาวชนในปกครอง การแสดงออกต่อพวกเขาเหล่านั้น จะเป็นสิ่งที่เขาเหล่านั้นจะแสดงบทบาทออกมาในอนาคต ความภาคภูมิใจของเราที่มีต่อความสำเร็จของเขา รอยยิ้มแห่งความยินดีเหล่านั้น จะบ่งบอกถึงความสุขในใจ ความสุขที่มีคุณค่า ที่มีค่ามากมายมหาศาล ขณะเดียวกันความล้มเหลวในชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น ก็เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองต่างหยิบยื่นให้กับเขาในวันนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องมาฉุกคิดกันในวันนี้ว่า เราได้ให้สิ่งที่มีคุณค่าอื่นนอกจากปัจจัยทางด้านวัตถุให้แก่พวกเขาเพียงพอแล้วหรือยัง
ดังนั้น กระผมจึงขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงยำเกรงต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ยำเกรงว่าวันหนึ่งเราต้องกลับไปหาพระองค์ เพื่อแสดงออกถึงภารกิจต่างๆ ที่เราได้กระทำไปในขณะที่มีชีวิตอยู่ เรื่องหนึ่งที่เป็นการสอบสวนของพระองค์ ก็คือ เราได้ให้ความรัก ความปรารถนาดีต่อลูกๆ ผู้ที่อยู่ใต้การปกครองของเราอย่างไร เขาเหล่านั้น อยู่ในโอวาทของพวกท่านหรือไม่ และท่านได้สอนเรื่องใดบ้างให้กับพวกเขา เพื่อที่พวกเขาเหล่านั้น จะได้เป็นผู้ศรัทธาและเป็นหนึ่งในผู้ใกล้ชิดกับพระองค์ในวันแห่งการตัดสินของพระองค์
เด็กๆ คืออนาคต เป็นสัจธรรม ที่หลายฝ่ายจะต้องให้ความสำคัญ ความเอาใจใส่ การดูแลพวกเขาเหล่านั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องหมั่นดูแลให้ความสำคัญในสิ่งที่จะป้อนข้อมูลให้กับเขา หากเปรียบเด็กเหล่านั้นเป็นสิ่งของ ที่ผู้ใหญ่จะป้อนข้อมูลใดๆ ให้กับเขาแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบก่อนว่า ข้อมูลใดๆ ที่จะให้กับเขานั้น เป็นข้อมูลที่บริสุทธิ์ ไม่มีพิษภัย และเป็นข้อมูลที่เราสามารถควบคุมผลกระทบที่จะมีมาได้ เช่นกัน ในปัจจุบันสังคมรอบข้างเรา เป็นสังคมที่มีสิ่งเจือปนที่เป็นพิษอยู่มากมาย หน้าที่ของผู้ปกครองจำเป็นอย่างยิ่งที่จะกลั่นกรองเรื่องต่างๆให้กับพวกเขา วัยของเด็กๆ เป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น วัยรุ่น เป็นวัยที่เขาเหล่านั้น อยากลอง และวันที่เขาเป็นนักศึกษาระดับอุดมศึกษา เป็นวัยที่พวกเขามีมุมมองเป็นของตัวเอง ผู้ปกครองของพวกเขาเหล่านั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะดูแลพวกเขาตามวัย และความคิดของพวกเขาให้ทัน การเลี้ยงดูเด็กเหล่านั้น แนวทางแห่งอัลกุรอ่าน โองการซูเราะห์ ลุกมาน ความว่า

وَإِذْ قَالَ لُقْمَانُ لابْنِهِ وَهُوَ يَعِظُهُ يَا بُنَيَّ لا تُشْرِكْ بِاللَّهِ إِنَّ الشِّرْكَ لَظُلْمٌ عَظِيمٌ
031.013 Behold, Luqman said to his son by way of instruction: "O my son! join not in worship (others) with Allah: for false worship is indeed the highest wrong-doing."
[31.13] และจงรำลึกเมื่อลุกมานได้กล่าวแก่บุตรของเขา โดยสั่งสอนเขาว่าโอ้ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าได้ตั้งภาคีใด ๆ
ต่ออัลลอฮ์ เพราะแท้จริงการตั้งภาคีนั้นเป็นความผิดอย่างมหันต์ โดยแน่นอน

وَوَصَّيْنَا الإنْسَانَ بِوَالِدَيْهِ حَمَلَتْهُ أُمُّهُ وَهْنًا عَلَى وَهْنٍ وَفِصَالُهُ فِي عَامَيْنِ أَنِ اشْكُرْ لِي وَلِوَالِدَيْكَ إِلَيَّ الْمَصِيرُ
031.014 And We have enjoined on man (to be good) to his parents: in travail upon travail did his mother bear him, and in years twain was his weaning: (hear the command), "Show gratitude to Me and to thy parents: to Me is (thy final) Goal.
[31.14] และเราได้สั่งการแก่มนุษย์เกี่ยวกับบิดา มารดาของเขา โดยที่มารดาของเขาได้อุ้มครรภ์เขาอ่อนเพลียลงครั้งแล้วครั้งเล่า และการหย่านมของเขาในระยะเวลาสองปี เจ้าจงขอบคุณข้า และบิดามารดาของเจ้ายังเรานั้น คือการกลับไป

وَإِنْ جَاهَدَاكَ عَلى أَنْ تُشْرِكَ بِي مَا لَيْسَ لَكَ بِهِ عِلْمٌ فَلا تُطِعْهُمَا وَصَاحِبْهُمَا فِي الدُّنْيَا مَعْرُوفًا وَاتَّبِعْ سَبِيلَ مَنْ أَنَابَ إِلَيَّ ثُمَّ إِلَيَّ مَرْجِعُكُمْ فَأُنَبِّئُكُمْ بِمَا كُنْتُمْ تَعْمَلُونَ
031.015 "But if they strive to make thee join in worship with Me things of which thou hast no knowledge, obey them not; yet bear them company in this life with justice (and consideration), and follow the way of those who turn to me (in love): in the end the return of you all is to Me, and I will tell you the truth (and meaning) of all that ye did."
[31.15] และถ้าเขาทั้งสองบังคับเจ้าให้ตั้งภาคีต่อข้า โดยที่เจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น เจ้าอย่าได้เชื่อฟังปฏิบัติตาม
เขาทั้งสอง และจงอดทนอยู่กับเขาทั้งสองในโลกนี้ด้วยการทำความดี และจงปฏิบัติตามทางของผู้ที่กลับไปสู่ข้า
และยังเรานั้นถือทางกลับของพวกเจ้าดังนั้น ข้าจะบอกแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้

يَا بُنَيَّ إِنَّهَا إِنْ تَكُ مِثْقَالَ حَبَّةٍ مِنْ خَرْدَلٍ فَتَكُنْ فِي صَخْرَةٍ أَوْ فِي السَّمَاوَاتِ أَوْ فِي الأرْضِ يَأْتِ بِهَا اللَّهُ إِنَّ اللَّهَ لَطِيفٌ خَبِيرٌ
031.016 "O my son!" (said Luqman), "If there be (but) the weight of a mustard-seed and it were (hidden) in a rock, or (anywhere) in the heavens or on earth, Allah will bring it forth: for Allah understands the finest mysteries, (and) is well-acquainted (with them).
[31.16] โอ้ลูกเอ๋ย แท้จริง (หากว่าความผิดนั้น) มันจะหนักเท่าเมล็ดผักสักเมล็ดหนึ่ง มันจะซ่อนอยู่ในหินหรืออยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย หรืออยู่ในแผ่นดิน อัลลอฮ์ก็จะทรงนำมันออกมาแท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงรอบรู้ยิ่ง

يَا بُنَيَّ أَقِمِ الصَّلاةَ وَأْمُرْ بِالْمَعْرُوفِ وَانْهَ عَنِ الْمُنْكَرِ وَاصْبِرْ عَلَى مَا أَصَابَكَ إِنَّ ذَلِكَ مِنْ عَزْمِ الأمُورِ
031.017 "O my son! establish regular prayer, enjoin what is just, and forbid what is wrong: and bear with patient constancy whatever betide thee; for this is firmness (of purpose) in (the conduct of) affairs.
[31.17] โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจงใช้กันให้กระทำความดี และจงห้ามปรามกันให้ละเว้นการทำความชั่ว และจงอดทนต่อสิ่งที่ประสบกับเจ้า แท้จริง นั่นคือส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่น มั่นคง

وَلا تُصَعِّرْ خَدَّكَ لِلنَّاسِ وَلا تَمْشِ فِي الأرْضِ مَرَحًا إِنَّ اللَّهَ لا يُحِبُّ كُلَّ مُخْتَالٍ فَخُورٍ
031.018 "And swell not thy cheek (for pride) at men, nor walk in insolence through the earth; for Allah loveth not any arrogant boaster.
[31.18] และเจ้าอย่าหันแก้ม (ใบหน้า) ของเจ้าให้แก่ผู้คนอย่างยะโส และอย่าเดินไปตามแผ่นดินอย่างไร้มรรยาท
แท้จริง อัลลอฮ์ มิทรงชอบทุกผู้หยิ่งจองหอง และผู้คุยโวโอ้อวด

وَاقْصِدْ فِي مَشْيِكَ وَاغْضُضْ مِنْ صَوْتِكَ إِنَّ أَنْكَرَ الأصْوَاتِ لَصَوْتُ الْحَمِيرِ
031.019 "And be moderate in thy pace, and lower thy voice; for the harshest of sounds without doubt is the braying of the ass."
[31.19] และเจ้าจงก้าวเท้าของเจ้าพอประมาณ และจงลดเสียงของเจ้าลงแท้จริง เสียงที่น่าเกลียดยิ่งคือเสียง(ร้อง) ของลา

จะเห็นได้ว่า การเลี้ยงลูกของลุกมาน เป็นแนวทางการปฏิบัติที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ยกตัวอย่างไว้ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน เป็นแบบฉบับที่เป็นอมตะ มีคุณค่า มีประโยชน์ที่ผู้ปกครองทั้งหลายต้องนำไปพิจารณา นอกจากลุกมานจะสั่งสอนลูกๆ ของเขาให้อยู่ในร่องรอยของศาสนาแล้ว ลุกมานสอนให้ลูกๆ กตัญญูต่อบิดามารดา และเป็นคนที่มีมารยาทอันดีงาม หากพิจารณาถึง คำขวัญวันเด็กที่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทยได้ให้ไว้ว่า “คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม” แล้ว จะเห็นได้ว่า หากเด็กๆ ได้ปฏิบัติตามแนวคิดดังกล่าวแล้ว ย่อมแสดงให้เห็นได้ว่า อนาคตของพวกเรา ย่อมมีความสดใสอย่างแน่นอน เด็กๆ จะคิดอย่างสร้างสรรค์ได้นั้น พื้นฐานของพวกเขา ต้องแข็งแกร่ง ดังนั้น ความแข็งแกร่งแห่งอัลอิหม่านของพวกเขา พวกผู้ใหญ่จำเป็นต้องวางรากฐานที่มั่นคงให้กับเขาเหล่านั้น การขยันใฝ่รู้ นั้น ผู้ปกครองต้องวางแนวทางที่ดีให้กับเขา สอนให้เขาทำ ทำให้เขาดู แสวงหาความรู้ให้เขาเห็น แล้วเขาจะเป็นดังที่เราหวัง การเชิดชูคุณธรรม นั้น แน่นอนหากเราปลูกฝังคุณค่าแห่งอาม้าลให้กับเขา แน่นอนเขาย่อมอยู่ในตรรกะแห่งความเป็นมุสลิมที่ดีอย่างแน่นอน ท่านศาสดาทรงมีวจนะไว้ความว่า
"ไม่ใช่พวกเรา ผู้ที่ไม่เมตตาและเอ็นดูเด็กๆ และผู้ที่ไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่" (รายงานโดย อัต-ติรมีซีย์)และอีกฮาดีซหนึ่ง ความว่า "ดุอาอ์สามประเภทที่จะถูกตอบรับโดยไม่เป็นที่สงสัยอีก นั่นคือ ดุอาอ์ของผู้ให้กำเนิด ดุอาอ์ของคนเดินทาง และดุอาอ์ของผู้ถูกอธรรม" (หะดีษ หะสัน : อบู ดาวูด 1313, ดู เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด 1536)
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
วันเวลาที่เปลี่ยนผ่าน มันเป็นสิ่งที่ให้แนวคิดที่สำคัญสำหรับพวกเราทั้งสิ้น มนุษย์ทุกคน มีชีวิตและต้องกระทำกิจกรรมของตนตามความประสงค์ของตน แต่ชีวิตของมุสลิมคนหนึ่งที่เกิดมานั้น นอกจากเราจะแสดงออกถึงความเป็นมนุษย์ ที่ไม่มีอะไรติดมือมาเลย เราแสวงหาปัจจัยต่างๆ ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ให้ริสกีไว้แล้ว หน้าที่ของเราคือ เราต้องกระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม นั่นคือหน้าที่เฉพาะตนในความเป็นมุสลิมของเรา ขณะเดียวกัน การที่เรามีสถานะความเป็นพ่อ แม่ หรือญาติ หรือมีเพื่อนๆ ที่เป็นมุสลิม หน้าที่ของเราที่มีต่อเขาเหล่านั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องตักเตือนเขาเหล่านั้นให้อยู่ในแนวทางที่เที่ยงตรง มิใช่แนวทางของผู้หลงผิด ขณะที่อีกหน้าที่หนึ่งที่เราอาจละเลย นั่นคือหน้าที่ในความเป็นมุสลิมที่จะปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ที่ดีไว้เพื่อวันแห่งการตัดสิน นั่นคือ การดูแลครอบครัวของเราให้อยู่ในแนวทางของศาสนา คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาเหล่านั้น เป็นหน้าที่สำคัญที่จะผลักดัน จูงหรือฉุดกระชากให้เขาๆ เหล่านั้น ต้องหันกลับมาในแนวทางที่พระองค์ทรงเมตตา สังคมในปัจจุบัน เด็กๆ เหล่านี้ มักจะถูกละเลยจากพ่อแม่ พ่อแม่หลายๆ ราย มุ่งแต่ทางด้านวัตถุ ปรนเปรอให้กับเขาเหล่านั้น ในทางปริมาณมากจนเกินความพอดี หลายๆ คนไม่มองถึงคุณภาพของลูกหลาน ในทางด้านอีหม่าน มักจะเติมเต็มคุณภาพเพื่อแนวทางเชิงปริมาณทางด้านวัตถุ ผลที่สุด พวกเขาเหล่านั้น ต่างออกห่างไกลไปจากแนวทางอันเที่ยงตรง หน้าที่สำคัญของผู้ปกครอง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้คนในครอบครัวของเราอยู่ในแนวทางแห่งอัลอิหม่าน ออกห่างไกลจากไฟนรกที่มันจะเผาผลาญพวกเราและคนในครอบครัวเราในวันแห่งการตัดสิน ดังนั้น ไม่ว่าคำขวัญวันเด็ก ทางราชการจะมีคำขวัญอย่างไร แต่หัวใจแห่งผู้ศรัทธา ที่เต็มเปี่ยม จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทบทวนตัวเองว่า เราได้ให้กับพวกเขาเต็มที่แล้วหรือยัง ขอฝาก ฮาดีซนี้ไว้เป็นแง่คิดในรอบสัปดาห์นี้ ความว่า "เมื่อมนุษย์เสียชีวิตลง การงานของเขาก็ตัดขาดเว้นแต่สามอย่างเท่านั้น คือ เศาะดะเกาะฮฺญาริยะฮฺ (การจ่ายทานที่มีประโยชน์ต่อเนื่อง) หรือความรู้ที่ให้ประโยชน์ หรือลูกที่ศอลิห์ที่ขอดุอาอ์ให้แก่เขา" (มุสลิม 3084)
เมื่อเราตายไปแล้ว ทุกสิ่งจบหมด ไม่สามารถที่จะเรียกร้องใดๆ ได้อีก อามั้ลของเราสิ้นสุดลง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกๆ คนสามารถทำให้อามั้ลนั้น ดำเนินต่อไปได้ มีคำวิงวอนเพื่อให้อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ยกโทษให้กับพวกเราได้ และเป็นการลงทุนที่สร้างแต้มต่อได้อย่างไม่ต้องใช้ทรัพย์สินใดมาแลกเปลี่ยน นั่น คือ การขอดุอาร์ของลูกที่ซอและห์ให้กับพ่อแม่ พระองค์ได้ยกตัวอย่างการสอนลูกของท่านลุกมาน ดังนั้น จึงขอให้ตัวกระผมเอง และท่านทั้งหลาย จงตรวจสอบตนเองดูก่อนว่า วันนี้ เราให้อะไรให้กับลูกๆ ของเราบ้าง จงทบทวนตนเอง และกระทำในสิ่งที่เราได้กระทำบกพร่องเพื่อให้สิ่งนั้น เป็นผลลัพธ์ที่ดีต่อเราและเด็กๆ เหล่านั้นในอนาคต

رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ

ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ
อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย : ออนไลน์ โดยคุณลาภลอย วานิชอังกูร
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (http://www.beconvinced.com/

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ท่องเที่ยวทั่วไทย ไปแล้วต้องรักษาอิหม่าน

มิมบัรออนไลน์
คุตบะห์วันศุกร์ 15 มุฮัรรอม 1431 (วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 )

ท่องเที่ยวทั่วไทย ไปแล้วต้องรักษาอิหม่าน

มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงอภิบาลโลกทั้งหลาย
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย
กระผมขอเตือนตนเองและท่านทั้งหลาย จงยึดมั่น ศรัทธา และยึดเหนี่ยวรั้งการอีหม่านศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) และปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ ละทิ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม อยู่ในแนวทางแห่งอัลอีหม่าน ตามกิตาบุ้ลลอฮ์และซุนนะห์ของท่านศาสดา ซึ่งหากการปฏิบัติตนของเราอยู่ในแนวทาง ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ (อัลอิคลาส) แล้ว แน่นอนบั้นปลายของพวกเรา จะได้ใกล้ชิดกับพระองค์ในโลกอาคิเราะห์ที่ทุกคนจะประสบกับมันด้วยกันทั้งสิ้น
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย
หากเราพิจารณาถึงการเดินทางไม่ว่าจะโดยตัวศัพท์ของมัน หรือพิจารณาถึงสภาพแห่งการเคลื่อนที่ นั้น เราจะมองเห็นสิ่งต่างๆในภูมิประเทศรอบๆ ข้างขณะการเดินทาง โดยที่สิ่งที่ผ่านสายตาของเรา ตลอดเส้นทาง เป็นสิ่งที่ถูกสร้าง การดำเนินชีวิตประจำวันของมัน อาจคงสภาพอย่างที่เราเห็น หรือมีการเปลี่ยนสภาพไปจากสิ่งที่เราเห็น โดยใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของสิ่งที่ถูกสร้าง มนุษย์เอง เมื่อเวลาผ่านไป มนุษย์ใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมากเพื่อการดำรงชีพในแต่ละวัน การแสวงหาปัจจัยต่างๆ เพื่อการดำรงชีวิตประจำวัน เป็นหน้าที่ที่สำคัญของมนุษย์ การแสวงหาปัจจัยดังกล่าว แน่นอนว่ามนุษย์จะต้องใช้กำลัง ทั้งสติปัญญา กำลังกาย เพื่อให้ได้ปัจจัยดังกล่าวมาเพื่อการดำรงชีวิตทั้งสิ้น การเดินทางไปในที่ต่างๆ หากเราตั้งข้อสังเกตกับสิ่งที่เราเห็น จะพบว่า สภาพต่างๆ ที่เราเห็นนั้น มันจะมีความเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาซึ่งบางสิ่งใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก แต่อีกบางสิ่งก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน หากพิจารณาถึงความต้องการตามหลักอุปสงค์และอุปทานแล้ว อาจกล่าวได้ว่ามนุษย์ มีความต้องการที่ไม่มีขีดจำกัด ขณะที่ทรัพยากรมีอย่างจำกัด นั่นคือจุดที่เหมาะสมแล้ว ต้องจำกัดความต้องการของมนุษย์ เพื่อรักษาสภาพความสมดุลแห่งทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการบริหารและการจัดการความพอเพียง เพื่อให้สังคมมีความสุข หากพิจารณาถึงโองการในซูเราะห์ อาลิอิมรอน อายะห์ที่ 3 ความว่า
اللَّهُ لا إِلَهَ إِلا هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ
[3.2] อัลลอฮ์นั้นคือ ไม่มีผู้ที่เป็นที่เคารพสักการะใดๆนอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงมีชีวิตอยู่เสมอ (ไม่มีกาล
อวสาน) ผู้ทรงบริหารกิจการทั้งหลายเป็นเนืองนิจ (ในสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างและทรงบังเกิด)
ดังนั้น การเดินทางเพื่อเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เราจึงควรเก็บแง่คิดที่ดีไว้ เพราะทุกๆ สิ่งนั้น ย่อมมีจุดกำเนิดของมัน และแน่นอนว่า พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) คือผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย เป็นผู้บริหารกิจการต่างๆ โดยตลอด และพระองค์ คือ ผู้ที่จะตอบแทนการกระทำของสรรพสิ่งทั้งหลายเช่นกัน

การดำเนินชีวิตของมนุษย์ จะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน หลายๆ คนอาจมีมุมมองที่แตกต่างกัน หากเปรียบเทียบถึงการเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยวสักแห่งหนึ่ง เราคงจะมีคำตอบได้ว่า จุดมุ่งหมายของการเดินทางอยู่ที่ใด การเตรียมการเพื่อที่จะเดินทางไปถึง ขั้นตอนแรก ต้องมีการวางแผนการเดินทาง การวางแผนการดำเนินชีวิตในระหว่างการเดินทาง คนขับรถ ก็ต้องพิจารณาว่า จะหยุดพักระหว่างทางที่ใด จะแวะซื้อของ หรือพักรับประทานอาหารที่ใด ต้องเตรียมแผนที่สำหรับการเดินทาง หากเขาเหล่านั้น เป็นกลุ่มยะมาอะห์มุสลิมที่ร่วมเดินทางกัน ในระหว่างทาง อาจต้องมองหาร้านอาหารฮาล้าล ที่หยุดพักที่มีสถานที่ที่สามารถทำการละหมาดรวม-ย่อ สำหรับผู้เดินทาง แต่หลายๆ กลุ่ม อาจมองข้ามแนวทางแห่งอัลอิหม่าน ไม่ได้มองถึงสิ่งนี้เลย เมื่อถึงจุดหมาย การดำเนินชีวิต ณ ที่แห่งนั้น การเลือกที่อยู่ ที่กิน ที่สำหรับการท่องเที่ยว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงความสุขที่เราจะได้รับ ขณะที่หลายๆ กลุ่ม หลายๆ คน ต่างก็แย่งชิงกัน เพื่อให้ได้รับอรรถรสแห่งการท่องเที่ยว ในแง่ของการดำเนินชีวิตก็เช่นเดียวกัน การปล่อยปละละเลยแง่คิดที่ดีของการดำรงตนให้อยู่ในร่องรอยของศาสนา เราต้องมีทิศทางในการดำเนินชีวิต เช่นเดียวกับการที่นักท่องเที่ยวแสวงหาหนทางในการเดินทางด้วยการใช้แผนที่ในการเดินทาง ทิศทางของผู้ศรัทธา แตกต่างจากทิศทางของคนที่ศรัทธาน้อย หรือคนที่ไม่ศรัทธา ดังนั้น หากพิจารณาจากโองการจากอัลกุรอ่าน ซูเราะห์ อัลอิสรออ์ ความว่า

017.018 مَنْ كَانَ يُرِيدُ الْعَاجِلَةَ عَجَّلْنَا لَهُ فِيهَا مَا نَشَاءُ لِمَنْ نُرِيدُ ثُمَّ جَعَلْنَا لَهُ جَهَنَّمَ يَصْلاهَا مَذْمُومًا مَدْحُورًا
[17.18] ผู้ใดปรารถนาชีวิตชั่วคราว (ในโลกนี้) เราก็จะเร่งให้เขาได้รับมันตามที่เราประสงค์แก่ผู้ที่เราปรารถนา
แล้วเราได้เตรียมนรกไว้สำหรับเขา เขาจะเข้าไปอย่างถูกเหยียดหยามถูกขับไส

017.019 وَمَنْ أَرَادَ الآخِرَةَ وَسَعَى لَهَا سَعْيَهَا وَهُوَ مُؤْمِنٌ فَأُولَئِكَ كَانَ سَعْيُهُمْ مَشْكُورًا
[17.19] และผู้ใดปรารถนาปรโลก และขวนขวายเพื่อมันอย่างจริงจัง โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธาชนเหล่านั้น การ
ขวนขวายของพวกเขาจะได้รับการชมเชย

017.020 كُلا نُمِدُّ هَؤُلاءِ وَهَؤُلاءِ مِنْ عَطَاءِ رَبِّكَ وَمَا كَانَ عَطَاءُ رَبِّكَ مَحْظُورًا
[17.20] ทั้งหมด เราช่วยเขาเหล่านี้และเขาเหล่าโน้น จากการประทานให้ของพระเจ้าของเจ้า และการประทานให้ของพระเจ้าของเจ้านั้นมิถูกห้าม (แก่ผู้ใด)

017.021 انْظُرْ كَيْفَ فَضَّلْنَا بَعْضَهُمْ عَلَى بَعْضٍ وَلَلآخِرَةُ أَكْبَرُ دَرَجَاتٍ وَأَكْبَرُ تَفْضِيلا
[17.21] จงดูเถิด! เราได้ทำให้บางคนในหมู่พวกเขาดีเด่นกว่าอีกบางคนอย่างไร? และแน่นอนปรโลกนั้นมี
ฐานะยิ่งใหญ่กว่าหลายชั้น และยิ่งใหญ่กว่าในทางดีเด่น

การแสวงหาของมนุษย์ เพื่อที่เขาเหล่านั้นจะได้พบกับความสุขที่เขาจะได้รับ เป็นความสุขที่ทุกๆ คนมุ่งหวังอยากได้ อยากเป็น เป็นสิ่งที่ทุกๆ คน ตั้งใจหวังเอาไว้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ หาใช่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความสำเร็จหรือหลักชัยแห่งพระองค์ไม่ การเดินทางเพียงเพื่อที่เราจะได้รับความสุขความสมหวัง เมื่อหนทางแห่งการเดินทางเราพบความสุขด้วยความปลอดภัย ตลอดการเดินทาง เป็นการพักผ่อนจากอิริยาบถแห่งการทำงาน เพื่อที่จะได้เริ่มต้นกับงานที่เคร่งเครียดในรอบปีถัดไป บางครั้งอาจมีมุมมองเพิ่มเติมว่า การที่ได้ไปเที่ยวในทริปนี้ อาจเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ไปสถานที่แห่งนั้น ในปีต่อๆ ไป ทริปแห่งการเดินทาง เป็นการทดสอบจิตใจ ความเข้มแข็ง สุขภาพ ความแข็งแรงของร่างกาย ความอดทนต่อสภาพอากาศ ความหิว ความกระหาย ความยุ่งยากต่างๆ นา หากเป็นกลุ่มยะมาอะห์แห่งอัลอิหม่าน ก็ต้องทดสอบการรักษาอะมานะห์แห่งการละหมาด และอื่นๆ อีกด้วย ดังนั้น อาจต้องแสวงหาสถานที่แห่งใหม่ ที่จะได้พบกับความสุข ความรื่นรมย์ และธรรมชาติที่สวยสง่า เพื่อให้การพักผ่อนหย่อนใจมีชีวิตชีวา มากยิ่งขึ้น แต่การเดินทางจากโลกดุนยาไปสู่อาคิเราะห์ เราต้องประสบกับการทดสอบต่างๆ จากพระองค์ ทดสอบด้วยอีหม่าน ทดสอบด้วยข้อสอบในทุกๆ สภาพ เพื่อที่เราจะได้มีความแข็งแกร่งต่อการดำเนินชีวิตของเรา บางครอบครัวอาจถูกทดสอบด้วยทรัพย์สิน บางครอบครัวอาจถูกทดสอบด้วยลูกหลาน และบางครอบครัวอาจถูกทดสอบด้วยฟิตนะห์ อย่างไรก็ตาม ความอดทน (ขันติ – ซอบัร) คือแนวทางการยอมรับการทอสอบต่างๆ เหล่านั้น เพื่อที่เราจะรักษาอิหม่านของเรา ให้อยู่ในแนวทางที่พระองค์ให้การรับรอง บางครั้ง การทดสอบจากพระองค์ อาจเป็นการทดสอบอิหม่าน เพื่อที่จะให้เราได้มองเห็นสภาพต่างๆ ทางสังคม แต่นั่นคือสิ่งที่พระองค์จะทรงนี้แนะให้เราได้เห็นได้ประจักษ์ จากการรับรู้ด้วยสติปัญญาของเราเอง ที่จะได้เห็นเพื่อที่เราจะมีคำตอบสุดท้ายได้ว่า สิ่งที่ดีที่สุดแห่งชีวิตของผู้ศรัทธา นั่นคือ การที่เราได้เกิดมาเป็นมุสลิม และมีศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) และสุดท้ายแห่งชีวิตนั่นคือ การพักผ่อนและการพักผ่อนที่ดีที่สุด คือชีวิตในหลุมฝังศพ จากโองการในซูเราะห์อาลิอิมรอน อายะห์ที่ 185 ความว่า

003.185 كُلُّ نَفْسٍ ذَائِقَةُ الْمَوْتِ وَإِنَّمَا تُوَفَّوْنَ أُجُورَكُمْ يَوْمَ الْقِيَامَةِ فَمَنْ زُحْزِحَ عَنِ النَّارِ وَأُدْخِلَ الْجَنَّةَ فَقَدْ فَازَ وَمَا الْحَيَاةُ الدُّنْيَا إِلا مَتَاعُ الْغُرُورِ
[3.185] แต่ละชีวิตนั้น จะได้ลิ้มรสแห่งความตาย และแท้จริงที่พวกเจ้าจะได้รับรางวัลของพวกเจ้าโดยครบถ้วน
นั้น คือวันปรโลก แล้วผู้ใดที่ถูกให้ห่างไกลจากไฟนรก และถูกให้เข้าสวรรค์แล้วไซร้ แน่นอน เขาก็ชนะแล้ว
และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้นั้นมิใช่อะไรอื่นนอกจากสิ่งอำนวยประโยชน์แห่งการหลอกลวงเท่านั้น
โดยแน่แท้ของผู้ศรัทธา เราจึงต้องหันมามองถึงบทบาทของเราในปัจจุบันได้ว่า เรามีวิธีคิดเพื่อที่จะรักษาอัลอิหม่านของเราไว้ได้อย่างไร การเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจนั้น เราอาจมีการตระเตรียมการต่างๆ ให้พร้อม มีแผนการที่ชัดเจน แผนฉุกเฉินสำรอง เพื่อที่จะเป็นทางออกสำหรับการเดินทาง เพื่อที่เราจะได้รับประโยชน์สูงสุดแห่งการเดินทาง เป็นการแสวงหาความสุข ในระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้มีความพร้อมที่จะดำเนินชีวิตต่อในอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่แผนการสำหรับชีวิตเราจึงต้องมุ่งมั่นที่จะให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด แม้พระองค์จะทรงรับรองว่า ผู้ที่ดีที่สุดในบรรดาประชาชาติทั้งหลายคือมุสลิม หากแต่เมื่อเราเกิดมาเป็นมุสลิม เราจึงควรเป็นมุสลิมที่ดีที่สุด เราจึงควรเตรียมแผนของชีวิตไว้ในทุกๆ วัน การรักษาอัลอีหม่าน ของตัวเราเอง ครอบครัวของเรา และเตรียมแผนสำหรับการการพักผ่อน ที่จะมีมาถึงของแต่ละคน บางคนก็ได้ไปพักผ่อนในสถานที่ของพวกเขา เร็ว แต่บางคนก็ไปถึงช้า และบางคนไปถึงจุดนั้น อย่างกะทันหัน จึงควรเตรียมการสำหรับสิ่งนี้ ด้วยความพร้อมของเรา ซึ่งการดำเนินชีวิตของเรา จะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนเราต้องมีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ ก่อนจากกันในคุตบะห์นี้ ขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้จงพิจารณา ฮาดีสของท่านศาสดา ดังนี้

Allah's Messenger (peace be upon him) said: The most excellent fast after Ramadan is God's month, al-Muharram, and the most excellent prayer after what is prescribed is prayer during the night.

เรื่องเวลา เป็นสิ่งที่ต้องต้องนำมาพิจารณา ถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในแต่ละวัน และในแต่ละเดือน ช่วงเวลาอย่างนี้เป็นช่วงที่มีคุณค่า เป็นช่วงเวลาที่พระองค์จะทรงรับการขอดุอาร์ของเรา สำหรับคนทั่วๆ ไป นั่น คือ ช่วงที่ผู้ที่ถือศีลอด ละศีลอดในเดือนร่อมาดอล และในเดือนมุฮัรรอม และในช่วงท้ายๆ ของแต่ละคืนหลังจากการละหมาดในยามค่ำคืน อีกประการหนึ่งสำหรับคนที่เดินทาง ขณะที่เขาเดินทาง พระองค์จะทรงรับดุอาร์ของผู้เดินทาง ดังนั้น หากเราเป็นผู้เดินทาง เช่น การเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยว สิ่งที่ดีที่สุด คือ การรักษาช่วงเวลาของการละหมาด ย่อ – รวม การขอดุอาร์ การรักษาการละหมาดในยามค่ำคืน เพราะไม่มีช่วงเวลาที่ดีกว่านี้อีกแล้ว หากเราไม่ได้มีการเดินทาง จึงขอให้เราทั้งหลายจงไตร่ตรองและนำไปพิจารณา เพื่อรักษาอิหม่านของเรา เพื่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.)

ร้อบบ่านา อาตินา ฟิรดุนยา หะซะนะ ว่าฟิ้ลอาคิเราะติ หะซะนะ ว่ากิ้นาอ้าซาบันนาร
ว่าบิ้ลลาฮิเตาฟีก วั้ลฮิดายะห์
วัสสลาม
มูฮำหมัด สันประเสริฐ
อ้างอิง
Text Copied from DivineIslam's Qur'an Viewer software v2.9
อัลกุรอ่านฉบับภาษาไทย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ดำเนินการจัดพิมพ์โดยกระทรวงกิจการฮัจย์ แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาเบีย : ออนไลน์ โดยคุณลาภลอย วานิชอังกูร
อัลฮาดีซ : Hadith of The Day V 1.0 Freeware by FaridAnasri avater@muslimonline.com (http://www.beconvinced.com/)